Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ดราม่าความรักสุดเดือดกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในประเทศไทย เมื่อศรราม เทพพิทักษ์ กับ ติ๊ก-กนิษฐ์รินทร์ ภรรยาสาว จากที่บอกรัก เรียกที่รักกันอยู่ดีๆ คล้อยหลังไม่กี่วัน กลับเอาเรื่องของแต่ละฝ่ายมาแฉกันอย่างดุเดือด

เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไรและล่าสุดบทสรุปอยู่ในจุดไหน workpointTODAY จะสรุปให้ฟังแบบเคลียร์ๆใน 33 ข้อ

1) ศรราม เป็นลูกชายของชุมพร เทพพิทักษ์ นักแสดงชื่อดังของไทย เขาเกิดวันที่ 22 สิงหาคม 2516 ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว โดยในวันเกิด โรงพยาบาลโทรมาแจ้งคุณพ่อที่อยู่ในกองถ่ายว่า ภรรยาคลอดแล้วได้ลูกชาย จะให้ตั้งชื่อว่าอะไร ณ เวลานั้น คุณพ่อชุมพรกำลังถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อเรื่อง “หนึ่งนุช” โดยพระเอกของเรื่องคือสมบัติ เมทะนี รับบทเป็นชายหนุ่มที่ชื่อ “ศรราม” นั่นทำให้ ชุมพรตัดสินใจตั้งชื่อลูกว่าศรราม ตามพระเอกในหนัง

2) ศรราม เรียนมัธยมที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล เขาเป็นนักฟุตบอลตัวโรงเรียน ลงแข่งรายการชิงแชมป์ประเทศอย่างโค้กคัพมาแล้ว และมีข่าวว่าเกือบจะติดทีมชาติชุดเยาวชน แต่ผันตัวเข้าวงการบันเทิงก่อน โดยมีงานแสดงชิ้นแรกคือ โฆษณาแบนฟอร์เมน ในปี 2534 ตอนอายุ 18 ปี

3) ศรราม สร้างชื่อโด่งดังจากการเล่นละครในปี 2535 จากเรื่อง “อรุณสวัสดิ์” การแสดงของเขาโดดเด่นถึงขั้นคว้ารางวัลเมขลา สาขานักแสดงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยม ก่อนที่ในปีต่อมา จะมีละครฮิต เรื่องแล้วเรื่องเล่า ตั้งแต่ ผยอง , น้ำใสใจจริง, ดาวพระศุกร์, สายโลหิต, ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน, ตี๋ใหญ่ ฯลฯ

4) จากนั้นเขาเข้าสังกัด อาร์เอส โปรโมชั่น และออกผลงานเพลงในอัลบั้ม “ลูกไม้ของนายหนุ่ม” มีเพลงฮิตคือ “จุ๊บ” มีท่อนฮุคว่า “มา มา มา จุ๊บทีนึง ก็ใจ I love you too” จากนั้นเขาเล่นภาพยนตร์กับสังกัดอาร์เอสฟิล์ม มีเรื่องฮิตเช่น แบบว่าโลกนี้มีน้ำเต้าหู้และครูระเบียบ (2537) และ ฝันติดไฟ หัวใจติดดิน (2540)

5) จุดเด่นของศรราม เป็นคนที่หน้าตาดีมาก ผู้คนยกย่องว่าเขาหล่อขั้นเทพ หล่อแบบเป็นธรรมชาติ มีส่วนสูง 180 เซนติเมตร หุ่นดี สมาร์ท บุคลิกนักกีฬา นั่นทำให้ เขายืนหยัดในวงการบันเทิงได้ยาวนานหลายสิบปี

6) สำหรับเรื่องความรัก ศรรามตกเป็นข่าวกับหลายคนในวงการบันเทิง เช่น นุ้ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา ที่อยู่ค่ายอาร์เอสเหมือนกัน รวมถึงจอย รินณรี ศรีเพ็ญ นักแสดงชื่อดัง แต่ศรรามไม่ได้ยอมรับว่าคบหาเป็นแฟนกัน คนแรกที่ศรรามเปิดตัวจริงๆ คือนุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นางสาวไทย ในปี 2544 ทั้งคู่คบหากัน 7 ปี ก่อนเลิกรากันไปในปี 2552

7) ศรรามโสดมา 8 ปี ก่อนจะเปิดตัวคบกับนิโคล เทริโอ ในเดือนมิถุนายนปี 2560 แต่คบกันได้แค่ 1 ปี ในเดือนมิถุนายน 2561 ก็เลิกรากันไป ทั้งๆ ที่มีข่าวว่าทั้งคู่มีโอกาสจะแต่งงานกัน โดยทั้งคู่ไม่ได้บอกเหตุผลที่เลิกชัดเจน แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับมือที่ 3

8) หลังจากเลิกกับนิโคล หนุ่ม ศรราม มีข่าวกับผู้หญิงสองคน ได้แก่ น้ำฝน ทวีพร อารีย์สวัสดิ์ อดีต Miss Tourism Thailand ปี 2011 และ อีกคนคือ ติ๊ก-อริสา สนธิรอด นักแสดงสาวสายคิวบู๊ ที่ดังมาจากรายการบิ๊ก บราเธอร์ส ซีซั่น 2 (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นกนิษฐ์รินทร์ พัชรภักดีโชติ ในภายหลัง)

9) สุดท้ายคนที่ศรรามเลือกคือติ๊ก โดยทั้งคู่เปิดตัวกันในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 และได้รับการพูดถึงจากสื่อมวลชนว่าเป็นคู่รักสายเฮลธ์ตี้ เพราะหนุ่ม ศรรามก็ชอบเล่นกีฬา ส่วนติ๊กก็ลงคลิปออกกำลังกายเป็นประจำ และในอดีตติ๊กก็เคยมีอาชีพเป็นสตั๊นท์แมน ซึ่งเธอได้รับการยอมรับว่า เป็นคนที่ดูแลหุ่นของตัวเองได้ดีมาก

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เจอกันที่ฟิตเนส โดยติ๊กทำงานเป็นฟิตเนสเทรนเนอร์อยู่ และศรรามก็เริ่มจีบก่อน “คือเราชอบผู้หญิงเท่ๆ อยู่แล้ว เราก็คิดแบบว่า เออ เขาคงไปซิ่งกับเราได้ ไปไหนไปได้ เราก็เลยเข้าไปขอเบอร์เขา”

“ตอนเราเห็นเขาสอนฟิตเนส คือ ผู้หญิงคนนี้กล้ามท้องเป็นลูกเลย แขนเขิน มันเท่ไปหมด ก็เลยถามเขาเลยว่ามีแฟนหรือยัง โสดหรือเปล่า ถ้ายังไม่มี พี่จีบนะ” จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มคุยและคบหากันเป็นแฟนในเวลาไม่นานนัก

10) ติ๊กตกเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อเธอไล่ตอบโต้ชาวเน็ตในอินสตาแกรมอย่างดุเดือด โดยในวันที่ 31 กรกฎาคม เธอลงรูปกับศรราม แล้วมีชาวเน็ตรายหนึ่งพิมพ์ว่า “ออกตัวแรงมาก อยู่เงียบๆ บ้างก็ดีนะ” ซึ่งเมื่อติ๊กเห็น ก็สวนกลับทันทีว่า “ไปคุยกับขี้ป่ะ” พร้อมทั้งประกาศชัดว่าด่ามาด่ากลับแน่นอน

11) และหลังจากคบหากันอย่างเป็นทางการได้ไม่ถึง 2 เดือน ศรรามวัย 45 และ ติ๊ก-อริสา วัย 35 ปี ก็เข้าพิธีสมรส ในช่วงเช้าของวันที่ 21 กันยายน มีการจดทะเบียนสมรสกันอย่างถูกต้องที่สำนักงานเขต และในคืนเดียวกัน ศรรามก็แจ้งให้ทุกคนทราบว่า ติ๊ก ตั้งครรภ์แล้ว 2 เดือน

