5 วิธี รับมือลูกน้อยไม่อยากไปโรงเรียน

ขอบคุณภาพจาก kodomoclub.com

เข้าสู่เดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเปิดเทอมและเป็นช่วงเวลาแห่งการปรับตัวโดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต ทำให้รู้สึกไม่อยากไปโรงเรียน สถาบันสุขภาพเด็กฯ แนะพ่อแม่ต้องใจเย็นรับฟังลูกและแก้ปัญหาอย่างมีสติ

นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ปัญหาเด็กไม่อยากไปโรงเรียนเป็นเรื่องปกติที่พบในช่วงอายุ 3 ปี ถึง 4 ปี ที่เริ่มไปโรงเรียนใหม่ๆ เพราะการแยกจากพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูจะทำให้เด็กมีความกังวล รวมทั้งต้องพบเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น หรือถูกทำโทษที่โรงเรียน เด็กบางคนแสดงออกด้วยการร้องไห้บางคนสะสมความเครียดจนทำให้ตัวเองเจ็บป่วย เช่น ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ ซึ่งเป็นกลไกการต่อต้านทางร่างกาย พ่อแม่ผู้ปกครองควรเปิดใจให้กว้างรับฟังความรู้สึกของเด็กและค่อยๆ สอนอย่างใจเย็น พร้อมทั้งหาทางแก้ไขและให้ความช่วยเหลือ

ขณะทีที่ นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ระบุว่า เพราะเด็กยังไม่มีการปรับตัวและกังวลที่ต้องแยกจากพ่อแม่ ดังนั้นผู้ปกครองควรรับมืออย่างใจเย็น เปิดใจรับฟังความรู้สึกของเด็กอย่างเข้าใจ พร้อมให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาอย่างมีสติ ปรับเปลี่ยนการเลี้ยงดู ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองและฝึกทักษะพื้นฐานในด้านการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

พ่อแม่ควรให้เด็กไปโรงเรียนทุกวัน โดยไม่จำเป็นต้องหยุด ไม่ควรตำหนิเด็กหากชักช้าไม่ยอมอาบน้ำ หรือไม่รับประทานอาหารเช้าที่บ้าน ควรจัดใส่กล่องให้และบอกเด็กว่าต้องไปโรงเรียน และขอความช่วยเหลือจากคุณครูให้รับเด็กภายหลังจากพ่อแม่มาส่งเพื่อทำให้ระยะเวลาการแยกจากที่โรงเรียนสั้นที่สุด ผู้ปกครองต้องไม่ยืนเกาะรั้วเฝ้ามองด้วยความเป็นห่วงเพราะยิ่งจะทำให้เด็กเกิดความกังวลมากขึ้น ขณะเดินทางควรพูดถึงโรงเรียนให้เป็นเรื่องสนุกสนาน หรือวางแผนกิจกรรมที่จะทำช่วงหลังเลิกเรียน และคุณพ่อคุณแม่จะต้องให้ความมั่นใจกับลูกว่าจะไปรับกลับแน่ๆ ไม่ทอดทิ้งโดยมารับให้ตรงเวลา หากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วไม่ได้ผลควรปรึกษาจิตแพทย์เด็กเพื่อช่วยกันดูแลให้เด็กปรับตัวไปโรงเรียนอย่างมีความสุข