‘House of heals’ พื้นที่ความฝันหลากสีสัน ที่ผลักดันอุตสาหกรรม Drag Show

ย้อนไปสัก 5 ปีที่แล้ว เมื่อพูดถึงอาชีพ Drag Queen หรืออุตสาหกรรม Drag Show เชื่อว่าเป็นคำที่ห่างไกลความเข้าใจกับผู้คนอย่างมาก แต่พื้นที่ของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนตัวเองอยู่ในซอกหลืบเล็กๆ ของสังคม ได้เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ

จนมาถึงกระแสจากรายการเรียลลิตี้ อย่าง DRAG RACE THAILAND ทั้ง 2 ซีซั่น ก็ทำให้อุตสาหกรรม Drag Show กลายเป็นจุดสนใจ และได้รับการยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

แต่กระแสดังกล่าวก็มีบางมุมที่ถูกตั้งคำถาม พื้นที่ที่แท้จริงสำหรับเหล่า Drag Queen พัฒนาขึ้นจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงกระแสที่คนเรียกกันว่า ‘Pink Dollar’ คนทำธุรกิจต่างเห็นเม็ดเงินในอุตสาหกรรมของชาว LGBT และใช้ Drag Show เป็นหน้าร้านเพื่อเรียกแขก และหาเงินเพียงเท่านั้น

เราจึงพาคุณไปเดินเข้าไปในโลกของความฝันที่ย้อมไปด้วยแสงไฟหลากหลายสีสัน เพื่อพูดคุยกับผู้ที่มีอิทธิพลในการขับเคลื่อนและปลุกกระแส Drag Queen ในประเทศไทยมากที่สุดคนหนึ่ง ปันปัน นาคประเสริฐ หรือที่คนทั่วโลกรู้จักชื่อในวงการว่า ‘Pangina Heals’

วันนี้เธอได้พาความฝันของตัวเองไปอีกขั้น ด้วยการสร้างพื้นที่ที่เปรียบเสมือน ‘บ้าน’ ของเหล่า Drag Queen อย่าง House of heals ขึ้นมา และเธอบอกกับเราอย่างจริงจังว่า พื้นที่แห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อ ‘Pink Dollar’ แต่เป็นบ้านสำหรับเหล่า Drag Queen อย่างแท้จริง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย การก่อร่างความฝันเปิดร้าน ช่วงเดียวกับที่เศรษฐกิจวิกฤตที่สุดในรอบหลายสิบปี จากผลกระทบจาก Covid-19 การต้องปรับทัศนคติการทำงานจากการเคยเป็นเพียง นักแสดง Drag Queen ที่แค่โชว์จบแล้วก็จบไป ไม่มีเรื่องอื่นใดให้ต้องมาปวดหัว แต่วันนี้เธอกลายเป็นเจ้าของธุรกิจ Drag Show อย่างเต็มตัว มุมมองความคิดของเธอเปลี่ยนไปอย่างไร และเธอมองอุตสาหกรรม Drag Show ในอนาคตว่าจะหมุนไปในรูปแบบไหน ลองไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเธอกัน

Drag show อุตสาหกรรมที่แสงสว่างเพิ่งส่องถึง

สมัยก่อนคนยังไม่เข้าใจว่าการ Drag คืออะไร นางโชว์อะไรแต่งหน้าฟาดๆ ดูน่ากลัวจังเลย ดูเหมือนผี ดูเหมือนแรคคูนตัวเมียที่ขึ้นมาโชว์ แต่พอมีรายการอย่าง Drag race Thailand หรือ RuPaul’s Drag Race คนก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าคนพวกนี้คือศิลปิน ไม่ได้แตกต่างอะไรกันเลย แต่ก่อนพอพูดถึงนางโชว์ คนจะคิดถึงแต่มิสทิฟฟานี่ ที่สวยที่ละมุน ซึ่งจริงๆ ทั้งหมดอยู่ใต้ร่มเดียวกัน เมื่อก่อนพอคนไม่เข้าใจก็ไม่มีงานจ้าง พอไม่มีงานจ้าง คนที่เป็น Drag Queen เขาก็จะทำเป็นงานอดิเรก แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่คนมาสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีร้านแบบเราที่เป็นพื้นที่ที่รองรับ Drag Show เกิดขึ้นมา

พื้นที่แห่งความฝันที่ไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อ ‘Pink Dollar’

