สวนทางเศรษฐกิจโลก สตาร์ทอัพสาย Climate Tech กำลังโต นักลงทุนให้ความสนใจ

เศรษฐกิจขาลง กระทบทุกอุตสาหกรรม แม้แต่อุตสาหกรรมที่ดูมีอนาคตอย่างเทคโนโลยีก็ยังโดนทุบกระจาย เจ็บหนักทั้งบริษัทใหญ่ เล็ก สตาร์ทอัพยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะภาวะขาลงทำให้นักลงทุนและกองทุน VC ต่างชะลอการลงทุน รัดเข็มขัด และคิดเยอะมากขึ้นก่อนจะลงทุนในบริษัทอะไร

แต่อาจจะยกเว้นสตาร์ทอัพสายสิ่งแวดล้อมอย่างสาย Climate Tech ที่นับวันเริ่มจะเติบโต และเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มนักลงทุนมากขึ้น 

ข้อมูลจาก  BloombergNEF กลุ่มวิจัยพลังงานสะอาด เผยว่า มีการดีลลงทุนในสตาร์ทอัพสาย Climate Tech 539 ดีลในไตรมาสสามที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 547 ดีล การระดมทุนแต่ละไตรมาสสูงหลักหมื่นล้านดอลลาร์  มีแกว่งขึ้นลงบ้าง แต่ก็ยังสะท้อนผลบวก 

มีมุมมองที่น่าสนใจจาก Sarrah Raza นักวิเคราะห์ของ BloombergNEF บอกว่า จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ว่านักลงทุนไม่มีเงินจะไปลงทุนในสตาร์ทอัพ เงินทุนนั้นมีมากพอ แต่จำนวนสตาร์ทอัพ มีน้อยเกินไปต่างหาก ทำให้ภาพรวมสตาร์ทอัพดูมีการลงทุนลดลง

สะท้อนว่าความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมได้ส่งไปถึงนักลงทุนแล้ว และนักลงทุนเองก็มองหาสตาร์ทอัพที่จะพัฒนาเทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหา Climate Tech ที่กลายเป็นปัญหาเร่งด่วน รอไม่ได้

Energy เป็นเซกเตอร์ที่มาแรงในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา คิดเป็น 53% ของเงินทุนทั้งไตรมาส หรือ 5.7 พันล้านดอลลาร์ โดยดีลที่ใหญ่ที่สุด 13 ดีล เป็นของบริษัทที่มุ่งเน้นการจัดหาพลังงานสะอาด โดยส่วนใหญ่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดย Northvolt บริษัทแบตเตอรี่ในสตอกโฮล์มได้เงินทุนไปก่อนใหญ่ที่สุด 

การขนส่งมาแรงเป็นอันดับสอง ต่อมาคือภาคการเกษตร แต่ก็ยังคงมีภาพรวมลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี แต่ Sarrah Raza มองว่ายังมีกระแสเงินจำนวนมากที่พร้อมจะไหลเข้ามาในเซกเตอร์นี้ เป็นแรงบันดาลใจให้สตาร์ทอัพสาย Climate Tech เข้ามาเริ่มต้นพัฒนานวัตกรรมต่อไป

นอกจากนี้ยังน่าตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ปรากฏการณ์ Tech Lays-Off อาจช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรม Climate Tech ได้ในอีกทางหนึ่ง เพราะในขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสายหลักกำลังชะลอตัว แต่สาย Climate Tech กำลังขยายตัว และแน่นอนว่าก็ต้องการกำลังคนด้วย ทำให้แรงงานที่ถูกปลดสามารถหางานใหม่ได้ง่ายในบริษัทสาย Climate Tech

ที่มา : Bloomberg 1, 2