ครูสาวอัตราจ้าง จ.ชุมพร ร้อง ปปช. ถูกหลอกสวมชื่อรับเงินเดือน

ครูอัตราจ้าง จ.ชุมพร เดือนร้อนหนัก ถูกหลอกสวมชื่อรับเงินเดือนแทนอาจารย์ที่ลาออกไปแล้วนานนับปี หอบหลักฐานเข้าร้องเรียน ปปช. ให้รีบตรวจสอบ

วันที่ 18 ม.ค. 2562  น.ส.วลัยลักษณ์ ล้านเกตุบุตร อายุ 26 ปี อดีตครูอัตราจ้างโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ใน จ.ชุมพร นำเอกสารหลักฐานเข้าพบนายสมนึก จีนชาวนา พนักงานไต่สวนระดับต้น สำนักงาน ปปช.ประจำ จ.ชุมพร หลังถูกผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งนำชื่อไปสวมสิทธิ์รับเงินเดือถนนานนับปี

น.ส.วลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ทำสัญญาจ้างเป็นครูให้กับโรงเรียนแห่งนี้ในระดับประถมวัย เมื่อเดือน พ.ค. 2560 ได้รับเงินจ้างเดือนละ 6,000 บาท เป็นงบประมาณของโรงเรียน ต่อมาในเดือน พ.ค. 2561 มีครูอัตราจ้างงบประมาณของ อบจ.ชุมพร ลาออก ผู้อำนวยการเรียกได้เรียกน.ส.วลัยลักษณ์ไปพบแล้วบอกว่าจะจ้างสอนต่อแทนครูที่ลาออก โดยใช้งบของของ อบจ.ชุมพร ค่าจ้างในอัตราเดือนละ 11,500 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าจะจ่ายเงินเงินเดือนให้ 6,000 บาท โดยอ้างว่าหากเกิดกรณีถูกเรียกเงินคืนจะได้มีเงินไว้คืน อบจ.

จากนั้นเดือน มิ ย.61 ผู้อำนวยการโรงเรียนให้เธอไปรับเช็คเงินสด 11,500 บาท ฝ่ายการเงินแจ้งให้โอนเงินกลับเข้าบัญชีส่วนตัวฝ่ายการเงิน 5,500บาท จึงเกิดความสงสัย แต่เมื่อสอบถามไปทางผู้อำนวยการ ได้รับคำตอบว่าให้ปฏิบัติไปตามนั้น เมื่อไปขอตรวจเอกสารทางการเงินจาก อบจ. พบว่าชื่อของครูที่ลาออกนั้นยังคงมีรายชื่อเป็นครูอัตราจ้างอยู่ อีกทั้งยังมีลายเซ็นรับเงินเดือนมาโดยตลอด ขณะที่ครูที่ลาออกไปแล้วยืนยันว่าไม่เคยได้รับเงินตั้งแต่ลาออก แต่ก่อนที่จะลาออกได้มีการขอเอกสาร บัตร ปชช.ไว้หลายชุด

นอกจากนี้ ผอ.คนนี้ยังมีพฤติกรรมในการทุจริต อีกหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการเก็บเงินอาหารกลางวันเด็ก โดยอ้างว่าเป็นค่าอาหารว่างแต่มีเพียงน้ำแดง1แก้ว ขนมปังปี๊ป 1 ชิ้น การจัดจ้าง จนท.ธุรการ ที่เอาคนสนิทเข้ามา โดยไม่มีการเปิดรับสมัครตามระเบียบทางราชการ การปล่อยให้ครูที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูสอนใน รร. อีกทั้งยังสร้างความแตกแยกในกลุ่มครูอีกด้วย

เบื้องต้น ปปช.ประจำ จ.ชุมพร ได้รับเรื่องไว้เพื่อไต่สวนตามกฏหมาย ปปช.และจะได้ดำเนินการ ตามคำร้องต่อไป โดยเรื่องดังกล่าว ไม่ต้องแจ้งความกับ ตร.ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องแล้ว เพราะกฏหมายให้อำนาจ ปปช.ไว้สามารถดำเนินการไต่สวนการกระทำอันเป็นทุจริตและ ดำเนินการตามกฏหมาย ปปช.ได้ทันที