Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – เพจดังได้เผยแพร่เรื่องราวร้องเรียนจากพระพยอม ซึ่งเกรงว่าที่ดินวัดที่ซื้อมาอย่างถูกต้องจะถูกยึด หลังเจ้าของเก่าฟ้องเรียกที่คืน พระพยอมจึงเปิดใจถึงเหตุผลที่ร้องขอความชอบธรรม

จากกรณีที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ได้รับการร้องเรียนจาก พระพยอม กลฺยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี โดยอ้างว่า วัดได้ไปซื้อที่ดินมาในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งได้มีการดำเนินการทำเอกสารตามขั้นตอนทุกอย่างถูกต้อง โดยที่ดินนี้เป็นของบุคคลหนึ่งที่เคยอาศัยที่ดินของญาติและเอาที่ดินมาเป็นของตนเอง และต่อมานำไปขายให้วัด แต่พอเจ้าของเดิมรู้ก็ฟ้องเรียกที่ดินคืน และคนที่ขายที่ดินก็ไปเซ็นยินยอมว่าไม่ได้ปรปักษ์ เพราะรู้แก่ใจว่าเป็นของญาติ พอที่ดินกลับไปเป็นของเจ้าของเดิม โฉนดที่วัดถือเลยเป็นโมฆะ และกลายเป็นถุงกล้วยแขก นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 28 พ.ย. 60 ที่วัดสวนแก้ว ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กฺลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว สอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่มีการเผยแพร่ว่าพระพยอมร้องขอความชอบธรรมเกี่ยวกับที่ดินที่ทางวัดเคยซื้อเมื่อปี พ.ศ. 2547 จำนวน 1 ไร่ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการโอนโฉนดเป็นของวัดสวนแก้วเรียบร้อยแล้ว แต่ได้ถูกเจ้าของเดิมฟ้องร้องเรียกที่ดินคืน โฉนดถูกสั่งให้เป็นโมฆะจนกลายเป็นที่มาของอนุสาวรีย์ถุงกล้วยแขกทุกวันนี้

พระพยอม กฺลยาโณ เปิดเผยว่า “จากการร้องขอความชอบธรรมเรื่องที่ดินผืนนี้อีกครั้ง อาตมาต้องการความชัดเจน ไม่ได้ไปดูหมิ่นดูถูกศาล เพราะมันเป็นเรื่องไม่ควร ตนไม่ได้หลบหลู่ศาลแต่อยากเรียนรู้ให้มันชัดเจน เช่น วัดเป็นนิติบุคคล ทำไมต้องแปลงเป็นบุคคล เหมือนกับว่ามีการได้เปรียบทางหนึ่งและเสียเปรียบอีกทางหนึ่งในการสู้คดี อาตมามานั่งคิดดูเพราะมีคนมาว่าอาตมา ว่ายายสมกับยายฮาย ไม่รู้เรื่องกฎหมายอะไรเลย และต้องติดคุกเพราะคดีที่ดิน แต่แกก็สามารถไปซื้อหนังสือกฎหมายมาอ่านจนแตกฉาน และขึ้นรถไฟจากสุรินทร์มาที่กระทรวงยุติธรรมแล้วได้รับการเยียวยา

“แต่คดีของอาตมาไม่ได้คิดว่าเรื่องการเยียวยาเป็นเรื่องสำคัญ สำคัญอยู่ที่ความเป็นจริง ความชัดเจนว่าการกระทำในตอนนั้นที่ไม่ได้ให้อาตมาได้ไปชี้แจงในศาลชั้นต้น แม้แต่ทนายที่เข้ามาช่วยก็ไม่รู้ว่าช่วยอย่างไร ประเด็นที่ต้องนำไปแย้งก็ไม่ได้แย้ง ตอนนี้อาตมาได้รับเอกสารว่าให้วัดเปลี่ยนจากนิติบุคคลเป็นบุคคล อย่างข้อกฏหมายที่ว่าถ้าเข้าไปทำที่ดินอย่างสงบและเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของตามกฎหมาย อาตมาเข้าไปพัฒนาที่ตรงนี้อย่างเปิดเผย เป็นเวลา 2 ปี 7 เดือน ไม่เห็นมีใครร้อง มีกฎหมายมาตราหนึ่งว่า ถ้าใครถูกรบกวนที่ต้องรีบดำเนินคดีภายใน 1 ปี แต่อาตมาทำที่นี้เลยมา 1 ปี 7 เดือน ไม่เห็นใครมาร้อง แต่มาถูกดำเนินคดีเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี 7 เดือน”

