ศาลอังกฤษพบผู้ปกครองดูไบใช้ซอฟแวร์ ‘เพกาซัส’ แฮคมือถือจับตาอดีตชายา

ศาลอังกฤษพบผู้ปกครองดูไบใช้ซอฟแวร์เพกาซัสแฮคมือถือจับตาอดีตชายา ขณะชีคอัล มักตุม ปฏิเสธไม่มีส่วนรู้เห็น ร้องศาลไม่เป็นธรรม

วันที่ 7 ตุลาคม 2564 สำนักข่าว BBC รายงานว่าศาลสูงสหราชอาณาจักรพบว่าชีคโมฮัมมัด อัล มักตุม ผู้ครองนครดูไบ แทรกแซงระบบยุติธรรมสหราชอาณาจักรด้วยการสั่งการให้แฮคโทรศัพท์มือถือเจ้าหญิงฮายาแห่งจอร์แดน อดีตชายา และผู้ใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเรียกร้องสิทธิการหย่าระหว่างพระชายากับชีคอัลมักตุมซึ่งอยู่ใต้อำนาจศาลสหราชอาณาจักร

หลังทรงทราบเรื่องเจ้าหญิงฮายาดำริว่าเธอรู้สึกหลอน ขณะที่ชีคอัลมักตุมปฏิเสธแล้วว่าไม่รู้เห็นกับการแฮคดังกล่าว โดยทรงชี้ว่าการค้นพบของศาลตั้งอยู่บนหลักฐานที่ไม่ได้เปิดเผยต่อพระองค์และเป็นไปในทางที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญซึ่งให้การต่อศาล ได้แก่ ดร.วิลเลียม มาร์กซัค จากมหาวิทยาลัยโตรอนโตที่ศึกษาเรื่องการสอดส่องดิจิทัลให้การต่อศาลว่าเขามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าโทรศัพท์มือถือของเจ้าหญิงฮายาถูกแฮคด้วยซอฟท์แวร์เพกาซัสและเป็นการแฮคจากต้นทางรายเดียวในชาติเดียว ซึ่งชี้ไปทางอื่นได้ยากหากไม่ใช่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ประธานแผนกครอบครัวของศาลสูงสหราชอาณาจักรพบว่าโทรศัพท์มือถือของเจ้าหญิงฮายา ซึ่งฟ้องคดีในฐานะมารดาเรียกร้องสิทธิในการปกครองบุตร ทนายความของเธอ ผู้ช่วยและฝ่ายรักษาความปลอดภัย ล้วนแต่ถูกแฮคโดยซอฟท์แวร์สอดส่องที่ชื่อ ‘เพกาซัส’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีจากบริษัท NSO ประเทศอิสราเอล และชี้ว่าต้นทางของซอฟท์แวร์ดังกล่าวมาจากข้ารับใช้หรือเจ้าหน้าที่ของฝ่ายบิดา หรือชีคโมฮัมมัด อัล มักตุม 

ศาลสูงสหราชอาณาจักรเรียกการแฮคมือถือครั้งนี้ว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาลอาญาในประเทศ และแทรกแซงขั้นตอนของศาลตลอดจนละเมิดสิทธิของมารดาในการเข้าถึงความยุติธรรม ขณะเดียวกันก็เป็นการลุแก่อำนาจของตัวเจ้าครองนครอีกด้วย 

ซอฟท์แวร์เพกาซัส ถูกเรียกว่าสปยแวร์หลายต่อหลายครั้ง เพราะความสามารถในการระบุตำแหน่งของคนที่ใช้มือถือได้ อ่าน SMS ของผู้ใช้ ตลอดจนอีเมล์ และแชทอื่น ๆ ในแอพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงดักฟังการพูดคุยผ่านโทรศัพท์และเข้าถึงรายชื่อผู้ติดต่อ พาสเวิร์ด ปฏิทิน และภาพถ่าย กล่าวคือทำให้ผู้แฮคเห็นข้อมุลทุกอย่างที่อยากเห็นในโทรศัพท์มือถือปลายทางได้ และยังทำให้ผู้แฮคสามารถบันทึกการใช้งานผ่านการถ่ายภาพด้วยกล้องในมือถือปลายทางหรือแคปหน้าจอได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ และการตรวจจับว่าถูกจับตาด้วยซอฟท์แวร์นี้เป็นไปได้ยากอย่างยิ่ง

กรณีของเจ้าหญิงฮายาทราบเรื่องนี้จากเชอร์รี แบลร์ ภรรยาอดีตนายกรัฐมนตรีโทนี แบลร์ของสหราชอาณาจักรที่ได้รับข้อมูลจากบริษัท NSO ว่าซอฟท์แวร์ที่บริษัทพัฒนาอาจถูกใช้ในทางไม่พึงประสงค์โดยการใช้จับตาเจ้าหญิงฮายาและบุคคลใกล้ชิดของเธอ

เคยมีรายงานว่าสปายแวร์คล้าย ๆ กันนี้อาจถูกใช้โดยเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบียผ่านการสั่งการของมกุฎราชกุมารโมฮัมมัด บิล ซามาน ให้แฮคและจับตาดูผู้ไม่เห็นด้วยที่อาศัยในต่างประเทศ เช่นกรณีของจามาล คาชอกจีผู้สื่อข่าวซาอุดิอาระเบียที่ถูกฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่ซาอุ 

คดีระหว่างเจ้าหญิงฮายากับชีคโมฮัมมัด อัล มักตุม เจ้าผู้ครองนครดูไบเป็นคดีที่เจ้าหญิงฮายาฟ้องว่าเธอถูกคุกคามโดยอดีตสวามี นอกจากกรณีการแฮคมือถือแล้ว ศาลยังพบว่าชีคอัลมัคตุมได้ลักพาตัวลูกสาวสองคนออกจากฝ่ายมารดา ได้แก่เจ้าหญิงลาติฟาและเจ้าหญิงชัมซา ต่อมามีภาพเจ้าหญิงลาติฟาออกมาว่าเธอถูกขังอยู่ในคุกคฤหาสน์ องค์การสหประชาชาติและองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ออกมาแสดงหลักฐานว่าเธอยังมีชีวิตอยู่และได้รับเสรีภาพ หลังจากนั้นมีภาพเจ้าหญิงอยู่ในชอปปิ้งมอลล์ในมหานครดูไบคล้ายกับได้รับเสรีภาพ และฝ่ายกฎหมายของเจ้าหญิงออกมาร้องขอสื่อและองค์กรต่าง ๆ ให้หยุดติดตามเรื่องของเธอ