เป็นความฝันของเรามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เป็น Drag queen แรกๆ คิดเลยว่าอยากมีร้านของตัวเอง มีชื่อว่าเราแสดงอยู่ที่นี่ เป็นเหมือน Home Bar เป็นบ้านของเรา และทุกๆ อย่างของที่นี่สร้างขึ้นมาเพื่อนางโชว์ เพื่อนักแสดง เพื่อนักร้อง ไม่ใช่เหมือนร้านบางร้าน ที่วันหนึ่งอยู่ดีๆ ตื่นมาแล้วอยากได้ ‘Pink Dollar’ เอานางโชว์มาโชว์ โดยที่ไม่ได้อำนวยเรื่องเสียง เรื่องระบบ หรือเรื่องเวทีเลย แต่ที่ House of heals ทุกๆ อย่างตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อการโชว์จริงๆ

ที่คิดแบบนี้เพราะว่าเราไม่ได้อยากสร้างที่แห่งนี้เพื่อใครบางคน แต่อยากสร้างพื้นที่ที่เรารู้สึกสนุกและเราเองก็อยากไปเที่ยวแบบนั้น จะมีการโชว์ Drag Queen อย่างไร โชว์จะเป็นแบบไหน เกมต้องเล่นอย่างไร อยากสร้างสถานที่ที่แม้แต่เราก็อยากไปเที่ยวเองด้วย ที่ที่อยู่ทุกวันและสนุก ให้คนได้มาเห็นพรสวรรค์ของนางโชว์ เห็นพรสวรรค์ของนักร้อง ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบทั้งหมด เพราะสิ่งที่เราขายคือสิ่งที่เรียกว่า ‘ประสบการณ์’ ทำอย่างไรให้คนมาเยือนแล้วรู้สึกอยากกลับมาอีก

เริ่มต้นความฝันในวันวิกฤต

“Covid-19 can break a economy but cannot break our spirits.”

เราต้องไปต่อ แต่จะทำอย่างไร ถามว่ายากไหม ยากแน่นอน เพราะว่าคนเที่ยวไม่เหมือนเดิม ลองไปดูสีลมไม่มีคนเดินเลย ถามว่าเราคิดถึงแขกหรือเพื่อนที่มาเที่ยวจากเมืองนอกไหม เราก็คิดถึง แต่ว่าวันนี้เราต้องทำหน้าที่และทำงานเท่าที่เราทำได้ไปก่อน “Life must go on with the new normal.” เรารู้สึกว่าถ้าเราไม่สร้างมันขึ้นมาแล้วใครจะสร้างพื้นที่แบบนี้ เพราะเรามีทุกอย่างครบแล้ว รู้จักนางโชว์ที่ดี รู้จักนักร้องที่ดี มีประสบการณ์ทำงานในอุตสาหกรรมนี้มาก่อน ทำไมถึงไม่สร้างสถานที่ใหม่ๆ พื้นที่ใหม่ๆ และเป็นพื้นของนางโชว์จริงๆ

หัวใจของการทำธุรกิจ Drag Show

“You have to love making all the people happy.”

ถ้าจิตใจของคุณรู้สึกว่าการทำให้คนอื่นมีความสุขคือความสุขของตัวเอง นั่นคือหัวใจและกุญแจของงานบริการ ทำอย่างไรให้คนมีความสุข ไม่ใช่แค่เรื่องของการดูแลลูกค้า แต่ไปถึงเรื่องของการคัดเลือกนางโชว์ เราต้องเลือกนางโชว์ที่ดี คนที่สุภาพ

เพราะว่าคนเก่งในโลกนี้มีเยอะ แต่คนที่มีวินัยในโลกนี้มีน้อย ความรับผิดชอบและวินัยไม่ใช่สิ่งที่จะมีทุกคน ถ้าคุณไม่นับถือตัวเองพอที่จะมาตรงเวลา คุณก็ไม่ควรที่จะได้งานเยอะๆ เพราะว่าคุณไม่ได้นับถือทั้งงานและผู้ร่วมงาน เรื่องความตรงต่อเวลาคือสิ่งแรก นางโชว์ที่ปันทำงานด้วยเกือบทุกคนตรงต่อเวลา และมีวินัยในการทำงาน การโชว์ก็ไม่ได้โชว์แก้บนไปวันๆ ขึ้นมาบนเวทีแล้วก็เต้น 1 2 3 4 5 6 แล้วก็จบไป แต่ละคนสู้กับกับตัวเอง เพื่อที่จะได้มีพื้นที่ เขามีแพสชั่นเขามีแรงผลักดันในตัวเอง ซึ่งอาชีพการเป็นนางโชว์ ไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองมีความสุขอย่างเดียว แต่เราทำเพื่อให้คนอื่นมีความสุขไปพร้อมกัน สองอย่างนี้ต้องเชื่อมต่อกัน

มุมมองชีวิตจาก Drag Queen สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ Drag Show

ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเครียดและลงมือจัดการกับมันในทุกๆ วัน สมัยก่อนตอนเป็นนักแสดงอย่างเดียว ไปโชว์อาทิตย์ละหนึ่งครั้งแล้วจบ แต่งานตรงนี้ไม่จบ มีสิ่งที่ต้องทำทุกวัน ต้องรู้ทุกองค์ประกอบของการจัดงาน เป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่ขึ้นมาก แต่ในมุมมองของเรา ความเครียดไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีนะ แต่จะใช้ประโยชน์และจัดการกับความเครียดอย่างไรต่างหากคือสิ่งที่ควรสนใจ เพราะว่าการทำงานก็เหมือนเรานั่งอยู่ในเรือ ถ้ามีรูอยู่ตรงไหนในเรือ สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องพยายามอุดรูรั่วตรงนั้นให้ได้ ต้องแก้ไขปัญหาเพื่อให้เรือไปถึงฝั่ง จะมัวคิดไม่ได้ว่า เราทำโชวดีแล้ว ทุกคนจะต้องมาเที่ยวสิ การทำธุรกิจ Drag Show ไม่ใช่แบบนั้น ทุกอย่างเป็นองค์ประกอบที่ต้องผสมผสานกันหมด

อีกสิ่งในตัวเราที่เปลี่ยนไปเลย คือต้องใจเย็นมากขึ้น ไม่สามารถด่าแขกได้เหมือนสมัยก่อน (หัวเราะ) สมัยก่อนพอทำงานเป็นนางโชว์อยู่ที่ร้านอื่น ถึงเหวี่ยงใส่แขกเราเป็นแค่นางโชว์ ทำงานเสร็จแล้วก็กลับบ้าน แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่ มีชื่อของเราแปะอยู่บนผนังร้าน ต้องมีความใจเย็น และลดอีโก้อย่างมากๆ ไม่สามารถคิดได้ว่า ฉันเลิศ ฉันเด่น ฉันเป็น Pangaina heals ใครเดินเข้ามาทุกคนก็ต้องไหว้ เพราะว่าเขาเดินเข้ามาในบ้านของเรา ในสถานที่ของเรา ต้องยินดีต้องรับทุกคน ไม่ว่าเขาจะสุภาพกับเราหรือไม่ แต่เมื่ออยู่ในอุตสาหกรรมบริการแล้ว เราจะคิดไม่ได้ว่าเป็นนักแสดงอย่างเดียว แต่ต้องมีหัวโขนสองหัวสวมไว้เสมอ ว่าเป็นคนที่มีหน้าที่ให้บริการและก็เป็นนักแสดงด้วย อีโก้เป็นสิ่งที่ต้องโยนทิ้งไป

Trust เครื่องมือในการบริหารงาน

เราโชว์ดีที่ไม่ได้ทำ House of heals คนเดียว แต่มีหุ้นส่วนคนอื่นๆ ที่ถนัดต่างกันอีก 2 คน และเราไม่ล้ำเส้นกันเลย เชื่อใจกันและกัน อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเคยมีประสบการณ์ทำงานกับคนที่มีอีโก้ หรือชอบบังคับคนอื่นว่าต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้มาก่อน แล้วผลสรุปงานก็ออกมาไม่ดี แต่ว่าถ้าคุณเชื่อใจคนอื่นมากพอ อย่างที่ร้านมีน้องนางโชว์เดินมาบอกว่าอยากเล่นแบบนี้ เราจะบอกเขาว่าโอเคค่ะ เอาเลย ทำเลย คือมีความเคารพซึ่งกันและกันทั้งสองฝั่ง เพราะว่าคนที่เขาทำงานต้องรู้สิว่าอะไรดีที่สุด มีนักร้องมาแสดงที่ร้าน ก็ต้องให้เขาเลือกเพลงที่จะร้อง เราไม่ใช่นักร้อง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ถนัดก็ต้องเชื่อใจเขา แต่ทำไมหลายๆ ครั้งคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ชอบไปบอกคนนั้นคนนี้ว่าต้องทำอย่างนู้นอย่างนี้ ให้ความเชื่อใจคนอื่น สิ่งง่ายๆ ที่จะทำให้งานจะออกมาดีมากกว่า

