Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เฮอร์ริเคนไมเคิล พายุที่มีความรุนที่สุดในรอบ 50 ปี สร้างความเสียหายหนักทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ คร่าชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย 

เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พายุเฮอร์ริเคนไมเคิล ที่มีกำลังรุนแรงระดับ 4 ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งรัฐฟลอริดา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยส่งผลให้เกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย

ตามรายงานระบุว่า ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางพายุ มีกำลังลมแรงเกือบ 250 กม./ชม. ซึ่งเทียบเท่ากับพายุระดับ 5 ก็ว่าได้ และถือเป็นพายุเฮอร์ริเคนรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี ที่เข้าโจมตีฟลอริดา แพนแฮนเดิล พื้นที่ชายหาดแนวยาวตลอดชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและหมู่บ้านชาวประมงอีกด้วย

ไมเคิลได้คร่าชีวิตประชาชน 1 ราย ในเมืองกรีนส์โบโร รัฐนอร์ทแคโรไลนา ห่างจากแทลลาแฮสซี เมืองหลวงของฟลอริดา ราว 50 กม. และมีเด็กหญิง วัย 11 ปี เสียชีวิต บริเวณทะเลสาบเซมิโนล รัฐจอร์เจีย ด้วยสาเหตุหลังคาเหล็กโรงจอดรถหล่นทับ

พายุลูกดังกล่าว ยังส่งผลให้เกิดดินถล่ม และน้ำท่วมฉับพลัน ด้วยกำลังลมมหาศาล ได้หอบน้ำทะเลลอยขึ้นสูงถึง 14 ฟุต (4.3 เมตร) มาปล่อยลงสู่บริเวณชายฝั่ง และหลายพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ จึงทำให้เกิดฝนตกหนักรุนแรง

“นี่เป็นสถานการณ์อันตรายและถือเป็นภัยคุกคามต่อชีวิต” สำนักงานอากาศแห่งชาติรายงาน

พายุได้เคลื่อนผ่านทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟลอริดา และยังคงความเร็วลมอยู่ที่ 225 กม./ชม. หลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจอร์เจีย ในช่วง 6 โมงเย็น ตามเวลาท้องถิ่น

จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดี (11 ต.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ เฮอร์ริเคนไมเคิลจะลดระดับเป็นพายุโซนร้อนต่อไป

แต่ นายริก สก็อต ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ยังคงแนะนำให้ประชาชนหลบภัยอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน เพราะเกรงว่าพายุอาจจะก่อตัวขึ้นอีก

ทั้งนี้ ประชากรมากกว่า 610,000 คน ต้องใช้ชีวิตโดยปราศจากไฟฟ้า ในช่วงค่ำคืนของวันพุธที่ผ่านมา

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า