จู่โจมค้นห้องพักคนงานโรงงานดัง มั่วสุมยา แถมแอบซุกยาในปลั๊กไฟ

ประเด็นคือ – ปฏิบัติการจู่โจมค้นห้องพักคนงานโรงงานดัง มั่วสุมยา แถมแอบซุกยาในปลั๊กไฟ แต่ไม่รอดพ้นสายตาเจ้าหน้าที่

วันที่ 1 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ห้องพักคนงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.อ.ปิยะเชษฐ์ หนูฉ้ง สำนักการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ร่วมกับ ร.อ.ธงชัย ชัยรักษ์ หน.ชุด ตข.3 ขกท.กกล.เทพสตรี พร้อมกำลัง นำชี้เป้าในการจับกุม พร้อมกันนี้ได้มีการผสมกำลังร่วมกับ นายประยูร สิตพงศ์ ผบ.ร้อย อส.จ.สตูล เจ้าหน้าที่ทหารเรือ ทัพเรือภาค 3, เจ้าหน้าที่ชุด ชปข 203 (ลับ) ศปก.ทภ.4 และ กก.สส.3 บก.สส.ภ.9  รวมกว่า 20 นาย

โดยเข้าปิดล้อมห้องพักหมายเลข 1 พบผู้ต้องหา 4 คน อยู่ภายในห้อง ทราบชื่อ นายจันทร์ ตรงด่านกลาง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/4 หมู่ 4 ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เจ้าของห้อง, นายศุภโชค ปังหลีเส็น อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 261 หมู่ 2 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล, นายฟาริด และบี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 11 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล และนายทัศนะ ปุสวิโร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 181 หมุ่ 11 ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล ทั้ง 4 เป็นคนงานโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก พบยาบ้าจำนวน 8 เม็ด บรรจุอยู่ภายในหลอดกาแฟ 2 ชุด ซุกซ่อนอยู่ใต้เสื่อ หลังจากค้นตัวและโดยรอบบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่พบยาเสพติดเพิ่ม จึงได้ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ควบคุมตัวไว้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต่างเร่งสำรวจทุกจุดทั้งบนคานหลังคาบ้าน เหลือเพียงปลั๊กไฟฟ้าในห้องครัว จึงได้ทำการแกะกล่องปลั๊กไฟฟ้าที่มีไฟอยู่ และต้องผงะเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบยาบ้าเพิ่ม บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้าซุกอยู่ในปลั๊กไฟ รวมทั้งหมดที่ค้นเจอวันนี้รวมแล้ว 47 เม็ด แต่ผู้ต้องหายังไม่มีใครรับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อเสพและจำหน่าย

ก่อนค้นห้องพักติดกัน พบน้ำกระท่อมที่ผ่านการต้มแล้ว (ยังร้อนอยู่) ตั้งอยู่บนเตาแก๊ส ยาแก้ไอ 1 ขวด แช่อยู่ในกะละมังในน้ำแข็ง และพบใบพืชกระท่อมก้านแดงอยู่ประมาณครึ่งกิโลกรัม  แต่ไม่มีใครอยู่ภายในห้องแม้แต่คนเดียว เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปแล้ว ทราบภายหลังว่าเจ้าของห้องชื่อแจ็ค ไม่ทราบนามสกุล จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ก่อนสืบหาเจ้าของต่อไป