“บิ๊กตู่” ยืนกราน ไม่เปลี่ยนโผครม.แล้ว “ขอร้องให้อยู่กันไปก่อน”

หลังมีเสียงไม่พอใจโผครม.ประยุทธ์ 2 ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ เผย รายชื่อครม.ใหม่อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ ยืนยันไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้ว ชี้เป็นอำนาจนายกฯ เลือกคนเป็น “รัฐมนตรี” บอกทุกคนในพรรคร่วมเข้าใจดี ขอทุกฝ่ายหยุดการเคลื่อนไหว

(พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างร่วมประชุมผู้นำ G20 ในหัวข้อเศรษฐกิจโลก)

ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันนี้ (29 มิ.ย. 62) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างปฎิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือ จี 20 (G20) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า  ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรี ทุกอย่างเป็นไปตามแบบที่ทุกรัฐบาลได้ดำเนินการมาในเรื่องของกรอบการตรวจสอบ เพื่อให้มีการตรวจสอบได้การเป็นรัฐมนตรี

ไม่อยากให้มองว่า เป็นกระทรวงใหญ่ กระทรวงเล็ก กระทรวงเอ กระทรวงบี เพราะว่าไม่ใช่บริษัท ทุกกระทรวงมีความสำคัญเท่ากันหมด มีบทบาทกับประชาชนทุกหมู่เหล่า เพราะพวกเราถูกเลือกมาด้วยปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ประชาชนชาวไทย  ต้องรู้ถึงความแตกต่าง ว่า ปวงชนคือคนทั้งประเทศ ถ้าประชาชน คือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่เลือกเข้ามา

ขั้นตอนนี้เหลือนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย และถวายสัตย์ปฏิญาณ ในระหว่างนี้รัฐมนตรีปัจจุบันก็ปฏิบัติหน้าทีไประยะหนึ่งก่อน เพื่อรอให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ และหลังจากนั้นก็จะอยู่ในช่วง 15 วัน ที่จะต้องมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ในระหว่างการรวบรวมนโยบาย รวมทั้งให้เกียรติโดยการนำนโยบายของฝ่ายค้านมาดูด้วยว่าเป็นอย่างไรซึ่งก็ตรงกัน เพราะเป็นความต้องการของคนทั้งประเทศ

“เพราะฉะนั้นการเป็นรัฐมนตรี ผมอยากให้ดูความเหมาะสม ความเหมาะสมของผมก็คือว่า ใครอยู่ที่ไหน มีบทบาทตรงไหน ถึงแม้ว่าจะเป็นโควต้าของแต่ละพรรคการเมือง แต่ถ้าทำไม่ดีก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ ไม่ต้องกังวล ผมคิดว่า วันนี้เราต้องไปต่อ ทุกอย่างที่เขาว่า ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแบบเดิมทั้งหมดก็ไม่ได้ก็ไม่ใช่ปฏิรูป นายกรัฐมนตรีปฏิรูปคนเดียวไม่ได้ นักการเมืองทุกคน ทุกพรรค ต้องมุ่งหวังที่จะทำหน้าที่ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม

เพราะทั้งหมดคือรัฐบาล ครม. ของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ ครม. ของจังหวัดโน้นจังหวัดนั้น ซึ่งเป็นเรื่องของคะแนนเสียงก็ว่ากันไป แต่ทั้งหมดต้องสามารถตอบความต้องการของประชาชนที่เลือกตัวเองเข้ามาได้ในกรอบของรัฐบาล ซึ่งต้องเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศให้ได้ วันนี้ผมอยากให้หยุดได้แล้วในการแพร่ข่าวทางโซเชียล ตามสื่อฯ ทุกอย่างมันจบแล้ว เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะนายกฯ ได้ตัดสินใจไปแล้ว ผมเป็นผู้รับผิดชอบ” พล.อ.ประยุทธ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า ขณะนี้ได้มีการทำความเข้าใจกับทุกคนแล้วว่า เรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจการตัดสินใจของตน ซึ่งขณะนี้ทุกคนเข้าใจกันดีไม่มีปัญหา เพราะต่างคนต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะใครก็ตาม ต้องเข้าใจตน เพราะตนเป็นนายกรัฐมนตรี

“แต่ผมก็อยากจะขอร้องให้อยู่กันไปก่อน ไหนๆ ก็เข้ามาถึงวันนี้แล้ว เราจะถอยหลังกันอีกทำไม ทุกเรื่องแม้กระทั่งการประชุมในสภา ที่เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ใช่จับจองว่าจะล้มรัฐบาลอย่างเดียว อะไรที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนของประเทศก็ควรจะยกมือพร้อมกันทั้งสภา” พล.อ.ประยุทธ กล่าว และย้ำว่า ตนรู้จักทุกคนที่เสนอมาเป็นรัฐมนตรี เพียงแต่ว่า วันนี้บทบาทของโซเชียลมาก บางทีใครเขียนอะไรมาก็ไม่รู้ อย่าให้วุ่นวายมากเลย ซึ่งต่างประเทศก็ให้การยอมรับว่า เรามีรัฐบาลแล้ว ถ้าไม่ดีอย่างไร วันหน้าค่อยไปแก้ไขกัน

โผ ครม. (28 มิ.ย. 62)

ในส่วนของรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เดิมจะเป็นของ นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ มีรายงานข่าวระบุว่า ตำแหน่งจะกลับไปเป็นของ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ตามเดิม

ส่วนตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการการต่างประเทศ มีรายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย นั่งในตำแหน่งนี้ตามเดิม จึงทำให้ต้องมีการโยก ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ที่เดิมจะได้นั่งในกระทรวงบัวแก้ว ไปเป็น รมว.แรงงาน แทน การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อให้ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่เดิมมีแนวโน้มจะได้ตำแหน่ง รมว.แรงงาน ต้องหลุดโผ ครม. ไปเพื่อหลีกทางให้ ม.ร.ว.จัตุมงคล มานั่งที่กระทรวงแรงงานแทน

ส่วนกรณีของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ตามโผ จะนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แต่มีรายข่าวว่า อาจจะถูกสลับเก้าอี้จากรัฐมนตรีพลังงานไปเป็นรัฐมนตรีอุตสาหกรรม

ขอบคุณภาพ FB : ข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“อนุชา” – “สุริยะ” เตรียมทวงสัจจะทหาร นายกฯ เคยรับปากไม่เปลี่ยนโผ ครม.

ครม. “ประยุทธ์2” วุ่นเพราะอธิบายไม่ได้ใช้สูตรไหนแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี