SHARE

คัดลอกแล้ว

ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากใครติดตามข่าวสารในแวดวงภาพยนตร์เป็นประจำจะพบว่า Joker หนังในจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่จาก DC Comics ซึ่งไม่ได้จะพูดถึงยอดมนุษย์ตัวดี แต่จะว่าด้วยตัวตลกจอมวายร้ายตามชื่อเรื่อง ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางในหลากหลายมุม 

ทั้งด้านความเนี้ยบของกระบวนการสร้างที่วิจิตรบรรจง การแสดงของ วาคิน ฟีนิกซ์ ในบท อาร์เธอร์ เฟล็กซ์ ที่สวมคราบ โจ๊กเกอร์ อาชญากรตัวเอ้ได้อย่างชวนตกตะลึง ทำเอานักวิจารณ์จำนวนมากกะเก็งกันว่า เขาจะต้องได้รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากหลากหลายเวที รวมทั้ง ออสการ์ เป็นแน่ ไปจนถึงการพูดถึงหนังในเชิงสะท้อนสังคม ความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และยังก้าวข้ามไปถึงเรื่องปรัชญา เรื่องความดีและความเลว ความนามธรรมที่ตีความได้ไม่รู้จักจบสิ้น เป็นต้น

แต่ในช่วง 2-3 อาทิตย์นี้ ประเด็นที่ Joker ถูกพูดถึงและถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษคือเรื่องของความรุนแรงที่แฝงอยู่ข้างใน ซึ่งทำเอาใครต่อใครหายใจไม่ทั่วท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2012 ที่เกี่ยวเนื่องกับหนังซูเปอร์ฮีโร่ในค่ายนี้พอดี

หากยังจำกันได้ ตอนที่ The Dark Knight Rises หนังปิดท้ายไตรภาค แบทแมน ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน เข้าฉาย ขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการมาของภาคสุดท้ายปิดฉากอัศวินรัตติกาล กลับมีคนร้ายถืออาวุธปืนบุกเข้าไปกราดยิงผู้คนในโรงภาพยนตร์ขณะฉายหนังเรื่องนี้จนมีผู้เสียชีวิตหลายราย กลายเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ทำให้ใครๆ ต่างหวาดกลัว

แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี แม้รอบแผลทางจิตใจอาจจางลงไป แต่หลายๆ คนก็ยังลบฝันร้ายนั้นไม่ออก และเมื่อ Joker กำลังจะเข้าฉาย เมื่อสื่อประโคมข่าว ปล่อยภาพ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวออกมาโหมกระแสเต็มที่ ความหวาดกลัวที่เหมือนจะสงบลงแล้วก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ใครหลายๆ คนขนหัวลุกอีกรอบ

แต่ผู้ที่รู้สึกสะเทือนขวัญจากเหตุการณ์นี้ที่สุด จะเป็นใครไม่ได้รอกจากเหล่าครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย หนึ่งในนั้นคือ แซนดี้ ฟิลลิปส์ ผู้สูญเสียลูกสาววัย 24 ปี เจสซิก้า กาไว ไปจากเหตุการณ์กราดยิงครั้งนั้น เธอได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกตอนเห็นตัวอย่างหนังครั้งแรก และโจมตีค่ายหนัง วอร์เนอร์  (Warner Bros.) ที่สร้างหนังเรื่องนี้ออกมา

“ฉันตื่นกลัวมากๆ และเมื่อฉันลองพินิจพิเคราะห์ ลงลึกมากขึ้นก็พบว่า หนังมีความรุนแรงมากโดยไม่มีความจำเป็น มันทำให้ฉันโกรธบริษัทผู้สร้างหนังมากๆ ที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบ ไม่นึกถึงและเป็นกังวลต่อสาธารณะเลย”

จริงๆ แล้วการจะติดสินความรุนแรงจากแค่ตัวอย่างหนัง โดยที่ยังไม่ได้พิจารณาตัวหนังทั้งเรื่อง หรือพินิจพิเคราะห์ดูว่า เขานำเสนอออกมาอย่างไร ก็อาจไม่แฟร์กับทางผู้สร้างไปเสียหน่อย แต่ก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้หากผู้คนจะตัดสินหนังเพียงแค่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นญาติ ครอบครัว หรือคนรู้จักที่ต้องพบเจอความรุนแรง เพราะจะให้พวกเขากลั้นใจเข้าไปดูหนังทั้งเรื่องเพื่อพิสูจน์ความรุนแรงในหนัง มันก็ไม่ใช่เรื่อง

ไม่เพียงแค่คนดูที่ต้องปวดหัว แต่เหล่าผู้สร้างเองก็ไมเกรนขึ้นหนักไม่แพ้กัน เพราะไม่คาดคิดว่ามันจะกลายเป็นประเด็นใหญ่ขนาดนี้ ผู้กำกับ ท็อดด์ ฟิลิปส์ ซึ่งสร้างชื่อมาจากหนังตลกบ้าๆ บวมๆ The Hangover (2009) โดนใครต่อถามถามถึงเรื่องนี้บ่อยจนเขาอดตั้งคำถามกลับไม่ได้ว่า แล้วทำไมหนังที่มีความรุนแรงเรื่องอื่นๆ ไม่โดนตั้งคำถามแบบนี้บ้าง และหนังที่เขาพาดพิงเต็มๆ ก็คือ John Wick ที่นำแสดงโดย คีอานู รีฟส์