พระพยอม กล่าวต่อว่า “อย่างค่าธรรมเนียมศาล 2 แสน ค่าทนายอีก คนจนจะเอาเงินที่ไหนวางให้ศาล อยากฝากไว้ว่าอย่าให้คนรวยนอนบ้าน คนจนนอนคุก ตอนแรกที่ซื้อ ทางกรมที่ดินก็ไม่ได้แย้งหรือตรวจสอบว่าที่ดินนี้ไม่ใช่ที่ปรปักษ์ และไม่มีการแย้งต่อศาล หรือศาลไม่ฟังอาตมาไม่รู้ แต่ที่ดินนี้โอนไปแล้ว วัดได้สิทธิแล้ว เสียภาษีแล้ว มีคนดีๆ ใหญ่โตโทร.เข้ามาช่วยเหลือหลายคน หวังจะมาช่วยอาตมา จะช่วยหาเงินมาซื้อให้ มีข้าราชการบางคนในกรมที่ดินฟ้องร้องหาว่าอาตมาไถเงินข้าราชการจนทำให้เขาถูกย้ายไป ที่ดินผืนนี้อาตมาซื้อมาในราคา 10 ล้านบาท ถมที่ดินไปอีก 8 แสนบาท ค่าก่อสร้างอีกหลายแสน ศาลชั้นต้นตัดสินว่าเราไม่ได้ทำโดยสงบ เพราะมีผู้ฟ้องร้อง แต่มาร้องเมื่อ 2 ปี 7 เดือน ไม่ได้ร้องตั้งแต่ต้น ตอนนี้อาตมาจะอุทธรณ์และขอฎีกาต่อให้สุดซอย อาตมาไม่อยากอายยายสมและยายฮาย ตอนนี้ศาลชั้นต้นตัดสินอาตมาไม่ได้ค่าเยียวยาใดๆ

“โฉนดที่อาตมาได้มานั้นถูกต้องตามกฎหมาย โอนที่กรมที่ดิน ทำโดยข้าราชการ ไม่ได้มีคนท้วงติงใดๆ ที่ออกมาร้องตอนนี้อาตมาต้องการความชัดเจน ต่อไปคนไทยจะได้ไม่ถูกกระทำแบบนี้ ทั้งหมดทั้งสิ้นอาตมาไม่ใข่พระชอบหาเรื่อง อาตมาขึ้นธรรมาสน์เทศน์ดีกว่าขึ้นศาล ถ้าพระเพิกเฉยดูดายปล่อยให้ประชาชนเป็นทุกข์จากหน่วยงานราชการ หน่วยงานราชการต้องเป็นคนทำความชื่นใจต่างพระเนตรพระกัณฑ์ของพระราชา ที่ทำนี้ทำความชื่นใจหรือทำความช้ำใจ ซื้อที่เสียเงิน ได้แต่โฉนด ไม่มีที่ดิน” พระพยอมกล่าวทิ้งท้าย

ต่อมาแฟนเพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ก็ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวอีกครั้ง โดยระบุข้อความว่า…

“#เจาะลึกกรณีพิพาทที่ดินโฉนดวัดสวนแก้ว #ไม่สู้ก็ไม่ชนะ

กฎหมายมันคุ้มครองพระอยู่แล้วครับ แต่พระเองก็เลือกที่จะไม่ฟ้องนางวันทนา เหมือนเห็นใจว่าโดนหลอกเงินไปจนหมด แล้วพระต้องการอะไร เมื่อเจ้าของที่ดินคนเดิมเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องที่ดินของเค้าคืน โดยใช้กฎหมายเข้าสู้ ว่าการครอบครองปรปักษ์ของนางวันทนาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ว่าเค้าใช้วิธีนอกกฎหมาย

#ประเด็นที่บอกว่าความบกพร่องเกิดที่กฎหมายหรือเจ้าหน้าที่

มันไม่ได้เกิดจากกฎหมายหรือเกิดจากเจ้าหน้าที่เลย มันเกิดจากที่นางวันทนาไปครอบครองปรปักษ์ที่ดินของผู้อื่น

แล้วเมื่อเจ้าของเค้ามาสู้ขอให้เพิกถอน นางวันทนากลับไม่ใช้สิทธิ์ที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิ์ครอบครองปรปักษ์นั้นมา

และพระซึ่งเป็นผู้ซื้อที่ดินโดยสุจริต ก็ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายอยู่แล้ว สามารถเรียกเงินคืนได้ แต่พระก็ไม่ใช้สิทธิ์เรียกร้อง โดยอ้างว่าเห็นใจนางวันทนา

แล้วต่างคนก็ต่างไม่ใช้สิทธิ์ของตนเองที่มี แล้วจะมาเรียกร้องอารายยยย
ถ้าจะถามหาคนผิด ก็ลองใช้เหตุผลคิดก่อนละกัน ว่าอะไรที่ทำให้ต้องลงเอยแบบนี้

เมื่อศาลพิพากษาตามตัวบทกฎหมาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหน้าที่ของตน แล้วพลเรือนล่ะ ได้ใช้สิทธิ์ของตนเองหรือยัง

ปล.1 ทุกสิ่งที่พิมพ์ไป พิมพ์จากข้อมูลที่ได้รับทราบจากโพสนี้ของเพจ แหม่มโพธิ์ดำ หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม นอกเหนือจากนี้ ว่ามีการทุจริต มีการร่วมมือกันเพื่อฉ้อโกง ก็ขอให้อธิบาย และคุยกันด้วยเหตุผล

ปล.2 พิมพิ์เอง รับผิดชอบเอง

ปล.3 ลืมพิมพ์ประเด็นที่พระคว่ำบาตร ไม่ยอมรับกิจนิมนต์จากหน่วยงานราชการโดยเฉพาะกรมที่ดินนะ สุดยอดจริงๆ #ใจท่านมันได้#ได้ไง

#มิตรสหายท่านหนึ่ง”

 

ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจากเฟซบุ๊ก: แหม่มโพธิ์ดำ

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า