ประเด็นคือ – สามีตามง้อเมียไม่สำเร็จ ลั่นไกฆ่าพ่อตา แม่ยาย เมีย ลูกสาววัย 3 ขวบ ก่อนฆ่าตัวตายตาม เคราะห์ดีลูกสาวรอดชีวิต แต่บาดเจ็บ
วันที่ 24 ต.ค. 60 เวลาประมาณ 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.อดุลชัย เผ่าพันธุ์ศร สารวัตร สภ.โคกขาม รับแจ้งเหตุ ฆ่ากันตาย ที่บ้านเลขที่ 3/254 ม.9 หมู่บ้านสวนปาล์ม ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงแจ้งผู้บังคับบัญชา พร้อมนำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.มานะ อินพิทักษ์ รรท.ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สภ.โคกขาม ร่วมตรวจสอบเหตุดังกล่าว
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา สภาพประตูบ้านมีร่องรอยถูกงัดทำลาย ภายในบ้านพบคราบเลือดกระจัดกระจาย และยังพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยอาวุธปืนนอนจมกองเลือด จำนวน 4 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายเยิ้ม นุชประเสริฐ เจ้าของบ้าน อายุ 67 ปี นางสมพร นุชประเสริฐ อายุ 60 ปี น.ส.วลีรัตน์ นุชประเสริฐ อายุ 33 ปี และ นายวรเดช ตั้งนวผล อายุ 33 ปี นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบร่างเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณต้นขา จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
นายวรเดช ตั้งนวผล ผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัว ก่อนฆ่าตัวตายตาม
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ก่อเหตุครั้งนี้คือ นายวรเดช ตั้งนวผล ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.วลีรัตน์ นุชประเสริฐ และเป็นลูกเขยของ นายเยิ้ม และนางสมพร นุชประเสริฐ โดยตำรวจสอบถามเพื่อนบ้านที่เป็นคนโทร.แจ้ง ทราบว่า นายวรเดชได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูเนอร์ ทะเบียน กข 7 สมุทรสาคร มาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะงัดประตูเข้าไปภายใน โดยมีอาวุธปืนอยู่ในมือ จากนั้นก็ได้ยินเสียงโวยวายและได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายสิบนัด
ขณะเกิดเหตุเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์แจ้งไปยังลูกชายของนายเยิ้ม ให้รีบเข้ามาที่บ้านเกิดเหตุ ทั้งนี้ มีข้อมูลระบุว่า น.ส.วลีรัตน์ นุชประเสริฐ ได้มีปัญหากับนายวรเดช ตั้งนวผล มาระยะหนึ่งแล้ว และได้นำลูกสาววัย 3 ขวบ มาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยมีนายวรเดชตามมาง้ออยู่หลายครั้ง
ด้านญาติของ น.ส.วลีรัตน์ ยังเล่าด้วยว่า สามีของ น.ส.วลีรัตน์ ระแวงและหึงหวงถึงขนาดที่แอบติดตั้ง GPS ที่รถยนต์ส่วนตัวของ น.ส.วลีรัตน์ ซึ่งเป็น GPS แบบที่สามารถสั่งดับเครื่องรถยนต์ได้ โดย น.ส.วลีรัตน์ เคยประสบเหตุรถยนต์ดับขณะที่กำลังขับขี่โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงนำเข้าอู่และทำให้ทราบว่ามีการติดตั้ง GPS ดังกล่าว
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ด้านนอกห้องประมาณ 12 นัด และยังมีตกอยู่ในห้องที่เกิดเหตุฆาตกรรมอีกจำนวนหนึ่ง โดยทราบว่านายวรเดชใช้อาวุธปืนบาร์เร็ตตาขนาด 9 มม. ของตนเอง และยังใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ของพ่อตา ลงมือก่อเหตุสลดในครั้งนี้ ด้านเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังแพทย์ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง
