Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ซีพี ออลล์ ร่วม สสว.-กสอ. จัด “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020” ปี 2 ส่งต่อ 7 โอกาส ตอบโจทย์ SME-นักเรียน-นักช้อป กับ 9 โซนสินค้ากว่า 300 บูธ พร้อมเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรภาคเหนือ-อีสาน-ใต้ ร่วมออกร้าน

สมชื่องาน “วันแห่งโอกาสดี” จริงๆ บอกเลยว่าใครไม่ได้มา อดเสียดายแทนไม่ได้ โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว ในชื่องาน “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020” ที่ “ซีพี ออลล์” ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดงานตลาดนัดแห่งโอกาส เมื่อวันที่ 26-28 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา ณ อาคาร B ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

โดย บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย ได้จัดงานตลาดนัดแห่งโอกาส “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020” ขึ้น เพื่อให้เป็นตลาดนัดแห่งโอกาส คับคั่งไปด้วยบูธสินค้าเอสเอ็มอี-ภาครัฐ-เอกชน-สถาบันการเงิน รวมกว่า 300 บูธ รวมทั้งยังส่งมอบ 7 โอกาส แก่คนทุกกลุ่ม ทั้ง SME นักเรียน นักศึกษา คนหางาน ประชาชนทั่วไป บนพื้นที่ราวหมื่น ตร.ม. และได้รวบรวมวิทยากรหลากหลายแวดวง ร่วมแบ่งปันเคล็ดลับและความรู้ ตลอดการจัดงาน 3 วัน ที่สำคัญคือปีนี้ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรและกลุ่มชาวบ้านทั้งจากภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ มาร่วมออกร้านเป็นครั้งแรกด้วย สอดคล้องกับปณิธานของซีพี ออลล์ ที่มุ่งมั่น “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน”

สำหรับคอนเซ็ปต์การจัดงานในปีนี้ เป็นการมอบ 7 โอกาส ประกอบด้วย 1.โอกาสรับทุนการศึกษา 2.โอกาสในการมีงานทำ 3.โอกาสร่วมธุรกิจร้านเซเว่น อีเลฟเว่น 4. โอกาสเป็นคู่ค้าธุรกิจจำหน่ายสินค้าผ่านร้าน  เซเว่นฯ และ ทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง 5.โอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดี 6.โอกาสทางความรู้ และ 7.โอกาสช้อปสินค้าดีมีคุณภาพ ผ่านพื้นที่ 9 โซน ได้แก่ 1.โซนองค์ความรู้ (เวทีใหญ่) 2.โซนซีพี ออลล์พาวิลเลี่ยน 3.โซนทุนการศึกษา 4.โซน Job Fair 5.โซนสินค้าเกษตรคุณภาพ 6. โซนสินค้าเอสเอ็มอีและผลิตภัณฑ์ชุมชน 7. โซน SME Clinic 8. โซน Business Matching และ 9.โซนบันไดสู่การร่วมธุรกิจร้านเซเว่นฯ ซึ่งแต่ละบูธได้ขนโปรโมชั่นมาไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ให้ได้ช้อปกันอย่างจุใจ โดยเข้าร่วมงานทุกโซนได้ฟรี !!!

ภายในงานยังมีไฮไลต์เด็ดเพื่อคนทุกกลุ่ม อาทิ การมอบทุนการศึกษาในระดับ ปวช.-ปริญญาตรี หลากหลายสาขา หลากหลายคณะ และการเปิดรับสมัครนักเรียนทุนเพิ่มเติมในวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (PAT) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) รวมจำนวนทุนการศึกษากว่า 12,000 ทุน หรือกว่า 1,000 ล้านบาท การเปิดรับสมัครงานในกลุ่มซีพี ออลล์ กว่า 35,000 ตำแหน่ง

รวมทั้งการมอบรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2562 แบ่งออกเป็น 7 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัล SME ยั่งยืน, รางวัล SME ยอดเยี่ยม, รางวัล SME ดาวรุ่ง, รางวัล SME สินค้าเกษตร, รางวัล SME เพื่อชุมชน, รางวัล SME ความคิดสร้างสรรค์ และรางวัล SME ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ

