Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ภาพ : ภานุมาศ สงวนวงษ์

ธีรยุทธ บุญมี กลับมาครั้งแรกรอบ 4 ปี มองสังคมไทยเหลื่อมล้ำขนาดหนักกลุ่มทุนผูกขาดทุกด้าน ขณะที่ คสช.หวังสืบทอดอำนาจเพราะมองทหารคุมการเมืองนิ่ง กลุ่มทุนเติบโต คือคำตอบเศรษฐกิจไทย ชี้สารพัดโครงการแจกคนจน-ข้าราชการ กำลังจะซ้ำรอย “ทักษิณ” ประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเป็นรัฐบาล

วันที่ 10 ธ.ค. ศ.ธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระและอดีตผู้นำนักศึกษาเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 กล่าวปาฐกถา 45 ปี 14 ตุลา ครั้งที่ 4 “มองประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ปัญหาที่ใหญ่กว่าวิกฤติการเมือง” ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16

ภาพ : ภานุมาศ สงวนวงษ์

โดย ศ.ธีรยุทธ กล่าวว่า ว่างเว้นจากการวิพากษ์การเมืองไป 4 ปีเต็มในช่วง คสช. ในครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญเหมือนกับหัวข้อที่กำหนด คือรู้สึกว่าสังคมไทยติดกับการมองปัญหาอยู่ที่การเมือง วิกฤตการเมือง และตัวบุคคล มองข้ามสิ่งที่เป็นพื้นฐานกว่า เกือบ 20 ปีที่คนไทยหมกมุ่นกับปัญหาการเมือง จนปล่อยให้กลไกทางเศรษฐกิจสังคมเดินหน้าโดยไม่ได้ปรับทิศทางจนปัญหาเพิ่มพูนไป เช่น ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ, คุณภาพการศึกษาทุกระดับลดลงไปอย่างน่าใจหาย, การคอร์รัปชั่นขยายตัวสู่รากหญ้า, กลุ่มทุนขนาดใหญ่แข็งแกร่งจนคล้ายมีอำนาจเหนือรัฐบาลและกฎหมาย

กลุ่มทุนใหญ่ไทยสามารถขยายอำนาจอิทธิพลผูกขาดทางเศรษฐกิจได้อย่างเกือบเด็ดขาด และขยายมาสู่อิทธิพลด้านอื่นๆ ขยายตัวเข้าคุมทุกมิติของเศรษฐกิจและทุกจังหวะชีวิตประจำวันของคนไทย คนไทยคล้ายกับการเลี้ยงไก่หรือหมูที่รอถูกเชือด ถูกป้อนอาหารตามเวลา ทั้งวันเรากินอาหารร้านสะดวกซื้อ รวมทั้ง จ่ายเงินค่าน้ำ ค่าไฟ คนไทยอนาคตจะเป็น “คนไทยซีพี” เป็นปัญหาใหญ่กว่าวิกฤติการเมืองชัดเจน

ด้านเศรษฐกิจ นโยบาย 4.0 ของรัฐบาลประยุทธ์ มีข้อดีกระตุ้นให้ภาคธุรกิจและสังค ตื่นตัวและปรับตัว แต่ไม่มีการปรับกระบวนทัศน์ใหม่ มองเทคโนโลยี 4.0 แค่เครื่องมือใช้สอย สักแต่ให้โครงการเกิด ทรัพยากรบุคคล นวัตกรรม การค้นคว้าวิจัย ระบบการผลิต ระบบอัตโนมัติ ล้วนอยู่ในขั้นต่ำทั้งสิ้น รัฐบาลไม่ควรจะทำเฉพาะทุ่มเทสุดตัวให้ 4.0 ควรจะพัฒนาด้านอื่นให้เป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนด้วยการเฉลี่ยเป้าหมายอย่างสร้างสรร เช่น ด้านเศรษฐกิจบริการ ผลิตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เทคโนโลยีเฉพาะ ที่นำสิ่งอื่นมาทดแทนได้ยาก

ศ.ธีรยุทธ ยกตัวอย่าง เช่น อุตสาหกรรมวัฒนธรรม อาหาร แฟชั่น, ด้านสุขภาพ การแพทย์ , สร้างพื้นที่การท่องเที่ยวแบบใหม่, การยกระดับบุคลากรให้เป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพของอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม เขาเห็นว่า การที่รัฐบาลประยุทธ์ทุ่มเทงบประมาณ 5-6 ล้านล้านบาทบาทสนับสนุนกลุ่มธุรกิจใหญ่อย่างเต็มที่ ควรจะทุ่มเทแบบเดียวกันหรือสักครึ่งหนึ่งให้กับธุรกิจซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศมากกว่าหรือไม่

ด้านสังคม เขาเสนอให้รัฐบาลประยุทธ์หรือรัฐบาลหน้า ใช้แนวทางปฏิรูปแบกะดิน เช่น บริหารจัดการเมือง, การเชื่อมโยงระบบขนส่ง รถไฟทางคู่, การดึงน้ำจากแม่น้ำโขงมากระจายทั่วภาคอีสาน, การแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษา ระดมบุคลกรและทุกภาคส่วน คิดเชิงยุทธศาสตร์เลือกที่จำเป็นลงมือปฏิบัติจากจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดและขยายตัวต่อจากจุดนั้น มากกว่าตั้งคณะกรรมการและได้เพียงรายงานหลายพันหน้า

