Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

Bluebik เป็นบริษัทที่ปรึกษา (Consulting Firm) หลายคนให้ความสนใจ เพราะสามารถคว้างานโครงการใหญ่จากองค์กรใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร, ประกันภัย, โทรคมนาคม, ค้าปลีก ฯลฯ ไม่ต่ำกว่า 20 โครงการในแต่ละปี ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาในการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเน้นเรื่อง Digital Transformation บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2013 และเข้าสู่ IPO ในเดือนกันยายนนี้

‘พชร อารยะการกุล’ ผู้นำแห่ง Bluebik ที่เคยทำงานในฐานะที่ปรึกษากับ ‘PricewaterhouseCoopers’ (PwC) 1 ใน 4 บริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีและที่ปรึกษาธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลก / ร่วมงานกับ ‘Boston Consulting Group’ (BCG) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ Top 3 ของโลก มีประสบการณ์ให้คำปรึกษากับ CEO ของบริษัทชั้นนำระดับ Fortune 500 ในหลายประเทศ

รายการ TOMORROW ของ workpointTODAY พูดคุยกับ ‘พชร’ ถึงภาพรวมธุรกิจบริษัทให้บริการที่ปรึกษาในยุคดิจิทัล ที่จะช่วยพาองค์กรต่างๆ ก้าวข้ามวิกฤตได้

workpointTODAY: แนะนำตัวสำหรับใครที่เพิ่งเคยได้ยินชื่อ Bluebik ครั้งแรก

พชร : Bluebik เป็นบริษัทที่ปรึกษาให้กับบริษัทขนาดใหญ่ ด้านการวางกลยุทธ์ ให้สามารถมีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และ Digital Transformation แบบครบวงจร ในการนำดิจิทัลไปใช้ในการทำธุรกิจ รวมถึงวางแผนด้านเทคโนโลยีด้วยว่าธุรกิจเองต้องจัดซื้อ สร้างอะไรบ้าง

โดยนำหลักวิธีการที่ดีที่สุดจากบริษัทระดับโลกที่เขาใช้กันมาสร้างกระบวนการให้คำปรึกษาด้านนี้ และ Implement ได้ด้วย เช่น Mobile App, ระบบหลังบ้านต่างๆ ง่ายๆ คือเราสามารถช่วยลูกค้าทั้งในฝั่งของ Business และ Deep Technology ด้วย เช่น AI, Blockchain รวมถึงมี Joint Venture ที่ตอนนี้ทำร่วมกับ OR ของ ปตท. มีหน้าที่ในการสร้าง Innovation ในอุตสาหกรรมค้าปลีก เพื่อให้ช่องทางต่างๆ ทำงานได้ดีมากขึ้นด้วยการนำข้อมูลมาสร้างมูลค่าเพิ่ม

workpointTODAY : จากจุดเริ่มต้น ถือว่าเติบโตก้าวกระโดดหรือไม่

พชร : มีอัตราเติบโตมาตลอด และเราโชคดีที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมใหญ่ที่องค์กรให้ความสำคัญกับ Digital Transformation ค่อนข้างสูง

workpointTODAY : จุดเริ่มต้นคุณโบ๊ท (พชร)

พชร : ผมเรียนมาในสายวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และ MBA ก่อนหน้านี้ก็ได้ทำงานในบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ชั้นนำของโลก Boston Consulting Group ทำให้เรารู้ว่าองค์กรชั้นนำต่างๆ ให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีหรือดิจิทัลเป็นอันดับหนึ่ง ในการเลือกให้ถูก ปรับใช้ให้เหมาะสมกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งตัวผมและผู้ร่วมก่อตั้งที่ทุกคนมาจากบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก มองเห็นโอกาสว่าประเทศไทยรวมถึง South East Asia ถือว่ามีบริษัททำหน้าที่ด้านนี้น้อยมาก

workpointTODAY : ทิศทางการปรับตัวด้าน Digital Transformation ของบริษัทต่างๆ พอมีโควิดแล้วยิ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

พชร : Digital Transformation เราพูดกันมาเกือบ 10 ปี พอในปัจจุบันเราเจอวิกฤตโควิดก็ทำให้บริษัทต่างๆ เริ่มมาใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น จากที่ไม่ได้คิดว่ามันจะมาเร็ว โลกเปลี่ยนหมด เรากินข้าว ทำธุรกรรมผ่านดิจิทัล ลดการออกจากบ้าน ในมุมของผู้บริโภคโดนบังคับว่าต้องใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นหลัก และในมุมของบริษัทก็เช่นกัน ต้องการทำงานจากที่บ้านแต่ยังต้องมีประสิทธิภาพเช่นเดิม ก็นำมาซึ่งการใช้งานระบบดิจิทัลทั้งหมด ทั้งการจัดการภายในองค์กร และส่งต่อไปสู่ผู้บริโภค