คุณศิริรัตน์ ศรัณย์เวชกุล ผจก.บจก.คุณเก๋ ขนมหวาน 1 ใน 4 บริษัทที่ได้รับรางวัลประเภท SME ยั่งยืน กล่าวว่า บริษัทฯ ทำขนมหวานจำหน่าย โดยชื่อบริษัท “คุณเก๋” คือชื่อของลูกสาว ซึ่งได้ส่งสินค้าจำหน่ายกับทางเซเว่นฯ มากว่า 11 ปีแล้ว มีสินค้าที่วางจำหน่าย 4 รายการ ได้แก่ สาคูเปียกข้าวโพด, สาคูแคนตาลูป, วุ้นกะทิ และแกงบวดฟักทอง

“ดั้งเดิมเราทำวุ้นกะทิขายแบบตู้เดียวแถวบางแคมากว่า 20 ปีแล้ว พอไปออกบูธในงานที่เมืองทองฯ ทีมงานเซเว่นฯ มาเจอก็ชอบใจ เลยส่งคนมาแนะนำข้อมูลต่างๆ ให้ เราก็ปรับปรุงพัฒนามาโดยตลอด จนปัจจุบันขยายโรงงานมาอยู่ที่ลาดหลุมแก้วแล้ว ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ได้ส่งสินค้าให้เซเว่นฯ จำหน่าย ซึ่งส่งขายกับเซเว่นฯ มาประมาณ 11 ปี ในอนาคตเราก็จะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้าเซเว่นฯ อีกหลายตัว อย่างเร็วๆ นี้จะส่งครองแครงมะพร้าวอ่อนเข้าจำหน่ายก่อน

ตลอดเวลาที่ผ่านมาทีมเซเว่นฯ เข้าไปมาตรวจสอบคุณภาพที่โรงงานตลอด และให้คำแนะนำที่ดี สิ่งไหนถูกต้องเราควรปฏิบัติตาม สิ่งไหนไม่ดีเขาก็บอก ทำให้เราพัฒนาได้ตลอด วัตถุดิบที่เรานำมาทำเราใช้ของคุณภาพดี อย่างมะพร้าวเราก็เอามาจากสวนของเกษตรกรเลย พอเซเว่นฯ ตกลงว่าจะสั่งสินค้าตัวไหนแน่ๆ เราก็จะเพิ่มเครื่องจักรขึ้นมา เหมือนเราได้รับโอกาสจากทางเซเว่นฯ เราก็ส่งต่อด้วยการนำสินค้าไปทำบุญกับบ้านพักคนชราและนำไปช่วยตามงานบุญต่างๆ อยู่ตลอด ที่ได้รางวัลวันนี้ก็ดีใจมากค่ะ เป็นกำลังใจให้เราพัฒนาสินค้าและคุณภาพให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป” คุณศิริรัตน์ กล่าว

สำหรับรางวัลประเภท SME ยอดเยี่ยม ในปีนี้มี 2 บริษัทที่ได้รางวัล ได้แก่ บริษัท แฮนดี้เฮลท์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมกลุ่มสมุนไพร Handy Herb และบริษัท เจแอลซี กรุ๊ป จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมจุฬาเฮิร์บ

ส่วนรางวัล SME ดาวรุ่ง มี 2 บริษัทที่ได้ คือ บริษัท บีทีวาย ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ขนมหวานบ้านทองหยอด และ บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ (ไลฟ์สตอรี่) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ รอยัลบิวตี้ คอลลาเจน

นายรัตนพงศ์ ศรีโรจนันท์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ครีมความงาม Royal Beauty (รอยัลบิวตี้ คอลลาเจน) หรือที่คุ้นเคยกันดีในรูปแบบครีมซอง vit C จาก บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ (ไลฟ์สตอรี่) จำกัด ซึ่งบริษัทแม่นั้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายถุงเท้าคาร์สัน แต่แตกไลน์ธุรกิจมาสู่ผลิตภัณฑ์ความงาม หนึ่งในบริษัทที่ได้รับรางวัลประเภท SME ดาวรุ่ง ซึ่งมียอดจำหน่ายครีมซอง vit C กว่า 10 ล้านซอง ก็ได้เผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจว่า หัวใจสำคัญนั้นประกอบไปด้วย 5 ปัจจัย คือ 1. สินค้าภาพลักษณ์ต้องดูดี 2. คุณภาพต้องดี 3. ราคาเข้าถึงง่าย ซึ่งปัจจุบันขายอยู่ซองละ 39 บาท 4. ให้ลูกค้าเป็นพรีเซ็นเตอร์ และ 5. ต้องมีทีมงานที่ดี

