4 ปัจจัย พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส อาจส่งผลกระทบให้ญี่ปุ่นเสียหายหนัก

พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส (Hagibis) กำลังจะพัดขึ้นฝั่งประเทศญี่ปุ่นในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. นี้  ทั้งนี้มี 4 เหตุผลที่ทำให้ไต้ฝุ่นฮากิบิสอาจส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นรุนแรงกว่าพายุลูกอื่นๆ ได้แก่ ขนาดของพายุ ความแรงลม ช่วงเวลาที่พัดขึ้นฝั่ง และจุดที่พายุจะพัดขึ้นฝั่ง

ในด้านขนาด พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1,400 กิโลเมตร ยาวเกือบเท่ากับครึ่งหนึ่งของญี่ปุ่นทั้งประเทศ  ด้วยขนาดของพายุที่มหึมานี้จะทำให้ประเทศญี่ปุ่นได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างจากพายุลูกนี้

ด้านความรุนแรง เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา พายุไต้ฝุ่นฮากิบิสมีความเร็วลมอยู่ที่กว่า 198 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ ณ บางช่วงเวลาเคยขึ้นไปมีความเร็วลมสูงสุดถึง 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง หรือเทียบได้กับพายุเฮอร์ริเคนระดับ 5 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดของพายุในมหาสมุทรแอตแลนติก  และแม้จะมีการพยากรณ์ว่าพายุฮากิบิสจะมีกำลังลมอ่อนลงเมื่อขึ้นฝั่งประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ยังจะรุนแรง โดยเทียบเท่าได้กับพายุเฮอร์ริเคนระดับ 4

ช่วงเวลาที่พายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งก็ยิ่งทำให้ความเสียหายต่อประเทศญี่ปุ่นอาจมากขึ้นด้วย เนื่องจากวันเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้ เป็นช่วงใกล้พระจันทร์เต็มดวง ซึ่งระดับน้ำทะเลสูงกว่าในช่วงอื่นๆ และนั่นหมายความว่าคลื่นสูงและแรงพายุอาจทำให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm serge) และทำความเสียหายต่อพื้นที่ติดชายฝั่งของญี่ปุ่นได้

และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พื้นที่ภาคกลางของญี่ปุ่นบริเวณ Greater Tokyo ก็เพิ่งจะถูกพัดถล่มด้วยพายุไต้ฝุ่นฟ้าใส (Faxai) โดยพายุลูกดังกล่าวพัดถล่มจังหวัดชิบะด้วยความเร็วลมสูงสุดกว่า 207 กิโลเมตร/ชั่วโมง  พายุใต้ฝุ่นฮากิบิสที่จะพัดถล่มบริเวณเดียวกันทำให้ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่หลังคาบ้านเรือนพังเสียหาย ต้องนำแผ่นพลาสติกมาคลุมหลังคาไปพลางก่อน ป้องกันหลังคาเสียหายเพิ่มเติมและไม่ให้น้ำไหลเข้าภายในตัวบ้าน