Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

“ความสวยงามนั้นมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง เพียงแต่ไม่ใช่ทุกคนจะมองเห็น” แอนดี้ วอร์ฮอล

แอนดี้ วอร์ฮอล เป็นหนึ่งในศิลปินชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงที่สุด ภาพอันโดดเด่นของเขาถูกจัดแสดงอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆทั่วโลก วอร์ฮอลมีความภาคภูมิใจในประเทศสหรัฐอเมริกาและโอกาสอันเท่าเทียมที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะในฐานะลูกชายผู้อพยพฐานะยากจนจากเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย

ในช่วงวัยเด็ก สุขภาพของวอร์ฮอลค่อนข้างอ่อนแอและใช้ชีวิตส่วนใหญ่บนเตียงหรือไม่ก็ที่โรงพยาบาล เขามักใช้เวลาหมดไปกับการวาดรูป ฟังวิทยุและสะสมภาพดาราหนัง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อตัวตนและผลงานของเขาในภายหลังเป็นอย่างมาก ผลงานอันโดดเด่นหลายชิ้นของเขาเป็นการเฉลิมฉลองผลิตภัณฑ์และภูมิปัญญาอเมริกัน

ซึ่งเราจะมีโอกาสได้เห็นชิ้นงานจริงในการจัดแสดง ‘นิทรรศการ ANDY WARHOL POP ART’ เช่น ภาพกระป๋องซุป Campbell’s Soup 32 ชิ้นที่ใช้เทคนิคภาพพิมพ์ รวมไปถึงผลงานภาพนักแสดงสาวผู้โด่งดังที่พิมพ์ด้วยเทคนิคซิลค์สกรีน นอกจากนี้ ยังมีผลงานอีกมากมายที่วอร์ฮอลใช้เทคนิคที่ตนเองถนัดในการสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรม ภาพถ่าย ภาพยนตร์ ดนตรี แฟชั่น และผลงานอื่น ๆ อีกกว่า 128 ชิ้น

ภายในงานจะมีการนำเสนอผลงานของแอนดี้ วอร์ฮอล โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆตามประเภทของงาน คือ ‘โซนภาพพอร์ตเทรตตัวเอง(ภายถ่ายบุคคล)’ เป็นกระบวนการนำเสนอตัวเองของศิลปิน ซึ่งเป็นที่ถกเถียงและเป็นสิ่งที่ศิลปินต้องเผชิญหน้ากับมันมาหลายศตวรรษ นอกจากนั้นยังเป็นความพยายามนิยามตัวตนของเขาผ่านภาพแทนของลักษณะภายนอกของศิลปินคนนั้นๆ อีกด้วย

ในอดีต ‘กระจกเงา’ เคยถูกใช้เป็นสื่อที่คนเราพิจารณาแยกแยะระหว่างภาพลักษณ์ของตัวเองที่ปรากฏแก่สายตาผู้อื่นและการรับรู้ถึงตัวตนของพวกเขาเอง แต่ภาพที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาก็ไม่ซื่อตรงกับความเป็นจริงอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นเราจึงไม่มีทางมองตัวเราอย่างที่คนอื่นเห็นได้ แอนดี้ วอร์ฮอล เป็นผู้ริเริ่มสร้างมาตรฐานในการใช้ใบหน้าในรูปแบบของ ‘ของที่ระลึก’ โดยนำไปใช้กับป้ายสินค้าและผลิตใบหน้าของตัวเองซ้ำอย่างไม่รู้จบ น่าจะเรียกว่าเป็น ‘ภาพเซลฟี่’ ก็ได้อยู่เหมือนกัน เพราะเขามักจะเป็นผู้ควบคุมการถ่ายภาพตัวเองและคอยตัดสินใจว่าจะโพสท่าใด

‘โซนภายถ่ายคนดังเซเลปบริตี้’ ผลงานศิลปะที่ได้รับการยกย่องชื่นชมและยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดของแอนดี้ วอร์ฮอล ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใน ‘เดอะ แฟคตอรี’ หรือ ‘โรงงานศิลปะ’ หลายภาพเป็นภาพที่ผู้คนทั่วไปคุ้นเคยเช่น มาริลิน มอนโร, เหมา เจ๋อตง, เอลวิส เพรสลีย์ หรือ อลิซาเบธ เทย์เลอร์ ภาพบุคคลเหล่านี้ถูกจัดองค์ประกอบในมุมมองแคบๆ แข็งกร้าวและมีเฉดสีฉูดฉาด ผิดธรรมชาติและมักใช้คู่สีที่ตัดกันแบบให้สร้างความช็อกทางสายตาแก่ผู้ชมเมื่อเทียบกับผลงานภาพวาดแบบดั้งเดิมและภาพเหล่านี้ถูกผลิตซ้ำเป็นจำนวนมาก ทำให้มันไม่ต่างอะไรกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

‘โซนนิตยสารและปกอัลบั้มดนตรี’ แอนดี้ วอร์ฮอล ก่อตั้งนิตยสาร Interview ในปี 1969 ซึ่งต่อมามีชื่อเล่นว่า ‘ลูกบอลกระจกสะท้อนแสงป๊อป’ นิตยสารซึ่งเป็นที่รู้จักจากการไร้ซึ่งบรรณาธิการ ซึ่งก็คือการที่เนื้อหาในนิตยสารไม่เคยถูกขัดเกลาเพื่อความกระชับหรือความชัดเจนในการอ่าน ไม่มีแม้แต่การกลั่นกรองบทสนทนา เนื้อหาภายในนิตยสารประกอบด้วยบทสนทนาของเหล่าบรรดาเซเลบริตี้ในช่วงเวลานั้นโดยไม่มีการตัดต่อ