12) ศรรามเปิดเผยว่าทำไมถึงเลือกติ๊กเป็นภรรยาโดยกล่าวว่า “เป็นคนฉลาด เป็นคนรักพ่อแม่ กตัญญู เข้าใจในตัวเรา เขาเป็นคนจิตใจดี มีคุณธรรมและจริยธรรม”

13) เมื่อทราบผลอัลตร้าซาวด์ว่าเป็นลูกสาว ทั้งสองคนตั้งชื่อลูกไว้ล่วงหน้าคือน้อง “วีจิ” มีความหมายคือ วีรสตรีผู้กล้าหาญ โดยจะใช้เป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่น ซึ่งศรรามชอบชื่อนี้มาก ถึงกับไปสักคำว่าวีจิไว้ที่แผ่นหลัง เพื่อรอการเกิดของลูกสาว และในวันที่ 8 เมษายน 2562 ติ๊ก-อริสา ให้คลอดน้องวีจิออกมา น้ำหนักแรกคลอด 2.658 กิโลกรัม สุขภาพแข็งแรงดี

14) ศรรามทำงานในวงการบันเทิงอยู่ต่อเนื่อง และมีธุรกิจส่วนตัวขายของออนไลน์เล็กน้อย ขณะที่น้องวีจิก็โตขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของชาวเน็ต ในภาพรวม ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดี และศรรามก็เปิดเผยว่า “ตอนนี้ทำงานเก็บเงินให้ลูก ฝากเงินไว้ที่วีจิหมดแล้วครับ เงินมีก็ให้ลูก ให้ภรรยา ให้แม่เหมือนเดิม”

15) โดยศรรามเล่าว่า แม้จะเป็นคุณพ่อมือใหม่ ก็ไม่มีปัญหา เพราะมีที่ปรึกษาเยอะ อย่างในกลุ่มนักแสดง จะมีชมรมคุณพ่อที่จะคุยหากันไลน์หากัน เช่นมอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ และเต๋า-สมชาย เข็มกลัด เป็นต้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้คือดาราในยุค 90 ที่มีลูกแล้วเหมือนกัน

16) วันที่ 15 มกราคม 2020 ศรราม ขึ้นโรงพัก สน.สุทธิสาร เพื่อลงบันทึกประจำวันว่า เงินในบัญชีของตัวเองที่มี 1.1 ล้านบาท ได้สูญหายไป 470,000 บาท โดยที่ตัวเขาเองไม่รู้เรื่องเลย และคาดว่าอาจเป็นความผิดพลาดที่ระบบของธนาคาร

17) อย่างไรก็ตาม ธนาคารกสิกรไทย ได้แจ้งในวันต่อมา ยืนยันว่าเงินของศรรามหายจากบัญชีจริง แต่ไม่เกี่ยวกับระบบแต่อย่างใด “ธนาคารได้ดำเนินการตรวจสอบพบว่าเป็นการทำรายการผ่านเอทีเอ็ม ซึ่งกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกผู้ทำรายการเอาไว้ได้ เป็นคนใกล้ตัวของเจ้าของบัญชี และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบธนาคารแต่อย่างใด”

18) ตอนนี้ชาวเน็ตก็ตั้งคำถามว่า เป็นปัญหาภายในบ้านหรือเปล่า ที่ภรรยาคือติ๊ก กดเงินออกไปโดยที่ศรรามไม่รู้จึงไปแจ้งความ ซึ่งสุดท้ายศรรามไม่ได้ออกมาให้ข่าวใดๆในประเด็นนี้อีกเลย กลายเป็นประเด็นที่ค้างคาอยู่แบบนั้น ขณะที่ผู้กำกับ สน.สุทธิสาร กล่าวว่า คดีไม่มีการดำเนินต่อ เพราะศรรามแค่ลงบันทึกประจำวัน แต่ไม่ได้ประสงค์จะดำเนินคดีกับใคร ส่วนธนาคารก็แค่ชี้แจง ไม่ได้มีการประสานมากับตำรวจ ทำให้เคสเงินหาย 4.7 แสน ก็ข่าวเงียบไปแบบงงๆ