ด้านการเมือง ศ.ธีรยุทธ กล่าวว่า คสช. ตั้งใจสืบทอดอำนาจมานานแล้ว ตั้งแต่ล้มรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์มาเป็นร่างฉบับมีชัย ให้พรรคการเมืองมีสิทธิเสนอชื่อคนนอกที่ไม่ใช่ ส.ส. หรือปาร์ตี้ลิสต์ เพิ่มทั้งจำนวนและอำนาจ ส.ว. ตั้งโดยทหาร 250 คน มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี การดึงกลุ่มการเมือง “ยี้” “มาร” มารวมเป็นพรรคพลังประชารัฐโดยไม่กังวลเสียงวิจารณ์ เป็นการการันตีเกือบ 100% ว่าพลเอกประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป

เขาเห็นว่า ถ้าจะหาคำอธิบายซึ่งไม่ใช่ว่าเพราะทหารอยากอยู่ในอำนาจ อยากมีผลประโยชน์แล้ว คือการมุ่งไปที่การทำให้การเมืองอ่อนแอ สังคม ชุมชนอ่อนแอ ไม่ออกมาคัดค้านเสรีภาพของกลุ่มธุรกิจ เพราะความเชื่อว่าถ้าทหารกำกับการเมืองให้มั่นคง ไม่สนใจการกระจายอำนาจเน้นความเป็นเอกภาพและความเข้มแข็งของรัฐ แล้วปล่อยให้กลุ่มธุรกิจอิทธิพลใหญ่มีเสรีภาพในการขยายธุรกิจเต็มที่ไม่ต้องไปสกัดกั้น ก็พอเพียงที่ทำให้ประเทศมั่นคง เศรษฐกิจก้าวหน้าไปได้ การเมืองไทยอนาคตจึงจะเป็นประชาธิปไตยอิทธิพล ของทหาร ข้าราชการ ชนชั้นนำทางความคิด และกลุ่มทุนใหญ่ ซึ่งมีโอกาสพัฒนาเป็นการเมืองใต้เงื้อมมือทุนอิทธิพลได้ในที่สุด

“พลเอกประยุทธ์คงจัดตั้งรัฐบาลหน้าขึ้นได้ แต่ความชอบธรรมจะต่ำเพราะรูปแบบการประสานประโยชน์ระหว่าง พลังทหาร ข้าราชการ กลุ่มอนุรักษ์และกลุ่มทุนใหญ่ ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ คสช. ทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ เช่น ปปช. กกต. ปิดกั้นการตรวจสอบ พฤติกรรมเลือกตั้งก็ไม่ต่างไปจากระบอบทักษิณในอดีต คือมีการเอารัดเอาเปรียบก่อนเลือกตั้ง เช่น การดิสเครดิตนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามโดยอำนาจรัฐประหารที่ตนมี จับกุม ดำเนินคดี หรือเรียกมาอบรม ไปจนถึงการแจกเงินคนจน คนแก่ ข้าราชการ ชาวไร่ ชาวสวน บัตรเครดิตคนจน แจกซิมฟรี อินเทอร์เน็ตฟรี ลดภาษี ช็อปช่วยชาติ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี 4 เดือน และรูปแบบโดยรวมการเลือกตั้งปี 2562 ก็คือการประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเป็นรัฐบาล คล้ายการเลือกตั้งปี 2542 ซึ่งพรรคทักษิณได้พัฒนาจากการซื้อเสียงธรรมดามาเป็นการประมูลสัมปทานเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยใช้ “ประชานิยม” ประมูลเสียงจากชาวบ้านอย่างได้ผล ได้รับการต่ออายุสัมปทานซ้ำหลายรอบ การเลือกตั้งครั้งนี้ดูจากพฤติกรรมของพรรคพลังประชารัฐบ่งว่าจะซ้ำรอยการประมูลสัมปทานคะแนนเสียงเช่นกัน ต้องขอวิงวอนพลเอกประยุทธ์ กองทัพ และนายทหารที่มีวิจารณญาณ ช่วยระงับไม่ให้ฝ่ายต่าง ๆ ใช้อภินิหารกฎหมายหรืออำนาจอื่น ๆ จนถึงขั้นมีเสียงกล่าวหาว่าเป็น “การเลือกตั้งสกปรก” หรือ “โกงการเลือกตั้ง” แบบเดียวกับสมัยเผด็จการทหารปี 2500”

เขาเสนอว่า หากกลับมาเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พลเอกประยุทธ์ จำเป็นต้องเปลี่ยนระบบคิดแบบทหาร หรือการยังหลงคิดว่าตนเองเป็นรัฏฐาธิปัตย์มีสิทธิชอบธรรมทุกประการ ให้มาเป็นการยอมรับความจริงของโลกยุคปัจจุบันที่มีพลังมีความคิดที่หลากหลาย ต้องมีการปรึกษาหารือ ปรองดอง และแก้ไขกฎหมายต่างๆ ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น จึงจะมีโอกาสเป็นรัฐบาลที่ได้รับการยอมรับบทบาทการบริหารประเทศไปได้

ฟัง ปาฐกถา 45 ปี 14 ตุลา ครั้งที่ 4 “มองประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ปัญหาที่ใหญ่กว่าวิกฤติการเมือง”

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า