เปิดใจ ! หนุ่มโดนแท็กซี่ไล่ชน-ทำร้ายร่างกาย

ประเด็นคือ – บนโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปจากกล้องหน้ารถคันหนึ่งที่ถูกรถแท็กซี่ชน ก่อนที่จะปาดชนกันไปมา ล่าสุดต่างฝ่ายต่างยอมรับผิด บอกเพราะอารมณ์ร้อนทำเรื่องบานปลาย

เมื่อช่วงวานนี้ (30 ตุลาคม 2560) ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 8.00 น. ได้เกิดเหตุคนขับแท็กซี่สาธารณะสีส้ม อู่สวนกล้วย หมายเลขทะเบียน ทย 9663 กรุงเทพมหานคร ขับรถหวาดเสียวเฉี่ยวชนรถผู้ขับขี่สัญจรไปมาในบริเวณถนนพหลโยธิน ขาเข้าจากวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน มุ่งหน้าแยกเกษตร

โดยขับชนซ้ำคู่กรณีถึง 3 ครั้ง ก่อนที่จะจอดรถบริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ แล้วเปิดท้ายคว้าแม่แรงยกรถมาทำร้ายคู่กรณี แต่มีพลเมืองดีขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาห้าม ไม่ให้เรื่องบานปลาย

แต่คนขับแท็กซี่ก็ได้พยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายคู่กรณีจนได้รับบาดเจ็บ ผู้โดยสารที่โดยสารมากับรถแท็กซี่คันดังกล่าวมีอาการหวาดกลัวกับพฤติกรรมของคนขับรถแท็กซี่ และได้ออกจากรถพร้อมจ่ายค่าโดยสารให้คนขับ

สุดท้ายมีตำรวจ ปทส. ขับผ่านมา และได้นำคู่กรณีไปยัง สน.บางเขน โดยตำรวจได้เปรียบเทียบปรับคนขับเท็กซี่ 400 บาท แล้วปล่อยตัวไป

โดยในวันนี้ (31 ต.ค. 60) “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เดินทางมาพบกับผู้เสียหายคือ นายธนิต ใจดี พนักงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง โดยได้เปิดเผยกับทางทีมข่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุเขาได้ขับรถมาจากเส้นพหลโยธินมุ่งหน้าไปทาง ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน เพื่อที่จะไปทำงาน แต่ปรากฏว่าจุดเกิดเหตุที่บริเวณหน้าวัดพระศรีฯ มีรถแท็กซี่สีส้ม ทะเบียน ทย 9633 กทม. ได้เปิดไฟเลี้ยวขวาออกมาและแซงรถของเขาไปอย่างกระชั้นชิด ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด เพราะต้องการรีบไปทำงานให้ทัน จากนั้นจึงมีการขับรถปาดหน้าและเบรกเพื่อให้รถแท็กซี่คันดังกล่าวชน ซึ่งเขายอมรับว่าเขาเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน และยอมรับว่ามีความใจร้อนกับการกระทำดังกล่าว

ส่วนทางด้านคดีดังกล่าว “ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์” ได้เดินทางมาที่ สน.บางเขน เพื่อสอบถามกรณีที่เกิดขึ้น ต่อ ร.ต.ท.พงศ์ภัคพล อันท้าว พนักงานสอบสวน สน.บางเขน โดย ร.ต.ท.พงศ์ภัคพล เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบถามคนขับรถแท็กซี่ ทะเบียน ทย 9633 กทม. คนขับคือ นายโฉม ทายาหอม อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ กับกรณีดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าใจร้อนและทำไปเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากถูกนายธนิตเบรกรถอย่างกระชั้นชิดถึง 3 ครั้ง พร้อมกับยอมรับข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (แต่ไม่สาหัส) จึงได้ทำการปรับนายโฉม เป็นจำนวนเงิน 400 บาท พร้อมตั้ง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาท และทำร้ายร่างกายผู้อื่น โดยได้รับบาดเจ็บ (แต่ไม่สาหัส)

เบื้องต้นนายโฉมบอกว่า ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่เพียง 200 บาท จึงได้ทำการยึดใบขับขี่ไว้ 15 วัน และให้มาชำระค่าปรับเพิ่มเติมในภายหลัง

ล่าสุด นายโฉม ทายาหอม อายุ 45 ปี ชาว จ.สุรินทร์ เข้าแสดงตัวกับ นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการ กรมการขนส่งทางบก โดยนายโฉมเล่าว่า หลังจอดรับผู้โดยสารตนได้เบี่ยงขวาออก โดยยืนยันว่าค่อยๆ ออกรถทีละนิด ไม่ใช่พุ่งพรวดคราวเดียวดังที่ผู้เสียหายระบุ ซึ่งระหว่างนั้นตนได้ยกมือ 1 ข้าง เป็นการขอโทษและขอทางแล้ว เพราะไม่ได้มีเจตนา แต่ทางผู้เสียหายได้พยายามขับรถมาปาดหน้าและเบรกเพื่อให้ชนท้าย 3 รอบ กระทั่งตนทนไม่ไหวจึงขับเบียดชน ยอมรับว่าตนผิดที่อารมณ์ร้อนเกินไปจนทำให้เรื่องบานปลาย แต่ตนเครียด อยากขอความเป็นธรรม เพราะหลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ไม่สามารถขับรถออกไปทำงานได้ ขาดรายได้ ตนมีครอบครัวที่ต้องดูแล วอนอย่าซ้ำเติมกันอีกเลย

ขณะที่นายสุกรี ระบุว่า การกระทำดังกล่าวผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 กรณีขับรถในลักษณะประมาทหรือน่าหวาดเสียว และเกี่ยวกับเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร โทษปรับไม่เกิน1,000 บาท และได้พักใช้ใบอนุญาตขับรถเป็นจำนวน 3 เดือน เป็นการทำโทษ เนื่องจากนายโฉมไม่เคยมีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวมาก่อน โดยในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น ตำรวจ สน.บางเขน จะเป็นผู้ดำเนินการ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง แท็กซี่โหดสำนึกผิด รับอารมณ์ร้อนจนเรื่องบานปลาย วอนอย่าซ้ำเติม

แท็กซี่สายโหดไล่ชนคู่กรณี แถมยังเข้ามาทำร้ายร่างกาย