รางวัล SME สินค้าเกษตร ปีนี้มี 1 บริษัท กับ 1 บุคคล ที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีเมือง 12490 เจ้าของผลิตภัณฑ์ผลไม้ดองศรีเมือง และ นายภักดี เดชจินดา กับผลิตภัณฑ์ “กล้วยหอมทอง” แสนอร่อย ที่เราต่างคุ้นเคยกันดีในรูปแบบแพ็กถุงขาย 1 ลูก ในเซเว่นฯ นั่นเอง ซึ่งคุณภักดีบอกว่า เดิมนั้นตนปลูกผลไม้ขาย แต่เมื่อมาเห็นว่าเซเว่นฯ มีกล้วยหอมเป็นลูกๆ จำหน่าย จึงได้ติดต่อนำกล้วยหอมซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนผลไม้ที่ตนปลูกมาขายบ้าง และพัฒนาจนได้เข้ามาจำหน่ายกับทางเซเว่นฯ ซึ่งที่เห็นกล้วยหอมทองมีลักษณะอวบ เนื้อแน่น ลูกใหญ่ เพราะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ

“การได้รับโอกาสจากทางเซเว่นฯ ทำให้ผมได้ส่งต่อโอกาสให้กับพี่น้องเกษตรกรที่ปลูกกล้วยหอมทอง สามารถนำกล้วยมาส่งให้ผมได้ เพราะผมมีการประกันราคาให้ด้วย ส่วนการมาออกงานนี้ ผมก็มีโปรโมชั่นขายลูกละ 7 บาท 3 ลูก 20 ให้ทุกคนได้ช้อปกล้วยหอมอร่อยๆ คุณภาพดีกัน” นายภักดี กล่าว

มาถึงรางวัล SME เพื่อชุมชน กันบ้าง ปีนี้มี 3 บริษัท ที่ได้รางวัล ได้แก่ สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) เจ้าของผลิตภัณฑ์ “นมถุงหนองโพ”, บริษัท บานาน่าโซไซตี้ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์” และ บริษัท เอทู จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “หมวกผ้าแบรนด์เอทู”

นายอภิวิชญ์ ศาลา ผจก.ฝ่ายการตลาด สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) กล่าวว่า การได้รับรางวัลครั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลคือ “นมถุงหนองโพ” ซึ่งเป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ วัตถุดิบนั้นมาจากความตั้งใจของเกษตรกรในชุมชน อีกทั้งการนำนมถุงหนองโพมาส่งขายในเซเว่นฯ ยังเป็นการตอบโจทย์ลูกค้าที่โหยหาอดีตในยุค 90 ซึ่งเดิมเคยได้ดื่มเฉพาะแต่ในโรงเรียนสมัยเด็กๆ เท่านั้น และหาซื้อไม่ได้มานาน เมื่อมีจำหน่ายในเซเว่นฯ ก็ทำให้ลูกค้าเหมือนได้ย้อนวันเก่าๆ ให้ระลึกถึง มีความคลาสสิก นอกจากนี้ นมถุงซึ่งเป็นนมพาสเจอร์ไรซ์นั้นผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อต่ำกว่านมกล่อง ทำให้มีอายุอยู่ได้เพียง 10 วัน แต่รสชาติดีกว่า อร่อยกว่า ซึ่งความหอม ความหวาน และคุณค่าสารอาหารมีมากกว่า

(ซ้าย / ถือรางวัล) นายอภิวิชญ์ ศาลา ผจก.ฝ่ายการตลาด สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์)

“เซเว่นฯ เป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ ยอดการส่งนมถุงเข้าไปจำหน่าย ซึ่งแม้อายุการเก็บรักษาจะสั้นกว่าแบบกล่องมาก แต่ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากผู้จำหน่ายให้เราคือเซเว่นฯ ซึ่งมีสาขาทั่วประเทศ เราส่งเข้าเซเว่นฯ 4 หมื่นซองต่อวัน และเดือนเมษาฯ จะส่งนมเปรี้ยวเข้าขายด้วย ปัจจุบันนมถุงหนองโพจำหน่ายในเซเว่นฯ ถุงละ 12 บาท มี 3 รสชาติ ได้แก่ ช็อกโกแลต, สตรอว์เบอร์รี่ และกาแฟ แต่โปรโมชั่นพิเศษในงานนี้จำหน่ายเพียงถุงละ 10 บาท และเนื่องจากเราทำในรูปแบบสหกรณ์ ดังนั้น เกษตรกรจึงได้รับผลดีไปด้วย และเรายังนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนมูลนิธิพระบารมีปกเกล้า ซึ่งก่อตั้งโดยในหลวง ร.9 ด้วย” นายอภิวิชญ์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีรางวัล SME ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งมี 2 บริษัทที่ได้รับรางวัล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจำกัดห้างขายยาห้องยาเภสัช เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ยาสมุนไพรโบว์แดง” และ บริษัท เฮิร์บ พลัส จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “อาหารเสริมสมุนไพร” และอีกรางวัลที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ รางวัล SME ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่ง บริษัท บีซีแอล 2002 จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ “เครื่องเขียน KIAN DA (เคียนดะ)” เป็นบริษัทเดียวที่คว้ารางวัลนี้ไป

คุณเบญจวรรณ รุ่งเจริญชัย กก.ผจก.บริษัท บีซีแอล 2002 จำกัด กล่าวว่า ตนทำเครื่องเขียนขายมา 5 ปีแล้ว ส่งขายให้เซเว่นฯ ที่เดียว ดีใจที่ปีนี้เซเว่นฯ ให้รางวัล SME ความคิดสร้างสรรค์

“จุดเริ่มต้นมาจากที่บ้านทำธุรกิจสิ่งทอ แต่เรามีเถ้าแก่น้อยเป็นไอดอล เลยอยากลองทำธุรกิจตัวเองบ้าง เลยเริ่มที่ปากกาลบได้ และเข้าหาเซเว่นฯ เองเลย และเซเว่นฯ ก็น่ารักมาก ให้โอกาสเรา พัฒนาสินค้าร่วมกัน ส่วนที่มาของคำว่าเคียนดะ มาจากคำว่าเขียนดะ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาไทยมันอาจไม่ตอบโจทย์ลูกค้า เลยทำออกมารูปแบบแบบญี่ปุ่น

ปีที่ผ่านมาเฉพาะสินค้าที่ขายในเซเว่นฯ ทำรายได้ประมาณ 85 ล้าน ถ้ารวมหน้าร้านด้วยก็ประมาณ 100 ล้านบาท ยอดขายเติบโต 100% ทุกปี ปีที่แล้วออกสินค้าใหม่ประมาณ 50 ตัว เฉลี่ยอาทิตย์ละ 1 ตัว ตอนนี้สินค้ามีหลายรูปแบบ ใช้ได้กับทุกเพศทุกวัย และมีแนวสินค้าลิขสิทธิ์ที่เรานำมาดีไซน์ใหม่ ส่วนหัวใจสำคัญของการทำสินค้า อย่างตอนเริ่มต้นที่เราขายปากกา ผู้ซื้อในเซเว่นฯ ลองปากกาไม่ได้ เราต้องมั่นใจว่าหมึกเราดี เขียนแล้วไม่เลอะมือ รูปแบบสวย ราคาจับต้องได้” คุณเบญจวรรณ กล่าว

งาน “วันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020” ปีนี้ ทางซีพี ออลล์ ยังเปิดโอกาสให้ตัวแทนเกษตรกรจากทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ มาร่วมออกบูธเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ และเป็นช่องทางการหารายได้ จำหน่ายสินค้า รวมทั้งได้นำสินค้าสู่สายตาผู้บริโภคให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย

คุณป้าละม้าย มานะการ ผู้ประสานงาน เครือข่ายทรัพยากรชายแดนใต้ กล่าวว่า การมาร่วมงานวันแห่งโอกาสดีฯ ครั้งนี้ เป็นปีแรก และจะมาอีกแน่นอน

คุณป้าละม้าย มานะการ

“ครั้งนี้เรารวบรวมสินค้าจากชุมชน ทั้งจากป่า เขา นา ทะเล มาอยู่ในร้านเครือข่ายทรัพยากรชายแดนใต้ร้านเดียวเลย ซึ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้มี 5 จังหวัด คือ ยะลา, นราธิวาส, ปัตตานี, สงขลา และสตูล จุดเริ่มต้นเกิดจากเมื่อปลายปีที่แล้ว (2562) เราได้เจอตัวแทนจากซีพี ออลล์ ในงานเครือข่ายภาคประชาสังคม เขาก็ชวนมาออกงาน เราก็เลยมา เพราะได้ประชาสัมพันธ์สินค้าไปในตัว และอย่างน้อยก็ได้นำสินค้าจากชุมชนมาโชว์ด้วย กิจกรรมหลักๆ ของเราคือ อนุรักษ์ทรัพยากรที่เป็นฐานรากของชุมชน ดูแลทะเล อย่างปลากุเลา กุ้งแห้ง ทั้งสองอย่างนี้เราได้มาจากชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งใช้เครื่องมือหาปลาที่ไม่ผิดกฎหมายและไม่ทำลายทรัพยากร ซึ่งเรื่องนี้ทางซีพี ออลล์จะรู้ดี เพราะร่วมทำงานกันอยู่ในบางเรื่อง อย่างการวิจัยปลาทู เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีนักธุรกิจท้องถิ่นที่มาร่วม อย่างลูกหยีซึ่งมีทางภาคใต้ก็เป็นสินค้าที่มีการออกแบบที่ดีมาในระดับหนึ่งแล้ว หรือข้าวเกรียบของเราก็มีรสชาติดี เพราะมาจากปลาพื้นบ้าน รวมทั้งข้าวยำที่เราทำขายสดๆ ในงานนี้ ก็มีน้ำบูดู ซึ่งทำมาจากปลากะตัก ไม่ใส่ผงชูรส มะพร้าวก็จากบ้านเรา ปลาป่นก็มาจากปลาทู ปลาหลังเขียว ปลาพื้นบ้านทั้งหมดค่ะ ผักก็เป็นผักพื้นบ้าน ปลูกกันเอง ไม่มีสารเคมี รายได้ส่วนหนึ่งเราก็นำไปส่งเสริมการอนุรักษ์ชุมชน มาวันนี้เราก็ได้ความรู้เพิ่มและอยากพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง คู่ไปกับการอนุรักษ์พัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไปในตัวด้วย ก็ขอขอบคุณซีพี ออลล์ ที่ชวนมาร่วมออกงาน เราก็จะได้นำประสบการณ์ครั้งนี้ไปเผยแพร่ต่อให้ชุมชน และปีหน้าก็จะมาอีกค่ะ” คุณป้าละม้าย กล่าว

ทางด้าน สหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ คุณดวงรัตน์ ญานะ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นตัวแทนของสหกรณ์ฯ ที่ได้มาร่วมงานวันแห่งโอกาสดีฯ ในครั้งนี้ ก็ได้กล่าวว่า งานครั้งนี้ได้นำสินค้าแปรรูปจากสหกรณ์เกษตรอินทรีย์เชียงใหม่ มาจำหน่ายเป็นหลัก ทั้งข้าวกล้อง, ถั่ว, งา, ซีอิ๊ว, เต้าเจี้ยว ฯลฯ ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตทางเกษตรอินทรีย์ ไม่มีสารเคมี รวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืชอินทรีย์ ที่ผู้สนใจนำไปปลูกต่อได้เลย เพราะไม่มีจีโมนต่างๆ และไม่ชุบน้ำยากันเชื้อรา

“ที่มาออกงานนี้เพราะมีเจ้าหน้าที่ของซีพี ออลล์ ประสานงานไป ครั้งแรกเราออกงานที่เชียงใหม่  ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทำให้เราได้กลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ ที่สนใจเรื่องเกษตรอินทรีย์ ได้กลุ่มพันธมิตรใหม่ๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เราได้มาร่วมงานกับทางซีพี ออลล์ ในหลักของการทำธุรกิจ ซึ่งแตกต่างจากที่เราทำเกษตรอินทรีย์ แน่นอนว่าส่งผลดีกับเกษตรกรซึ่งมีโอกาสน้อยที่จะมีโอกาสนำสินค้ามาจำหน่ายในส่วนกลางหรือในกรุงเทพฯ ได้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้รู้จักสินค้าซึ่งเกษตรกรผลิตโดยตรง ในอนาคตเรากำลังจะนำสินค้ามาจำหน่ายกับเซเว่นฯ ด้วย แต่ต้องไปพัฒนาเรื่องแพ็กเกจจิ้งกันก่อน จะเริ่มจากพวกสมุนไพรอบแห้งและซีอิ๊วเต้าเจี้ยว” คุณดวงรัตน์ กล่าว

คุณนวพร ปาปะจีย์ ผู้ทำหน้าที่เป็นฝ่ายการตลาด วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านนาโพธิ์ จ.มหาสารคาม กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนกลุ่มมาออกงานกับทางซีพี ออลล์ ได้นำสินค้าคือ กะหรี่ปั๊บ, ถั่วตัด และข้าว รวมทั้งสินค้าอื่นๆ ของชุมชนมาจำหน่าย ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการหาช่องทางจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชนด้วย

