Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เชียงใหม่เข้าสู่ช่วงวิกฤติคุณภาพอากาศจากปัญหาไฟป่ และหมอกควัน ส่งผลให้เช้านี้ยังครองแช็มป์อันดับ 1 ของโลกหัวเมืองใหญ่ที่คุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว พลเอกประวิตร รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ขึ้นเชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์วิกฤตหมอกควันและPM2.5 กำชับทุกส่วนเข้ม ใช้ SINGLE COMMAND ทำงานเข้มข้นในมาตรการป้องกันแก้ไข

วันนี้ (14 มี.ค.62) เมื่อเวลา 08.45 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ ค่ายกาวิละ มลฑลทหารบกที่ 33 จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือ ที่สถานการณ์รุนแรงตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ที่ผลการตรวจวัดดัชนีคุณภาพอากาศหรือ AQI จากเว็บไซต์ Airvisaul.com ระบุว่าสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกต่อเนื่องกัน 4 วัน แล้ว

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานประชุมกับหัวหน้าส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ ของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ที่ร่วมกับทุกหน่วยงานดำเนินการเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างเข้มข้นต่อเนื่องตลอดช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งเยี่ยมชมยุทโธปกรณ์ดับไฟป่า พร้อมให้กำลังใจกำลังพลและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน

จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมชมการทำม่านน้ำ ที่ระดมรถบรรทุกน้ำและอุปกรณ์จากหลายหน่วยทำการฉีดพ่นละอองน้ำขึ้นไปบนอากาศรอบคูเมืองเชียงใหม่ ที่บริเวณประตูท่าแพ วนรอบไปทางประตูเชียงใหม่ และช่วงหน้าโรงพยาบาลสวนปรุง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหา

พลเอกประวิตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยปัญหาไฟป่าและหมอกควันของพื้นที่ภาคเหนือ โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์แก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน แต่ก็ปรากฏว่าปัญหากลับมาวิกฤตหนักอีก พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมาทราบว่าเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว แต่ปัญหาหลักก็ยังเป็นเรื่องของการเผาป่า แม้จะรณรงค์กันอย่างเต็มที่แต่ก็ยังขาดความร่วมมือและจิตสำนึกของคนในพื้นที่เองด้วย ที่ต้องเร่งรณรงค์ให้งดเผาทุกชนิดในพื้นที่

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ทั้งแม่ทัพภาคที่ 3 ไปจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ให้ดำเนินการอย่างเข้มข้นไปจนถึงระดับหมู่บ้านในพื้นที่ โดยได้นำแนวคิดเรื่องของ SINGLE COMMAND มาใช้ในการปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพไทย โดยกองทัพบกและกองทัพอากาศ ร่วมปฏิบัติการแก้ไขปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ

ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 3 ได้จัดจั้งกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าขึ้น โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา ทั้งจัดกำลังและยุทโธปกรณ์ที่มีของแต่ละหน่วยงานในการแก้ปัญหา ซึ่งมีการระดมกำลังทั้งภาคพื้นและทางอากาศที่มีการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ในการดับไฟป่า ทั้งการกำหนด Action Plan ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติการเชิงรุกโดยเฉพาะการเข้าดับไฟป่าเร่งด่วนทันทีที่ได้รับแจ้ง การเฝ้าติดตามข้อมูลการเผาในพื้นที่ ประสานกองทัพอากาศในการบินโปรยน้ำสรางละอองน้ำในอากาศน่ายชุมชน และประสานกับหน่วยฝนหลวงภาคเหนือเร่งทำฝนหลวงแก้ไขปัญหาหมอกควัน การสร้างม่านน้ำโดยระดมกำลังฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศ และลดปริมาณฝุ่นควันลงมาในพื้นที่ต่างๆ การจัดทำระบบป่าเปียกแก้ไขปัญหาไฟป่าตามแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9

ขณะที่สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่ จากข้อมูลของไซด์ www.airvisual.com ซึ่งเป็นเว็บไซด์วัดคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่าจากการเปรียบเทียบดัชนีคุณภาพอากาศหรือค่า AQI จากหัวเมืองใหญ่จากประเทศต่างๆ ทั่วโลกพบว่าค่ามลพิษในอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังพบว่าวิกฤติหนักที่สุดเปนอันดับ 1 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 แล้ว เมื่อในเวลา 11.00 น. (14มี.ค.) วัดได้ 279  AQI ส่วนอันดับ 2 เป็นของเมือง Jerusalem, Israel 278  AQI อันดับ 3 เมือง Delhi, India 236  AQI

ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ พบว่า เช้านี้เมื่อเวลา 09.00 น. ค่ามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีอนุภาคต่ำกว่า 2.5 ไมครอน หรือค่า PM2.5 เกือบทุกจุดเพิ่มขึ้น เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  ณ สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.ช้างเผือก อ.เมือง วัดได้ 123 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร  ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดได้ 115 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ขณะที่เหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่เช้านี้ แม้จะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงสายแต่พบว่าหมอกควันเหนือท้องฟ้าเมืองเชียงใหม่ยังขาวโพลน ทำให้ทัศนวิสัยลดลง แสงแดดสามารถสอดส่องลงมาถึงพื้นดินด้านล่างได้เพียงเล็กน้องเท่านั้น จากฝุ่นควันที่สะสมในอากาศ

ขณะที่ประชาชน และนักท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ ต้องหาวิธีป้องกันตนเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่เริ่มส่งลกระทบกับร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงติดต่อกันเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีการการป่วย แสบตา แสบคอ แสบจมูก และล้มป่วยโรคทางเดินหายใจกันมากขึ้น

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า