ซึ่งกลายเป็นรูปแบบที่แพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ด้วยกระแสสังคมขณะนั้นที่เคลื่อนไปสู่การผลิตและการบริโภคจำนวนมาก ภาพประกอบและการออกแบบบรรจุภัณฑ์กลายเป็นสิ่งที่ถูกเพิ่มความสำคัญมากขึ้นในตลาด ซึ่งวอร์ฮอลมีความรักที่จะร่วมงานกับศิลปินที่เขาชื่นชมและสนิทด้วยและเขาก็ออกแบบและผลิตหน้าปกอัลบั้มให้นักดนตรีเหล่านั้นด้วยตัวเอง

โซนการพิมพ์แบบซิลค์พรินติ้งและงานปฏิมากรรม วอร์ฮอลเริ่มต้นทดลองการพิมพ์ซิลค์สกรีนในช่วง 1960s ซึ่งเป็นเทคนิคการทำที่ยังไม่แพร่หลายนักในยุคนั้น เป็นกระบวนการที่ใช้เวลายาวนานและต้องใช้ความอดทนและสายตาอันช่างสังเกตเฉียบคมในการพิจารณารายละเอียดในการทำงาน เขาใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพทางเทคนิคการพิมพ์ในการสร้างผลงานเดียวกันซ้ำๆขึ้นมาในจำนวนมากที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน และในขณะเดียวกันเขาก็ร่วมงานกับสตูดิโอภาพพิมพ์อีกหลายแห่งและจ้างช่างพิมพ์หลายคนทำให้ผลิตผลงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผลงานของเขาที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งหมดนี้นับเป็นครั้งแรกในไทยที่จัดงานศิลปะได้อย่างยิ่งใหญ่และสำคัญต่อวงการศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งทีมผู้บริหารของริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อกได้วางแผนมากว่าสองปี

คุณลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก ผู้บริหารคนสำคัญของริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการในครั้งนี้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทาง workpointTODAY ว่า “ขั้นตอนการนำผลงานต่างๆ เข้ามาเริ่มต้นที่ความชอบส่วนตัวของเธอที่มีความหลงไหลในงานศิลปะ จึงพยายามหาวิถีทางที่จะนำงานศิลปะระดับโลกเข้ามาจัดแสดงให้ได้ในเมืองไทย ซึ่งกว่าจะนำเข้ามาได้ก็ต้องจัดเตรียมพื้นที่ให้พร้อมทุกด้านทั้งการปรับโครงสร้างอาคาร การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งการขนย้าย ทุกขั้นตอนของนิทรรศการจำเป็นต้องผ่านการดูแลเป็นอย่างดี เนื่องจากทั้งหมดนี้เป็นผลงานจริง”

เมื่อถามถึงการคาดหวังผลตอบแทนในเชิงการค้าการลงทุนว่าคุ้มค่าหรือไม่กับสิ่งที่ต้องเสียไป คุณลินดากล่าวว่า “ประเด็นนี้คุณยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานกรรมการบริหาร เคยบอกกับเธอว่า งานบางอย่างไม่ใช่ทำเพื่อนึกถึงเรื่องการค้าอย่างเดียวแต่สิ่งที่ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อกมุ่งหวังคือ ‘Art for everyone’ หรือการทำให้ศิลปะเป็นเรื่องของทุกคน โดยที่ไม่ได้คาดหวังรายได้เป็นประเด็นสำคัญแต่ต้องการตอบแทนคืนสู่สังคม ซึ่งการนำงานศิลปะเข้ามาเพียงแค่มีคนไทยให้ความสนใจ ได้เข้ามาชมงานในรูปแบบที่เข้าถึงได้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากแล้ว ตอนนี้ทางริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก เองก็มีการวางแผนงานที่จะจัดแสดงเข้ามาจนถึงปี 2023 แล้ว

คุณลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก

คุณลินดา เชง กรรมการผู้จัดการ ริเวอร์ซิตี้ แบงค็อก

คุณลินดากล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุกงานที่ทำเราให้ความสำคัญกับการศึกษา ผู้ชมงานอาจจะไม่ทราบหรือไม่รู้จักศิลปินมาก่อนไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่ความต้องการของเราคือการให้ผู้ชมได้มาเรียนรู้ที่นี่เพราะเรามีข้อมูลพื้นฐานในห้องแรกของการจัดแสดงเสมอ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเลยว่ามาแล้วจะไม่รู้เรื่องไม่รู้จักเพราะทุกคนสามารถมาเรียนรู้ได้ที่นี่”

สำหรับ ‘นิทรรศการ ANDY WARHOL POP ART’ เปิดให้เข้าชมกันตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม – 24 พฤศจิกายน 2020 นี้ ที่ River City Bangkok ซื้อบัตรล่วงหน้าได้แล้วที่ www.ticketmelon.com/rivercitybangkok/andywarhol และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/RiverCityBangkok 

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า