เส้นทางอาชีพและธุรกิจที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์

ทุกอาชีพไม่ใช่แค่ Drag Queen อย่างเดียว คุณต้องมีวินัยและมองว่าคือธุรกิจ คุณจะทำแพสชั่นของคุณอย่างไรให้เป็นธุรกิจให้ได้ เพราะสองอย่างนี้ต้องไปด้วยกัน เมื่อก่อนที่เป็นนักแสดง Drag Queen เราก็เริ่มต้นโดยที่ไม่ได้เงินมากมาย แต่ทำเพราะสนุก ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นอาชีพได้หรือเปล่า แค่คิดว่าถ้าทำไปเรื่อยๆ แล้ว กลายเป็นอาชีพได้ ในอนาคตคนอื่นก็จะทำได้ด้วยเหมือนกัน แต่พอเรามาถึงจุดนี้ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีบาร์เป็นของตัวเอง เพราะอุตสาหกรรมนี้เฉพาะกลุ่มมาก และเป็นอาชีพที่น่าประหลาดเหมือนกัน (หัวเราะ) ผู้ชายใส่ส้นสูงใส่วิก ทำเงินได้ไง ลองคิดดูว่าคนธรรมดา เอาเพชรมาติดหน้า เอาขนนกของตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ตายมาติด แต่ทำเงินได้ ก็แปลกดีเนอะ

ไม่ได้หวังความเปลี่ยนแปลง…ทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด

ไม่ได้คิดไปถึงว่าสิ่งที่เราทำจะไปเปลี่ยนอุตสาหกรรมอย่างไร แค่คิดว่าทำงานของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วคนที่มาเที่ยวกลับมาก็พอแล้ว ที่นี่เป็นเสมือนบ้านสำหรับ Drag ทุกคน มาที่นี่แล้วคนมาดูเขา เขาสมควรได้รับสิ่งนั้นเพร่าเขาเป็นคนเก่งกันจริงๆ คนที่มาดูเขามาซึมซับศิลปะของเขา มาซึมซับความยากลำบากของเขา เรื่องราวในชีวิตที่เขากว่าจะผ่านอะไรมาบ้าง ถึงมายืนบนเวทีนี้ได้ ซึมซับความสนุก ความเป็นคนของเขา

เรารู้สึกว่า House of heals เป็นขุมรวมของพลังบวก นางโชว์หรือแม้แต่นักร้องที่ทำงานที่นี่พูดเหมือนกันหมด ว่าเหมือนเขาได้สถานที่ที่คนมาดูเขาโชว์เขาจริงๆ ไม่ใช่สถานที่ที่คนมากินข้าวแล้วไม่ได้สนใจอะไร เขาได้มีพื้นที่ที่ได้โชว์ของได้ปล่อยของ และคนยอมรับเขาในแบบที่ควรได้รับ คนได้ดูว่า Drag ไทยไม่ได้แพ้ชาติใดเลย

‘ความสุข’ เป้าหมายสุดท้ายของชีวิตและการทำธุรกิจ 

สิ่งที่ทำวันนี้ต่างจากเมื่อก่อนตรงความสุขของเราขยายใหญ่ขึ้น จุดที่มีความสุขที่สุดของคือการทำให้แขกที่มาเที่ยว เขาได้ซึมซับศิลปะที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีถึงขั้นนี้ เราได้โชว์สิ่งที่ดีที่สุดของประเทศไทย และยกระดับไปเวทีโลก เราได้นำเสนอสิ่งเหล่านี้ในบ้านเล็กๆ ของเรา ลองมาดู นักร้องที่เก่งที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่นี่ ลองมาดู Drag ที่เก่งที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่นี่

เราเชื่อว่าคนที่เข้ามาที่นี่จะเยียวยามากๆ หลายๆ คนเลิกกับแฟน เข้ามาปุ๊ปได้ยินเพลงดีๆ ไม่ต้องเทียบกับใครก็ได้ อย่างเราบางครั้งมีปัญหาชีวิต แค่เข้าร้าน มาแต่งหน้าก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว หรือว่าได้ยินคอมเมนต์ของแขกบางคนที่บอกว่าวันนี้โชว์ดีมากเลยนะ เราก็รู้สึกว่าได้ Heals ตัวเองแล้ว แล้วเราก็อยากให้แขกที่มาได้รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน สำหรับเราการทำงานทุกวันต้องมีความสุข แล้วถ้าเราสร้างสถานที่ที่ทำให้คนมีความสุขได้ Oh my god! เป้าหมายในชีวิตของฉัน จบ และแน่นอนความสุขตรงนี้ก็ผลักดันธุรกิจและอุตสาหกรรมของเราไปพร้อมกัน