ปักกิ่งเสี่ยงเจอล็อกดาวน์อีกครั้ง หลังพบผู้เสียชีวิตจากโควิดครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ยอดติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุด

กรุงปักกิ่งกำลังเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังมีรายงานผู้เสียชีวิตครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ทางการรุกตรวจประชาชนภายในเมือง สั่งปิดสถานที่หลายแห่งเพื่อสกัดการระบาด 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน กลับมาเผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 อีกครั้ง ทางการตัดสินใจกลับมาใช้มาตรการตรวจหาเชื้อเชิงรุกอย่างเข้มข้น หลังพบผู้เสียชีวิตจากโควิดครั้งแรกตั้งแต่เดือน พ.ค.

จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในท้องถิ่นรายใหม่ทั่วประเทศ 28,127 รายเมื่อวันจันทร์ (21 พ.ย.) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดที่เคยบันทึกไว้เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่งพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,438 ราย เพิ่มจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พบในวันอาทิตย์ (20 พ.ย.) ซึ่งอยู่ที่ 962 ราย และวันเสาร์ (19 พ.ย.) 621 ราย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 2 รายในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันเสาร์ นับเป็นการพบผู้เสียชีวิตครั้งแรกของจีนตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา

ส่วนพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากสุดยังคงอยู่ในเขตเมืองกว่างโจวและนครฉงชิ่ง คิดเป็นสัดส่วนราวครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบทั่วประเทศ

จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ของกรุงปักกิ่ง ได้สร้างความท้าทายให้กับเมืองเศรษฐกิจสำคัญของจีนที่มีประชากรอยู่ราว 21 ล้านคนแห่งนี้ ซึ่งรัฐบาลกรุงปักกิ่งออกมาเตือนว่า ประชาชนทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในเมืองอาจจะต้องเจอการทดสอบโควิด-19 อย่างเข้มข้นอีกครั้ง อีกทั้งยังต้องมีการสั่งปิดทำการของภาคธุรกิจ โรงเรียน และหวนกลับมาใช้กฎระเบียบเข้มงวดสำหรับการเดินทางเข้าเมือง

โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดในวันนี้ (22 พ.ย.) กรุงปักกิ่งได้ออกมาประกาศปิดสวนสาธารณะ ห้างสรรพสินค้า และพิพิธภัณฑ์หลายแห่งภายในเมือง รวมทั้งมีการกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นทั่วประเทศต้องกักตัวและทำการตรวจหาเชื้อเป็นเวลา 3 วัน จึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางออกจากที่พักได้

การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ยังถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญต่อยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน ซึ่งเพิ่งมีการผ่อนปรนมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ จนสร้างความกังวลให้กับหลายฝ่ายว่า จีนอาจตัดสินใจกลับมายกระดับมาตรการอีกครั้ง และอาจนำไปสู่ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ และการประท้วงรุนแรง 

ที่ผ่านมา ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์ของจีน ซึ่งมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด ควบคุมการเดินทาง รุกตรวจหาเชื้อเป็นวงกว้าง และกำหนดให้ต้องมีการกักตัวเป็นเวลานาน ถูกมองว่าส่งผลกระทบมหาศาลต่อชีวิตของประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจทั้งของจีนเองและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ที่มา Reuters, The Guardian, BBC