Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สหรัฐอเมริกามีการเปิดคูหาเลือกตั้งกลางเทอมทั่วประเทศเมื่อวันวานนี้(อังคารที่ 6 พ.ย.) ที่ผ่านมา ซึ่งจะปิดหีบในเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (หรือ เวลา 6 โมง เช้านี้) การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการชี้วัดว่า พรรครีพับลิกันฝ่ายรัฐบาลของนายทรัมป์ จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรสต่อหรือไม่ รวมถึง จะเป็นชี้วัดด้วยว่าชาวอเมริกันต้องการการเมืองรูปแบบใดในอีก 2 ปีข้างหน้า

วันที่ 7 พ.ย.2561 การเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเปรียบเสมือนการลงประชามติว่าที่ผ่านมาชาวอเมริกันพอใจผลงานในช่วง 2 ปีแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หรือไม่ โดยครั้งนี้ก็มีผู้สนใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากเป็นประวัติการณ์ ชาวอเมริกันราว 34.3 ล้านคน ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า มากกว่าการเลือกตั้งกลางเทอมเมื่อครั้งที่แล้วในสมัยนายโอบามาในปี 2014 ซึ่งมีแค่ 27.5 ล้านคน

ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด พบว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่จะลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต ( ฝ่ายค้าน) มากกว่าพรรครีพับลิกันที่เป็นฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากนโยบายด้านปัญหาความไม่เท่าเทียมทางเพศของพรรคฝ่ายค้าน และนโยบายด้านสาธารณสุขที่ต่อยอดมาจากสมัยที่แล้ว ผลสำรวจทั่วไปคาดว่าพรรคเดโมแครต(ฝ่ายค้าน) อาจจะทวงเสียงข้างมากในสภาล่าง( สส.)ได้ แต่ด้านนโยบายของนายทรัมป์ ที่รุกหนักเรื่อง การทำเพื่อคนอเมริกัน ” America First” รวมทั้งทิศทางของเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นใน 2 ปีนี้ มีอัตราค่าจ้างงานที่เพิ่มสูงขึ้น บวกกับอัตราการว่างงานที่ลดลง รวมถึงปัญหาภายในเรื่องกฎหมายอาวุธปืน น่าจะทำให้พรรคของเขายังสามารถครองเก้าอี้ในส่วนของ วุฒิสภา เอาไว้ได้

ขณะเดียวกันพรรคของนายทรัมป์ ก็ใช้ความกลัวมาเป็นประเด็นหาเสียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานของชาวผิวขาวที่จะไปอยู่ที่แรงงานอพยพผิดกฎหมายราคาถูก ที่หลบหนีเข้ามาแย่งงาน จนสภาผ่านร่างกฎหมายสร้างกำแพงกั้นชายแดนแล้ว อีกทั้งการค้าแบบไม่เป็นธรรมของจีน ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินหยวนที่อ่อนเกินจริง, การขโมยลิขสิทธิ์ทางปัญญา เปรียบเทียบกับช่วงช่วงโอบามานั้น เศรษฐกิจไปกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมแบบใหม่ โดยเฉพาะเขตคนเมือง ซึ่งละทิ้งคนผิวขาวจำนวนมากทางตอนกลางของประเทศที่อยู่กับพลังงานแบบเก่า เช่น เหมืองถ่านหิน โรงงานถลุงเหล็กทำราคาสู้ราคาในโรงงานใหม่ๆ ของต่างประเทศไม่ได้ ส่งผลให้พวกเขาตกงาน หรือรายได้ลดลงไปมาก รวมไปถึงเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับโลกก็ล้มละลายจนเป็นเมืองร้าง ทำให้คนผิวขาวเหล่านี้เปลี่ยนใจจากที่เคยโหวตให้พรรคเดโมแครต มาลงคะแนนให้ ทรัมป์ เพื่อลองของใหม่ที่ไม่ใช่แบบนักการเมืองแบบเก่าๆ

นักวิเคราะห์หลายคนในสหรัฐฯ คาดเดาว่าที่ผ่านมาส่วนใหญ่พรรคของประธานาธิบดีนั้นๆ มักจะเสียที่นั่งในสภาจากการเลือกตั้งกลางเทอม เมื่อไหร่ก็ตามที่คะแนนนิยมในตัวของประธานาธิบดีคนนั้นๆต่ำกว่า 50% ซึ่งล่าสุดคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีทรัมป์อยู่ที่ 43%


ทั้งนี้ การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯจะมีขึ้น หลังจาก 2 ปีของการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีที่ก่อนจะครบวาระ4 ปี เพื่อให้ประชาชนได้เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 435 ที่นั่ง, สมาชิกวุฒิสภา 35 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่ง (1 ใน 3) และ ผู้ว่าการรัฐใน 36 รัฐจาก 50 รัฐ

สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ หรือ midterm election หมายถึง การเลือกตั้งในช่วงครึ่งวาระของการดำงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งไม่เพียงแค่จะมีการเปลี่ยนสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทั้ง 435 คนเท่านั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ยังรวมไปถึง 33 วุฒิสภาสหรัฐ ผู้ว่าการรัฐจากอีก 36 รัฐ และสภาในระดับท้องถิ่นของหลายรัฐด้วย

ปัจจุบันนั้น พรรครีพับลิกกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาสหรัฐ จึงส่งผลดีต่อการดำเนินนโยบายต่างภายใต้คณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า