19) เข้าสู่เดือนมีนาคม 2563 ติ๊ก ภรรยาของศรรามได้ประกาศขายหน้ากากอนามัยในช่วงโควิด-19 โดยอ้างว่า สามารถนำเข้ามาได้จากเวียดนาม จากนั้นมีลูกค้าชื่อ ญานิษฐาที่มีอาชีพเป็นพยาบาล มาขอซื้อเป็นจำนวน 2 แสนชิ้น จ่ายเงินไป 9 แสนบาท อย่างไรก็ตามเมื่อถึงวันรับของ 13 มีนาคม กลับไม่ได้สินค้า ทำให้ผู้ซื้อขอเงินคืน แต่ภรรยาของศรรามบ่ายเบี่ยง และอ้างว่าติดการนำเข้า ให้รอก่อน

เมื่อไม่ได้เงินคืนทำให้ญานิษฐาไปแจ้งความฐานฉ้อโกง ที่สน.หัวหมาก ซึ่งทำให้วันที่ 31 มีนาคม ศรรามต้องออกมาไลฟ์สด และจ่ายเช็กคืนให้กับผู้ซื้อเป็นจำนวน 9 แสนบาท พอได้รับเงินคืน ผู้เสียหายจึงถอนแจ้งความทั้งอาญาและแพ่ง คดีจบไปเรียบร้อย

ระหว่างการไลฟ์ของศรรามมีคนเข้ามาแซะติ๊กตลอดเวลา ซึ่งทำให้ติ๊กคอมเมนต์ตอบโต้ไปด้วยคำหยาบคาย เช่นใช้คำ “มึง-กู” และ “พวกเสือก” ทำให้กลายเป็นดราม่าซ้อนดราม่าอีกรอบ

20) วันที่ 17 เมษายน 2563 ศรราม และติ๊ก ประกาศว่าหย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยากันแล้ว อย่างไรก็ตามติ๊กอธิบายว่า เป็นการหย่าแก้เคล็ด โดยระบุว่า “นี่เป็นการแก้เคล็ดจากคำทักของพระ ท่านบอกว่าถ้าหย่ากัน เรื่องอะไรไม่ดีที่เจอจะได้เบาบางลง อย่างไรก็ตาม วันที่จดทะเบียนกัน มันก็เป็นเพียงแค่กระดาษใบเดียว แต่เรายังรักและอยู่ด้วยกัน เราสัมผัสกันอยู่ทุกวัน เราไม่เคยปล่อยมือกัน”

21) ติ๊ก เผชิญดราม่าในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทั้งประเด็นที่ติ๊กใส่ชุดแส็กสีชมพูไปตักบาตร และโดนชาวเน็ตด่าว่าไม่เหมาะสม ดูเสื้อผ้าบางเกินไป, ประเด็นเรื่องให้ลูกสาวน้องวีจิดูทีวีบ่อยเกินไป รวมถึงประเด็นเรื่องฉ้อโกงหน้ากากอนามัยก็ยังหยิบมาถูกพูดถึงบ่อยครั้ง

หรือครั้งหนึ่งติ๊ก เคยมีดราม่าทะเลาะกับชาวเน็ต ปรากฎว่าเธอจับเอามือลูกสาว น้องวีจิ ที่ตอนนั้นอายุ 2 เดือน ชูนิ้วกลาง แล้วโพสต์ด่าเอาคืนในอินสตาแกรม ซึ่่งชาวเน็ตก็วิจารณ์ว่า เธอไม่น่ายืมมือลูกสาวมาด่าคนอื่นแบบนี้

