ทั่วโลกคุมเข้มนักเดินทางจีน สกัดโควิด-19

หลายประเทศทั่วโลกเริ่มทยอยยกระดับมาตรการควบคุมโควิด-19 เพื่อเตรียมรับมือนักเดินทางจากจีนที่คาดว่าจะหลั่งไหลออกนอกประเทศ หลังจากที่จีนประกาศเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. เป็นต้นไป ขณะที่มีรายงานว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจีนยังคงพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังมีการยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่รัฐบาลจีนบังคับใช้อย่างเข้มงวดมานานเกือบ 3 ปี เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศ 

จนถึงตอนนี้มีมากกว่า 12 ประเทศ ที่ประกาศมาตรการจำกัดนักเดินทางที่มาจากจีน ทั้งการระบุให้มีการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด และแสดงผลตรวจเชื้อเป็นลบก่อนออกเดินทาง ไปจนถึงการสุ่มตรวจเชื้อจากนักเดินทาง สุ่มตรวจน้ำทิ้งบนเครื่องบิน ตลอดจนการปิดรับนักเดินทางจากจีน เพื่อสกัดการแพร่กระจายเชื้อ 

สำนักข่าว TODAY จะพาไปดูว่าประเทศต่างๆ มีมาตรการเตรียมรับมือนักท่องเที่ยวจากจีนอย่างไรกันบ้าง 

• สหรัฐฯ เป็นประเทศแรกๆ ที่ออกมาประกาศมาตรการรับมือนักท่องเที่ยวจีน โดยกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีน รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า ต้องตรวจโควิด-19 ด้วยวิธีการแบบ RT-PCR ภายใน 48 ชั่วโมง และมีผลตรวจเป็นลบ ก่อนออกเดินทางมายังสหรัฐฯ ซึ่งต่อมาออสเตรเลีย และแคนาดา ก็ได้ออกมาประกาศใช้มาตรการในลักษณะเดียวกัน 

• เช่นเดียวกับประเทศในยุโรปอย่างอังกฤษ, อิตาลี, ฝรั่งเศส และสเปน ก็มีการประกาศใช้มาตรการที่คล้ายกัน คือให้ตรวจโควิด-19 ภายใน 48 ชั่วโมง และต้องมีผลตรวจเป็นลบก่อนออกเดินทาง 

• โดยอังกฤษจะให้นักเดินทางที่มาจากจีน ตรวจโควิด-19 อีกครั้งเมื่อเดินทางถึงสนามบิน แต่ให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ 

• ด้านสเปนและอิตาลี มีข้อบังคับให้นักเดินทางจากจีนทุกคนต้องตรวจโควิด-19 ซ้ำอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงสนามบิน ยกเว้นผู้ที่มีใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว จะไม่ต้องตรวจโควิด-19 ซ้ำที่สนามบินในสเปน 

• ขณะที่ฝรั่งเศส กำหนดให้มีการสุ่มตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากผู้ที่เดินทางมาจากจีนเมื่อเดินทางถึงสนามบินในประเทศ 

• นอกจากนี้ ยังมีอิสราเอล ที่ออกมาประกาศให้นักเดินทางที่มาจากจีนทุกคนแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนขึ้นเครื่องบิน โดยขอความร่วมมือสายการบินต่างๆ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีผลตรวจมาแสดงขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปยังอิสราเอล พร้อมกับแนะนำพลเมืองของอิสราเอลให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปจีนในช่วงนี้เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

• ประเทศในฝั่งเอเชียอย่างอินเดีย ก็มีการกำหนดมาตรการเข้มงวด ด้วยการประกาศให้นักเดินทางจากจีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์ และไทย ต้องตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR และมีผลตรวจเป็นลบ ก่อนออกเดินทาง และหากผู้ใดมีอาการที่คล้ายกับติดเชื้อโควิด-19 หรือมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก เมื่ออยู่ในอินเดีย จะต้องกักตัวตามข้อกำหนดของรัฐบาล

• เกาหลีใต้ มีการกำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีน จะต้องตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ภายใน 48 ชั่วโมง หรือ ATK ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมแสดงผลตรวจเป็นลบ ก่อนออกเดินทาง และต้องมารับการตรวจแบบ RT-PCR ซ้ำอีกครั้ง เมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ รวมถึงมีการจำกัดการออกวีซ่าระยะสั้นนักเดินทางจากจีนไปจนถึงสิ้นเดือน ม.ค. 2566 และไม่อนุญาตให้เพิ่มเที่ยวบินจากจีน

• ญี่ปุ่น กำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องทำการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง และตรวจแบบ RT-PCR ซ้ำอีกครั้งเมื่อเดินทางถึงสนามบิน และหากพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จะต้องถูกกักตัว 7 วันในกรณีที่เป็นการติดเชื้อแบบแสดงอาการ และ 5 วัน หากติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ รวมถึงไม่อนุญาตให้มีการเพิ่มเที่ยวบินที่มาจากจีน และจำกัดการรับเที่ยวบินขาเข้าจากจีนเฉพาะในสนามบินหลัก 4 แห่ง ได้แก่ นาริตะ ฮาเนดะ คันไซ ชูบุ

• ขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านของไทย อย่างมาเลเซีย ก็มีการประกาศยกระดับมาตรการคุมเข้มพรมแดน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เข้ามาในประเทศ โดยกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศทุกคนที่เดินทางเข้ามาเลเซีย ต้องผ่านการตรวจวัดไข้ และหากพบว่ามีไข้จะต้องเข้ารับการตรวจหาโควิด-19 ต่อไป รวมทั้งยังจะมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในน้ำเสียจากเครื่องบินที่มาจากจีนทุกลำด้วย 

• สำหรับประเทศที่มีความเคลื่อนไหวเข้มข้นที่สุดในขณะนี้ คือ โมร็อกโก เป็นประเทศแรกในโลกที่สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีน ไม่ว่าจะถือสัญชาติใด เดินทางเข้าประเทศ โดยมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง 

• ส่วนในฝั่งของจีน ได้มีการกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าสู่จีนจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเป็นลบ และระบุว่าจะยกเลิกมาตรการกักตัวในโรงแรม