โจ ไบเดน กล่าวปิดการประชุมพรรค ขอเป็นประธานาธิบดีของทุกคน ไม่ใช่เฉพาะฝั่งใดฝั่งหนึ่ง

ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวปิดการประชุมใหญ่ของพรรค โดยนิยามว่าตนเป็นแสงสว่าง ที่จะมาขจัดความมืดมิดภายใต้ประธานาธิบดีคนปัจจุบันให้หมดไป

การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย ผู้ที่กล่าวปิดท้ายการประชุมในครั้งนี้ก็คือ โจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ทางพรรคใช้โอกาสนี้ในการรับรองให้เป็นตัวแทนลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งเดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้

ปีนี้ทางพรรคได้เปลี่ยนมาจัดการประชุมทางออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้สนับสนุนพรรคมาคอยให้กำลังใจอยู่ภายนอกอาคารที่จัดงาน ณ เมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ ซึ่งเป็นเมืองไบเดนเติบโตมา

ในการกล่าวสุนทรพจน์ความยาว 22 นาทีครั้งนี้ ไบเดนเริ่มต้นด้วยการเปรียบเปรยการเสนอตัวเป็นประธานาธิบดีในครั้งนี้ว่าเป็นการ “มอบแสงสว่าง” โดยบอกกับประชาชนชาวสหรัฐฯ ว่า

“ประธานาธิบดีคนปัจจุบันทำให้อเมริกาตกอยู่ในความมืดมิดมานานเกินไปแล้ว มีความโกรธ มีความกลัว มีความแบ่งแยกกันมากเกินไป”

“ผมขอให้คำมั่นที่ ณ ตอนนี้ว่า ถ้าคุณมอบหมายให้ผมเป็นประธานาธิบดี ผมจะดึงสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเราออกมา ไม่ใช่สิ่งแย่ๆ ที่คนเห็นกันในตอนนี้ ผมจะเป็นมิตรที่ส่องแสงสว่าง ไม่ใช่ความมืด”

“นี่คือเวลาของพวกเรา ที่ประชาชนทุกคน จะร่วมมือร่วมใจกัน”

ที่ผ่านมามีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มักถูกโจมตีว่าคำพูดและการกระทำของเขา ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก และไบเดนก็รับปากว่าเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น โดยให้คำมั่นว่าเขาจะทำงานเพื่อทุกคนไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหนก็ตาม และสิ่งแรกที่เขาจะจัดการคือเรื่องของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัญหาด่วนที่ต้องแก้ไขก่อนจะทำอย่างอื่น

“แม้ว่าผมเป็นตัวแทนของเดโมแครต แต่ผมจะเป็นประธานาธิบดีของคนอเมริกัน และจะทำงานอย่างหนักให้กับทั้งคนที่สนับสนุนและไม่ได้สนับสนุนผมอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคืองานของประธานาธิบดี ที่ต้องเป็นตัวแทนของประชาชนทุกคน ไม่ใช่ตัวแทนของฐานเสียงหรือพรรค นี่ไม่ใช่เวลาแบ่งพรรคแบ่งพวก แต่ตอนนี้เป็นเวลาของอเมริกัน”

“ในฐานะประธานาธิบดี สิ่งแรกที่ผมจะทำคือการควบคุมไวรัสที่ทำลายชีวิตไปแล้วมากมาย เพราะตัวผมเข้าใจสิ่งหนึ่งที่ประธานาธิบดีคนนี้ไม่เข้าใจ เราจะไม่มีทางฟื้นเศรษฐกิจได้ เราจะไม่มีทางให้ลูกๆ ของเราได้กลับไปเรียนอย่างปลอดภัย เราจะไม่มีทางมีวิถีชีวิตแบบเดิมได้ ถ้าเราไม่จัดการกับเรื่องไวรัสเสียก่อน”

“ความรักนั้นยิ่งใหญ่กว่าความเกลียด ความหวังยิ่งใหญ่กว่าความกลัว แสงสว่างยิ่งใหญ่กว่าความมืด นี่คือเวลาของพวกเรา นี่คือภารกิจของพวกเรา ขอให้ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า บทแห่งความมืดมิดของอเมริกาได้จบสิ้นลงในคืนนี้ และเป็นจุดเริ่มของความรัก ความหวัง และแสงสว่าง ที่จะเข้ามาร่วมต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของชาติ”

“และนี่คือการต่อสู้ที่เราจะเอาชนะไปด้วยกัน ผมสัญญา” ไบเดนกล่าวปิดท้าย