22) ในขณะที่ติ๊กพร้อมตอบโต้อย่างดุเดือด แต่ศรรามจะแนะนำให้ใจเย็นไว้ก่อน “พี่หนุ่มสอนว่าใจเย็น ถ้าใจเย็นแล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้หมด แต่เราเป็นคนธรรมดา เราก็แค่นักแสดงคิวบู๊ เราไม่เข้าใจ คืออยู่ไปอยู่มาเราก็เข้าใจนะ แต่บางคอมเมนต์อ่านแล้วเมื่อก่อนถกแขนเสื้อเลย มาเลยพร้อมดับเครื่องชน แต่พี่หนุ่มสอนว่าเราต้องมีสติ ต้องนิ่งเข้าไว้” ติ๊กกล่าว

23) หลังจากน้องวีจิโตขึ้น อายุ 1 ขวบเศษ ติ๊กกลับมาลดน้ำหนัก และเตรียมรับงานในวงการบันเทิง พร้อมกับทำหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการเงินของสามีไปด้วย อย่างเช่น ถ้าศรรามออกอีเวนต์ที่ไหน เธอจะเป็นคนดีลงานให้

24) ภาพครอบครัวที่มีความสุขอยู่ดีๆ ในวันที่ 3 กันยายนก็เกิดดราม่าครั้งใหญ่ เมื่อศรราม โพสต์ในอินสตาแกรมระบุว่า “ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีบุคคลตามหาคุณติ๊กที่บ้าน และโทรหาผมหลายครั้ง จึงขอความกรุณาผู้ใดก็ตามที่ทำสัญญาหรือธุรกรรมการเงินกับคุณติ๊ก ช่วยติดต่อกับเธอโดยตรง และไม่ต้องมาหาผมที่บ้านกับลูก เพราะผมกับลูกไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น สถานภาพของเราหย่าขาดกันอย่างเป็นทางการ และคุณติ๊กก็ไม่ได้อาศัยที่บ้านของผมแล้ว เราสองคนแค่ทำหน้าที่พ่อและแม่ของวีจีตามข้อตกลงเท่านั้น”

25) ใน IG ศรรามลงรายละเอียดการหย่าว่าจริงๆ หย่ากันตั้งแต่ 20 มกราคม 2563 แล้ว โดยลูกสาวน้องวีจี จะอยู่ในความดูแลขอฝ่ายชาย และค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรทั้งหมดศรรามจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงฝ่ายเดียว

26) เมื่อศรรามเริ่มดังนั้น ติ๊กก็เอาคืนทันที โดยการโพสต์ใน IG เช่นกัน ลงรูปแม่สุนัข กับลูกสุนัข แล้วเขียนแคปชั่นว่า “อิจฉาหมา หมามันยังรักลูก แล้ว… ล่ะ” พร้อมแท็กชื่อศรรามไป จากนั้นก็เขียนเล่าเรื่องลูกสาวว่าเธอเป็นคนเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดสอนทุกอย่าง ให้มีพัฒนาการในทุกด้าน

27) เมื่อศรรามโดนด่า จึงตอบโต้กลับไปด้วยคลิปเสียง ที่คุยกับคุณพัด เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง โดยคุณพัดจ้างหนุ่ม ศรราม ไปออกงานอีเวนต์ให้ค่าตัว 110,000 บาท แต่ในวันจ่ายเงิน ศรรามได้รับ 55,000 บาท จึงโทรไปสอบถาม ซึ่งคุณพัดอธิบายว่า เงินก้อนแรก 55,000 บาท ได้โอนเข้าให้คุณติ๊กโดยตรงไปแล้ว โดยกล่าวว่า คุณติ๊กยืนยันว่าโอนมาให้ติ๊กได้เลย เดี๋ยวจัดการเอง ซึ่งหนุ่ม ศรราม ไม่เคยทราบมาก่อนว่าติ๊กจะให้โอนเข้าบัญชีตัวเองในลักษณะนี้ จึงมีความสับสนอย่างมาก ว่าภรรยาของตัวเอง ทำอะไรแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว

ในแคปชั่นของคลิปเสียง ศรรามเขียนว่า “รักลูก รักสามีมันเป็นแบบนี้หรือครับ ให้อภัย ให้โอกาส ให้เวลา ครบถ้วนละครับผม”