“อย่างกะหรี่ปั๊บและถั่วตัดของเราเป็นสินค้า 5 ดาว ประจำจังหวัดมหาสารคาม ส่วนข้าวของเราเป็นข้าวอินทรีย์ที่ปลูกเองในแถบภาคอีสาน ซึ่งมีความโดดเด่นคือหอม นุ่ม และอร่อย เป็นข้าวนาปี ที่มาร่วมงานนี้ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ สปก.จ.มหาสารคาม รู้จักกับเจ้าหน้าที่ซีพีออลล์ สปก.เลยคัดเลือกให้มา ปกติเรามีออกงานในกรุงเทพฯ อยู่บ้าง แต่กับซีพี ออลล์ มางานนี้ครั้งแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้มาให้ความรู้ด้านต่างๆ และเขาก็ชวนมาอบรมที่ปัญญาภิวัฒน์ เราก็จะนำไปพัฒนาต่อ ซึ่งถ้าแมชชิ่งกันแล้วก็จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น เพราะไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ในกลุ่มเรามี 150 คน ก็จะได้มีโอกาสในการจำหน่ายสินค้าเพื่อหารายได้มากขึ้น เพราะมันแล้ง เศรษฐกิจก็ไม่ดี อย่างกะหรี่ปั๊บเราจ้างแรงงานในพื้นที่ 100% ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะนำมาจำหน่ายกับเซเว่นฯ ที่มองไว้จะเป็นถั่วตัด และกล้วยทอด ซึ่งใช้กล้วยในพื้นที่ของเราเช่นกัน” คุณนวพร กล่าว

นอกจาก SME และกลุ่มเกษตรกรที่น่าสนใจแล้ว ภายในงานยังรวบรวมเหล่าวิทยากรจากหลากหลายวงการที่หมุนเวียนมาร่วมแบ่งปันความรู้ เคล็ดลับบนเวทีตลอดการจัดงานทั้ง 3 วัน อาทิ การบรรยายพิเศษหัวข้อ Education Transform” โดย ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) การเสวนาเทคนิคในการขายสินค้าของเหล่าเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จ และเคล็ดลับการนำสินค้าเข้ามาขายผ่านช่องทางร้านเซเว่นฯ กับทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง ปิดท้ายด้วยการบรรยาย “เสริมดวงให้พุ่ง ธุรกิจรุ่งตามราศีกับหมอช้าง” โดย อ.ช้าง ทศพร ศรีตุลา และ “ธรรมาค้าขาย” โดย พระครูสังฆรักษ์ศักดา สุนฺทโร เป็นต้น

และสิ่งที่เรียกได้ว่าถูกใจขาช้อปเป็นอย่างยิ่งก็คือ “โปรโมชั่น” ภายในงาน ทั้งของกิน ของใช้ ที่แต่ละร้านขนมาจัดกันอย่างจัดเต็ม ทั้งซื้อ 1 แถม 1 หรือ 3 ชิ้น 100 บาท อาทิ ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานซันไลต์ในราคาพิเศษ, ยาสมุนไพรเฌอเอม ชิ้นละ 40 บาท 3 ชิ้น 100 บาท, ผลิตภัณฑ์มาร์คหน้าจากหลากหลายแบรนด์ที่ลดราคาจากชิ้นละหลายสิบไปจนถึงชิ้นละร้อยกว่าบาท ก็นำมาลดราคาเหลือเพียงชิ้นละ 10 บาท, มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ในช่วงท้ายงานลดราคาเหลือเพียง 3 ลูก 40 บาท กับไซส์มะม่วงขนาดใหญ่ เป็นต้น

เรียกได้ว่าเป็น “โอกาสดี” ทั้งต่อผู้ซื้อ ผู้ขาย นักเรียน เกษตรกร และประชาชนทั่วไปจริงๆ จัดใหญ่จัดเต็มขนาดนี้ กับโอกาสดีๆ ที่มาครบพร้อมสรรพในงาน ใครพลาดก็รออีกทีปีหน้าเลย ซึ่งห้ามพลาดอีกเด็ดขาด เพราะงานนี้เข้าชมฟรีตลอดงาน สำหรับผู้สนใจสามารถย้อนดูรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.cpall.co.th/cp-all-opportunity-day

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า