รวมถึง วาคิน ฟินิกซ์ ผู้รับบท โจ๊กเกอร์ เมื่อเขาโดนยิงด้วยคำถามนี้ ก็ทำเอาเขาตอบอะไรไม่ถูกและเดินหนีไปเลยดื้อๆ เพื่อตั้งสติ แต่ผ่านไปสักพักก็เดินย้อนกลับมาตอบว่า เขาไม่เคยฉุกคิดถึงประเด็นนี้เลย

ความรุนแรงอยู่คู่กับโลกนี้มานานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในโลกแห่งความเป็นจริง หรือความรุนแรงผ่านสื่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกภาพยนตร์ จนมีการพูดคุยถกเถียง และศึกษาในเชิงวิชาการอย่างกว้างขวางว่า หนังที่อุดมไปด้วยความรุนแรง การฆ่าฟัน ใช้กำลังทำร้ายกัน มีส่วนมากน้อยเพียงใดในการบ่มเพาะความดุร้ายให้เกิดขึ้นในจิตใจคน และเป็นตัวอย่างให้คนลอกเลียนแบบจนเกิดเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญมากแค่ไหน 

ในกรณีของ Joker เอง หลังจากเปิดฉายในเทศกาลหนังเวนิซครั้งล่าสุด จนได้รางวัลสิงโตทองคำ (Golden Lion) หรือรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักวิจารณ์จำนวนมากก็ถกเถียงกันมาตั้งแต่ตอนนั้นว่าหนังเป็นการส่งเสริมความรุนแรงจริงๆ หรือไม่ แน่นอนว่าผลที่ออกมาก็แบ่งเป็น 2 ฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด

และเมื่อถึงคราวหนังเปิดฉายรอบสื่อมวลชนในประเทศไทย เมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา นักวิจารณ์และผู้ชมที่ได้ดูก็แสดงทัศนะถึงประเด็นนี้ออกเป็น 2 ฝ่ายที่แตกต่างกันสุดขั้วเช่นกัน

บล็อกเกอร์และนักแปลซับไตเติ้ลชื่อดัง เจไดยุทธ (Jediyuth) ได้แสดงความคิดเห็นเอาไว้หลังจากดูจบว่า “มันมีความน่ากังวลพอสมควรหลังดู #Joker จบ เพราะเรารู้สึกว่าหนังมันเชิดชูการใช้ความรุนแรงเกินไป ไม่แปลกใจที่พ่อแม่ของเหยื่อกราดยิงในสหรัฐจะออกมาพูดกัน มันหมิ่นเหม่ต่อการส่งข้อความว่า ถ้าคุณถูกกระทำ ถูกรังแก มันโอเคที่จะหยิบปืนไปยิงคน และมันก็จะทำให้ได้รู้สึกดีและสะใจ

ขณะที่ด้านของ วาริน นิลศิริสุข นักวิจารณ์จากนิตยสาร Starpics กลับมองอีกแบบ “Joker ใกล้เคียงกับการเป็นหนังสะท้อนสังคม/วิเคราะห์ตัวละครมากกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ มันขมขื่น เดือดพล่าน และแสบสัน โดยหากมองให้ลึกลงไปจะพบว่าหนังไม่ได้เชิดชูความรุนแรงอย่างที่บางคนกล่าวหา แต่กลับพยายามชี้ให้เห็นว่าบางครั้งความรุนแรงก็เป็นผลพวงจากความคับแค้นซึ่งไม่ได้ปราศจากต้นตอ (สามารถอ่านความคิดเห็นของเขาได้เต็มๆ ในทวิตเตอร์)

ข้อถกเถียงว่า Joker สนับสนุนความรุนแรง และขับเน้นความเดือดเลือดพล่านออกมาเกินความจำเป็นหรือไม่ ดูจะเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันได้อีกยาว และเป็นไปได้สูงว่ากว่าจะได้ข้อสิ้นสุดจริงๆ เราคงจะได้เห็นการกราดยิง การถือครองอาวุธปืนแล้วเอาไปใช้ในทางที่ผิดอยู่เรื่อยๆ และจะมีหนังในลักษณะคล้ายกันถูกสร้างตามออกมาอีกมากมาย

ในขณะที่ทุกท่านกำลังอ่านบทความนี้ หลายๆ คนน่าจะได้ดู Joker ไปแล้ว แต่ละคนน่าจะได้เห็นแล้วว่า หนังสนับสนุนความรุนแรงจริงหรือไม่ และมีเหตุผลอะไรบ้างมาสนับสนุนความคิดดังกล่าว และไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ตาม การพูดคุยเพื่อถกเถียงเรื่องดังกล่าวน่าจะสร้างประโยชน์ต่อสังคมได้ไม่มากก็น้อย

บทความโดย ปารณพัฒน์ แอนุ้ย

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า