กรณีผู้ต้องหา 4 คน ในคดีร่วมกันอุ้ม น.ส.โอปอ เรียกค่าไถ่ ถูกศาลจังหวัดกาฬสินธุ์สั่งปล่อยตัวจากเรือนจำ เนื่องจากพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีฟ้องคดีไม่ทัน และต่อมาผู้ต้องหาได้หลบหนีนั้น
วันที่ 15 มิ.ย. รายงานข่าวจากสำนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า คดีนี้เกิดขึ้นในเดือน ก.ค. 2561 ตำรวจจังหวัดกาฬสินธุ์ จับกุมคนร้าย 5 คน ประกอบด้วย นายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ หรือเปรี้ยว อายุ 23 ปี,นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง หรือแป๋ม อายุ 20 ปี และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย หรือโชค อายุ 23 ปี ,นายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี และ นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี
ทั้งหมดพนักงานสอบสวนส่งสำนวนถึงอัยการและได้ส่งฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในข้อหาร่วมกันเรียกค่าไถ่ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2561 ต่อมา เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2562 ศาลนัดไต่สวนคดี ปรากฏว่า นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง จำเลยที่ 3 รับสารภาพ ศาลจึงได้สั่งจำคุก 5 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือ 4 คน ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งให้แยกฟ้องเป็นคดีใหม่ โดยให้เป็นคดีชั่วคราว ระหว่างรอฟ้องและให้จำหน่ายคดีเด็ดขาดเมื่ออัยการยื่นฟ้องหรือไม่ยื่นฟ้องภายในกำหนดและให้ขังจำเลยไว้จนกว่าอัยการจะยื่นฟ้องภายใน 15 วัน
คดีนี้เมื่อนับจากวันที่ 5 มี.ค. ไปอีก 15 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งอัยการผู้รับผิดชอบคดีต้องนำผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ไปส่งฟ้อง แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 4 คนไม่ถูกส่งฟ้องทันตามกำหนด ศาลจึงต้องสั่งปล่อยตัวเป็นเหตุให้ทั้งหมดหลบหนีเพราะไม่ถูกดำเนินคดี
รายงานข่าวระบุด้วยว่า อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุกับอัยการที่ไม่ฟ้องคดี ขณะเดียวกันอัยการจังหวัดได้ขอหมายจับต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ให้จับกุม 4 ผู้ต้องหาที่เหลือตามฐานความผิด ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัว
ด้านนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานกรณีนี้แล้ว ได้สั่งการให้ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าขอทราบรับข้อเท็จจริงต่ออัยการจังหวัดและศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อทราบว่าเหตุผลใดผู้ต้องหาคดีอุฉกรรจ์ อีก 4 คนถึงถูกปล่อยให้หลุดคดีไปโดยจะติดตามเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง