เข้ายุคเงินดิจิทัล ! ธปท.ทดลองสกุลเงิน “อินทนนท์” บนบล็อกเชน

ประเด็นคือ – ธนาคารแห่งประเทศไทย ทดสอบระบบสร้างสกุลเงินดิจิทัล “อินทนนท์” บนบล็อกเชน ลดต้นทุนการธุรกรรมระหว่างประเทศ พร้อม เปิดตัวบริการออกหนังสือค้ำประกันอิเล็คทรอนิกส์ รายแรกของโลก

วันนี้ (20 มี.ค.61) ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. หรือแบงก์ชาติ และธนาคารพาณิชย์ 14 แห่ง ประกาศความร่วมมือภายใต้ โครงการ บล็อกเชน คอมมูนิตี้ อินนิเชียทีฟ เพื่อให้บริการออกหนังสือค้ำประกันอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “แอลจี” บนเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นรายแรกของโลก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประกันวงเงิน 1.35 ล้านล้านบาท และถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานการเงินร่วม ของสถาบันการเงินในโครงการ ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาดำเนินการ โดยมีหน่วยงานสาธารณูปโภค และบริษัทเอกชนรายใหญ่ รวม 7 แห่ง เข้าทดลองระบบดังกล่าวในไตรมาสที่ 3 และบังคับใช้อย่างเป็นทางการภายในปีนี้ (พ.ศ.2561)

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานธนาคารไทย

“ถ้าเราทำธุรกิจแล้วต้องการหนังสือค้ำประกัน ถ้าไม่เข้ามาร่วมก็จะไม่เข้าใจ เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว และประหยัด ที่เพิ่งเริ่มทำเพราะในอดีตไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับได้ เราก็เห็นว่า บล็อกเชนเปลี่ยนโลก นี่เพียงเรื่องเดียวต่อไปคงต้องพัฒนาในเรื่องอื่นๆด้วย” นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า

วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ

ขณะที่ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แบงก์ชาติ ยังร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ทดลองออกสกุลเงินดิจิทัล ที่มีชื่อว่า “อินทนนท์” บนบล็อกเชน เพื่อชำระราคา หรือ เซ็ทเทิลเม้นท์ ระหว่างแบงก์ชาติกับธนาคารพาณิชย์ และระหว่างธนาคารพาณิชย์ด้วยกันเท่านั้น เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพระบบชำระเงิน โดยเฉพาะธุรกรรมชำระเงินข้ามประเทศ หรือ ครอส บอร์เดอร์ แต่ยังไม่เปิดทดลองใช้กับประชาชน นอกจากนี้ แบงก์ชาติยังอยู่ระหว่างทดสอบระบบการออกพันธบัตรบนบล็อกเชน เพื่อให้นักลงทุนได้รับพันธบัตรเร็วขึ้น จากเดิมใช้เวลาประมาณ 15 วัน อาจเหลือเพียง 2 วันเท่านั้น

บล็อกเชน (Blockchain หรือ block chain) คือ รายการระเบียน ที่นิยมเรียกว่า บล็อก ในแต่ละบล็อก มีการเก็บข้อมูลการทำธุรกรรม ข้อมูลการลงเวลาและรหัสลับ การเชื่อมโยงและตรวจสอบความถูกต้อง ความปลอดภัยกันได้

บล็อกเชน ได้รับการออกแบบใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับบันทึกธุรกรรมที่ตรวจสอบได้ และมีความถาวร จะเก็บข้อมูลไว้ที่เดียวไม่มีตัวกลาง บล็อกเชนถูกนำมาใช้ระบบสกุลเงินออนไลน์ “บิตคอยน์” จะมีการสร้างบล็อกเชน เพื่อเก็บรายการซื้อขายแลกเปลี่ยน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอินเทอร์เน็ต