Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ เลิกห้ามผู้เดินทางจาก 8 ชาติแอฟริกาเข้าประเทศ หลังโควิดสายพันธุ์โอไมครอนระบาดหนัก เป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ ไปแล้ว

วันที่ 25 ธ.ค. 2564 เว็บไซต์ BBC รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกมาตรการห้ามผู้เดินทางจาก 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเข้าประเทศ มีผลในวันที่ 31 ธ.ค. เป็นต้นไป

มาตรการดังกล่าวบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา มีผลกับประเทศแอฟริกาใต้, บอตสวานา, ซิมบับเว, โมซัมบิก, นามีเบีย, เลโซโท, เอสวาตินี และมาลาวี ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ให้เหตุผลในตอนนั้นว่า เพื่อเป็นการทำความเข้าใจถึงความรุนแรงของไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์โอไมครอน

ท่าทีของสหรัฐฯ รวมทั้งหลายประเทศ ที่ประกาศห้ามผู้เดินทางจากชาติแอฟริกาเข้า ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้าง โดยนายอันโตนีโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ถึงขั้นระบุว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการแบ่งแยกสีผิวด้านการเดินทาง

อย่างไรก็ตาม การยกเลิกมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯ พบการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน จนกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศแล้ว โดยข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในสหรัฐฯ มากถึง 73% ในสัปดาห์นี้ ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน

โดยสถานการณ์ในสหรัฐฯ ตอนนี้ ถือได้ว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มากกว่า 176,000 ราย สูงกว่าการระบาดรุนแรงของสายพันธุ์เดลตาในรอบที่แล้ว ซึ่งนี่อาจเป็นข้อมูลที่ยืนยันได้ว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน อาจมีฤทธิ์ในการแพร่เชื้อได้เร็วกว่าโควิดสายพันธุ์ก่อนหน้า

ขณะที่ความรุนแรงของโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลายฝ่ายประเมินว่าอาจมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์ที่ผ่านมา ซึ่งในกรณีของสหรัฐฯ แม้จะยังไม่มีการวิจัยออกมาแน่ชัดถึงข้อสันนิษฐานนี้ แต่สถิติของสหรัฐฯ พบผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเพียง 1 ราย เป็นชายช่วงอายุ 50-59 ปี มีปัญหาสุขภาพและไม่ได้ฉีดวัคซีน

workpointTODAY เพิ่งสรุปงานวิจัยจากทั่วโลก เพื่อทำความเข้าใจไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หลังมนุษยชาติพบการระบาดของสายพันธุ์นี้แล้วเป็นเวลา 1 เดือน ติดตามที่คลิปนี้

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า