28) ในคลิปนี้ มีดาราหลายคนมาคอมเมนต์ หนึ่งในนั้นคือ มอส ปฏิภาณ พิมพ์ว่า “เดี๋ยวส่ง 2 สาวไปเลี้ยงวีจิ” ซึ่งศรรามได้พิมพ์ตอบกลับว่า “ทองของขวัญวันเกิดวีจิหมดไปแล้ว แต่เดชะบุญพี่ปรีชาที่ดูแลบ้านกู ซื้อล็อคเก็ตทองที่มีรูปวีจิที่มึงให้คืนกลับมา กูจะรักษาอย่างดีเผื่อวันนึงให้วีจิ แล้วจะได้บอกได้ว่าลุงมอสให้หนูเป็นของขวัญนะลูกรัก ขอบคุณมากนะครับเพื่อนรัก” ซึ่งการพิมพ์แบบนี้ สื่อว่าติ๊ก ได้เอาทองให้หลานของมอสไปขายแล้วเรียบร้อย

29) ติ๊กไม่ยอมแพ้ เธอตอบโต้กลับด้วยการพิมพ์คอมเมนต์ว่า “ระวังหายนะจะกลับมาหาตัวพี่เองถ้าไม่หยุด เดี๋ยวสังคมจะรู้ว่าคนเล่นบทบาทรักเมีย รักลูกมากๆ มันเป็นอย่างไร”

30) ดราม่าล่าสุด นับถึงวันที่ 5 กันยายน 2563 หยุดที่ตรงนี้ ซึ่งความเห็นในโลกออนไลน์ ก็มีทั้งโจมตีติ๊ก ว่าเอาเงินไปทำอะไรหมด ส่วนอีกฝ่ายก็ตำหนิศรรามที่เอาเรื่องภายในมาแฉแทนที่จะจัดการให้จบในบ้านของตัวเอง

31) มีข้อสังเกตเล็กๆ คือวันที่ 22 สิงหาคม ศรรามจัดงานเลี้ยงวันเกิดเล็กๆที่บ้านตัวเอง ซึ่งทั้งครอบครัวก็ยังถ่ายรูปร่วมกันโดยปกติ โดยติ๊กเอาภาพเป่าเค้กลงใน IG แล้วเขียนว่า “เราอาจจะเจอกัน รักกัน ในช่วงจังหวะชีวิตที่ไม่สมบูรณ์แบบ .. ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน”

ซึ่งในรูปนั้น ศรรามก็ยังไม่คอมเมนต์ตอบ โดยกล่าวว่า “ขอบพระคุณมากนะครับที่รัก วีจิคือความรักและความสมบูรณ์ในชีวิตของเรา เป็นกำลังใจให้กันตลอดไปนะครับผม รัก”

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นแค่ 2 สัปดาห์เท่านั้น ก่อนที่ทั้งคู่จะเปิดหน้าแลกหมัดกันอย่างดุเดือดขนาดนี้ จนโลกออนไลน์ตั้งคำถามว่า จากที่รักกัน เรียกกันที่รักอยู่ดีๆ แล้วแป้บเดียวทำไมถึงทะเลาะกัน ราวกับโกรธแค้นกันมานาน

32) นอกจากนั้นมีการย้อนกลับไปตั้งข้อสังเกต เรื่องศรรามเงินหายจากธนาคารกสิกรไทย เกิดขึ้นวันที่ 15 มกราคม จากนั้นพอวันที่ 20 มกราคม ทั้งสองคนไปหย่าขาดกันทันทีที่สำนักงานเขต ชาวเน็ตจึงวิเคราะห์ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่การหย่าอาจมีจุดเริ่มต้นจากเรื่องการถอนเงินของศรรามออกจากบัญชี

33) สำหรับสถานการณ์นี้ ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ แต่ในเชิงกฎหมายแล้ว ทั้งสองคนหย่าขาดจากการเป็นสามี-ภรรยากันอย่างเป็นทางการ แต่ในทางปฏิบัติยังคงต้องรับผิดชอบในฐานะพ่อ-แม่ ของลูกสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนร่วมกันอยู่

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า