สธ.ใช้กลยุทธ์ Bubble and Seal ควบคุมโควิด-19 สมุทรสาคร ล่าสุดติดเชื้อเพิ่ม 777 ราย

สสจ.สมุทรสาคร รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 777 ราย จากการค้นหาเชิงรุก 759 ราย เป็นคนไทย 92 ราย ต่างด้าว 667 ราย  ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 12,907 ราย ด้านกระทรวงสาธารณสุขปรับใช้กลยุทธ์ Bubble and Seal ควบคุมในโรงงานขนาดใหญ่ 

วันที่ 3 ก.พ.2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร ณ เวลา 24.00 น.วันที่ 2 ก.พ. 64 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 777 ราย เป็นการพบผู้ติดเชื้อจากการตรวจในโรงพยาบาล 18 ราย เป็นคนไทย 8 ราย ต่างด้าว 10 ราย พบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 759ราย เป็นคนไทย 92 ราย ต่างด้าว 667 ราย

รวมยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในจังหวัดสมุทรสาคร นับตั้งแต่มีการระบาดรอบใหม่อยู่ที่ 12,907 ราย เป็นการพบผู้ติดเชื้อจากการค้นหาตัดกรองเชิงรุก 11,118 ราย เป็นคนไทย 1,024 ราย ต่างด้าว 10,094 ราย พบเชื้อจากการตรวจในโรงพยาบาล 1,789 ราย เป็นคนไทย 1,007 ราย ต่างด้าว 782 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาหาย/จำหน่ายเคสแล้ว 6,267 ราย (เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 745 ราย) เป็นคนไทย 1,464 ราย (เพิ่มขึ้น 39 ราย) ต่างด้าว 4,803 ราย (เพิ่มขึ้น 706 ราย) มีผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย

ส่วนผู้ติดเชื้ออยู่ระหว่างการดูแลรักษามีทั้งหมด 6,635 ราย เป็นการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 957 ราย แบ่งเป็นคนไทย 563 ราย ต่างด้าว 394 ราย อยู่ในสถานที่กักตัวเพื่อสังเกตอาการ 5,678 ราย เป็นต่างด้าวทั้งหมด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา มีการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนทั้งสิ้น 2,628 ราย ได้รับผลตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่ม 10,171 ราย รวมจำนวนการตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนนับตั้งแต่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากตลาดกลางกุ้งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 ดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 138,974 ราย ได้รับผลตรวจทางห้องปฏิบัติการรวมแล้ว 127,107ราย มีผลเป็นบวก (พบเชื้อ) รวม 11,118 ราย

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โควิด 19 ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร โดยนายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อติดตามและร่วมวางแผนแก้ไขสถานการณ์โควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร หลังพบจุดเสี่ยงสำคัญการติดเชื้อโควิด 19 อยู่ในโรงงานเป็นหลัก จึงต้องบริหารจัดการโดยใช้มาตรการทางสังคมและมาตรการองค์กร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกแบบกลยุทธ์เฉพาะจังหวัดสมุทรสาคร ใช้หลักการจัดการโควิด 19 ในโรงงานอย่างมีส่วนร่วม (Bubble and Seal) เพื่อควบคุมเชื้อไม่ให้หลุดออกมาสู่สังคมภายนอก เน้นในโรงงานขนาดใหญ่ (มีพนักงานมากกว่า 500 คน) เป้าหมายลดความเสี่ยงในที่ทำงานและที่อยู่อาศัย และลดความเสี่ยงของกลุ่มพนักงาน เพื่อควบคุมโรคให้ได้ตามแผนที่วางไว้

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับสถานประกอบการ เรื่องลักษณะที่พัก การเดินทาง การใช้ชีวิตประจำวันพนักงานในสถานที่ทำงาน และมาตรการของโรงงานในการกำกับดูแล พบมี 7 โรงงานที่เข้าเกณฑ์ที่จะดำเนินการตามหลักการ Bubble and Seal มีพนักงานรวม 50,083 คน ขณะนี้ 3 โรงงานเริ่มดำเนินการแล้ว ส่วนอีก 4 โรงงานเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ซึ่งไม่มีที่พักให้กับพนักงาน จะประสานหาแนวทางและปรับรูปแบบที่เหมาะสมให้สามารถควบคุมโรคได้ ส่วนในโรงงานขนาดกลางและขนาดเล็ก ยังคงใช้หลักการตรวจหาเชื้อเชิงรุก (Active Case Finding) โดยเมื่อพบผู้ติดเชื้อจะนำออกมารักษาตามระบบ ส่วนผู้ไม่ติดเชื้อให้ทำงานต่อได้

สำหรับหลักการจัดการโควิด-19 ในโรงงานอย่างมีส่วนร่วม (Bubble and Seal) คือ Seal ใช้กับโรงงานที่พนักงานสามารถพักในโรงงานได้ เอื้อต่อการใช้มาตรการ คาดว่าใช้เวลา 28 วันจะสามารถควบคุมโรคได้
ส่วน Bubble ใช้กับโรงงานที่พนักงานพักอยู่นอกโรงงาน จะมีการควบคุมโรคที่ยากกว่า ขอความร่วมมือเจ้าของโรงงานนำพนักงานมาอยู่ในโรงงานให้มากขึ้น หรือจัดหาที่พักพนักงานให้อยู่ในสถานที่ที่กำหนด ควบคุมได้ เช่น หอพัก พร้อมให้โรงงานเข้มมาตรการป้องกันโรค นอกจากนี้ ได้ประสานฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงเข้าร่วมควบคุมพื้นที่ตามแผน ส่วนเรื่องการปิดโรงงานจะดำเนินการเป็นวิธีสุดท้าย นอกจากพบว่าเป็นแหล่งเพาะเชื้อและไม่สามารถควบคุมโรคได้จะประสานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพื่อออกคำสั่งต่อไป