เพราะฉะนั้นถ้าเรายังใช้วิธีการเดิมๆ ในการทำธุรกิจ เช่น ต้องใช้เอกสารเท่านี้ๆ หรือไม่สามารถสื่อสารกับพนักงานได้ทุกที่หรือนอกประเทศเป็นเรื่องยากเนี่ย วันนี้จะตามไม่ทันแล้ว

workpointTODAY : เมื่อเราเจอวิกฤตเช่นนี้ ทำไมองค์กรต่างๆ ยังต้องใช้บริการบริษัทที่ปรึกษาอยู่ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี และราคาที่จ่ายเท่าที่รู้ค่อนข้างสูง จะคุ้มค่าไหมในการใช้บริการบริษัทที่ปรึกษาในช่วงเวลานี้

พชร : ต้องบอกว่าส่วนใหญ่บริษัทที่ใช้งานบริษัทที่ปรึกษาจะเป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งมีการแข่งขันสูง เหมือนนักกีฬาที่แข่งขันอยู่ในระดับสูงสุด ก็จะต้องมีโค้ชหลายด้านมากๆ ตามประกบ เพราะผู้เล่นจากทั่วโลกเป็นระดับสูงเช่นกัน

เพราะฉะนั้นในอุตสาหกรรมที่บริษัทเหล่านี้อยู่การแข่งขันจะรุนแรงมาก ถ้าเขาสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพได้แม้จะนิดเดียวเลยก็สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้มหาศาล ถ้าปรับตัวไม่ทันก็อาจจะพ่ายแพ้ได้ในที่สุด จึงเป็นทางเลือกที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาในแต่ละด้านเข้ามาช่วยเหลือ เช่น บริษัทสามารถที่จะโฟกัสการทำงานหลักของเขาได้

ยกตัวอย่างคือนักกีฬาจะมามัวเสียเวลาวางแผนการซ้อมเองทุกอย่างก็ไม่ใช่ ยิ่งช่วงที่ต้องมีการเร่งการปรับเปลี่ยนแบบนี้ หน้าที่ของที่ปรึกษาก็คือโฟกัสกับเรื่องการ Transformation ส่วนเรื่องที่เป็นการดำเนินธุรกิจหลักผู้บริหารและพนักงานยังโฟกัสได้อยู่

และที่สำคัญเลยตอนนี้คือโลกเปลี่ยนเร็ว โอกาสแต่ละครั้งผ่านมาและผ่านไปไม่กลับมาอีกแล้ว อย่างในโควิดก็มีโอกาสต่างๆเกิดขึ้น เช่น Delivery ซึ่งใครสามารถจับโอกาสนี้ได้ก็จะเติบโตอย่างมาก การมีที่ปรึกษาที่ครบทุกด้านทั้งกลยุทธ์ทางธุรกิจ เทคโนโลยี เรื่องคน ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ปรับตัวทันคว้าโอกาสที่เข้ามาได้ เพราะมูลค่าความเสียหายจากโอกาสมันมหาศาลมาก

workpointTODAY : ภาพรวมของบริษัทที่ปรึกษาในไทยเป็นอย่างไรบ้าง (Tier)

พชร : ส่วนที่องค์กรขนาดใหญ่ใช้กันเป็นบริษัทต่างชาติ

  1. ประเภทกลุ่มที่สูงที่สุด กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ จะมีบุคลากรชั้นนำเยอะมาก เน้นเรื่องกลยุทธ์ ค่าใช้จ่ายแพง
  2. ประเภทกลุ่มกลางๆ มีการวางแผนด้วยรวมไปถึง Implement ด้วย ทั้งการด้านการเงิน และเทคโนโลยีด้วย
  3. ประเภทแบบเจาะจง เช่นในงานราชการ หรือในอสังหาฯ ก็อาจจะมีที่ปรึกษาเรื่องการก่อสร้างที่มีความเสี่ยงหรือซับซ้อน

แต่โดยรวมในด้าน Digital Transformation ในไทยจะยังไม่ค่อยมีบริษัทที่ปรึกษาในด้านนี้ ส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นที่ปรึกษาที่คอยช่วยเรื่องระบบ แต่วางแผนกลยุทธ์จนไปถึงการวางแผนเรื่อง Implement ระบบอย่าง Deep Tech จะยังไม่มี ส่วนใหญ่จะใช้งานบริษัทที่ปรึกษาใหญ่ๆ จากต่างชาติอยู่ไม่กี่เจ้าที่เราคุ้นๆ ชื่อกันดี

workpointTODAY : จุดแข็งที่แตกต่างจากแบรนด์ระดับโลก

พชร : เรื่อง Digital Transformation หลายบริษัทก็จะมีจุดเน้นที่แตกต่างกัน อย่าง Bluebik เราก็มาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ก็จะเห็นจุดอ่อนจุดแข็งมาเยอะ อย่างเช่น บริษัท Tier ด้านกลยุทธ์ก็มีจุดอ่อนคือไม่สามารถช่วยลูกค้า Implement  ได้ด้วยราคา ความแพง ส่วนบริษัทที่กลางๆ มีการวางแผนด้วยรวมไปถึง Implement ด้วย ก็อาจจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์มากพอ ซึ่งเรานำตรงนี้มาผนวกกัน ทำให้เราสามารถเป็น One Stop Service Provider ได้

อีกจุดที่เรามองว่าแตกต่างคือ ผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำในประเทศที่มีประสบการณ์มากมาย มานั่งเป็นกรรมการ เป็นที่ปรึกษาให้กับ Bluebik ด้วย ซึ่งในบริษัทต่างชาติไม่มี เราเลยมองว่านี้เป็นจุดแข็งจากประสบการณ์จากอุตสาหกรรมต่างๆ ที่หลายๆ ท่านมี ทำให้เราสามารถให้คำปรึกษาลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปใช้ได้จริงมากขึ้น

สุดท้ายเรามองลูกค้าเป็นพาร์ทเนอร์ ถ้าเรามองเห็นโอกาสร่วมกันอาจจะไม่ใช่แค่การให้คำปรึกษา แต่เราเข้าไปร่วมทุนด้วย (Joint Venture) ก่อตั้งเป็นธุรกิจใหม่ขึ้นมาเลย เหมือนที่เราทำกับ OR ปตท. อันนี้ต่างจากบริษัทที่ปรึกษาอื่นๆ แน่นอน

workpointTODAY : อุตสาหกรรมไหนตอนนี้ที่น่าเป็นห่วง ต้องการที่ปรึกษา

พชร : องค์กรที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะในช่วงนี้ อาจจะไม่ได้เรียกว่าน่าเป็นห่วง เพราะองค์กรขนาดใหญ่สามารถจัดการเรื่องของกระแสเงินสดได้ดี คือจะอยู่ต่อไปได้ แต่เห็นความเสี่ยงและโอกาสชัดขึ้น นำมาซึ่งเหตุผลที่เขาต้องการบริษัทที่ปรึกษาจะเป็นเรื่องของอนาคตมากกว่า ทั้งผู้บริโภคและพนักงานงานทุกอย่างเปลี่ยนไปเยอะมาก

อย่างอุตสาหกรรมการเงิน ค้าปลีก ประกันภัย พวกนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ธนาคารคนไปที่สาขาน้อยลงมาก เพราะฉะนั้นระบบงานต่างๆ ที่เป็นดิจิทัลก็ต้องพร้อมรองรับ รวมถึงการนำข้อมูลมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกเยอะมาก พวกโทรคมมาคมก็ต้องตื่นตัวแล้วว่าข้อมูลที่ไหลผ่านมหาศาลจะนำมาสิ่งธุรกิจใหม่ๆ ได้ไหม

workpointTODAY : ปัจจัยที่ช่วยให้องค์กรรอดในวิกฤต จากนี้มีอะไรบ้างเพราะประเมินยากเหลือเกิน

พชร :

  1. เรื่องกระแสเงินสด ต้องโฟกัสเป็นพิเศษโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก สายป่านอาจจะสั้น มีช่องทางเข้าถึงเงินทุนน้อย ต้องลดค่าใช้จ่ายสำคัญ คือต้องหารายได้มาชดเชย และเข้าถึงช่องทางออนไลน์ให้ได้ทั้งหมด หรือศักยภาพคนที่เรามีอยู่สามารถทำอะไรอื่นๆ เป็นธุรกิจใหม่ขึ้นมาได้ไหม
  2. ระยะกลาง พิจารณาบิสิเนสโมเดลใหม่ๆ เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนไปเยอะ เลือกโมเดลที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น คือไม่ลงทุนทีเดียว แต่ทยอยจ่ายแบบ Subscription เพราะความไม่แน่นอนสูง
  3. ระยะไกล พิจารณาเรื่องของข้อมูลบนดิจิทัล นำมาใช้งานให้ได้

workpointTODAY : สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ในการเข้าสู่ IPO ของ Bluebik

พชร : เรามีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง เรามีแผนในการลงทุนในซอฟต์แวร์ต่างๆ ด้วย ซึ่งจะเพิ่มการเข้าถึงในธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็กกับเราด้วย นอกจากนี้ก็คือตั้งใจจะทำ M&A (Mergers and Acquisitions) เพื่อให้เราเป็น One Stop Service Provider ได้อย่างสมบูรณ์ เพิ่มช่องทาง สร้างโอกาสในธุรกิจใหม่ๆ

ชมคลิปฉบับเต็ม

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า