Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ครม.อนุมัติ 946.13 ล้านบาทให้สภากาชาดฯ จัดหาวัคซีนโควิด-19 ‘โมเดอร์นา’ ฉีดประชาชนกลุ่มเป้าหมายฟรี 1 ล้านโดส คาดส่งมอบวัคซีนล็อตแรกในต้นปีหน้า

วันที่ 14 ก.ย. 2564 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติงบกลาง ปี 64 จำนวนเงิน 946.13 ล้านบาทให้กับสภากาชาดไทย สำหรับใช้ในโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 วัคซีนโมเดอร์นา ฉีดฟรีให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 1 ล้านโดส

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า บริษัท ซิลลิคฟาร์มา จำกัด ตัวแทนจัดหาและกระจายโมเดอร์นาในไทย ได้เสนอขาย 28 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 940 บาทต่อโดส รวมค่าขนส่งอีก 26.75 บาทต่อโดส รวมเป็นเงิน 966.75 บาทต่อโดส ซึ่งกำหนดให้ชำระเงินล่วงหน้าร้อยละ 30 ของมูลค่าวัคซีนรวม ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ส่งมอบวัคซีนล็อตแรกในต้นปี 2565

ทั้งนี้ ทั้งนี้สภากาชาดไทยได้มีนโยบายในการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐ ด้วยการให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน รวมถึงการจัดทำโครงการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางโดยไม่คิดมูลค่า ด้วยการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19  Moderna จำนวน 1 ล้านโดส โดยสภากาชาดไทยดำเนินการเองส่วนหนึ่ง และให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2564 เป็นต้นไป

สำหรับสภากาชาดไทย ก่อนหน้านี้สั่งวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา โดยติดต่อผ่านบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 1 ล้านโดส โดยเริ่มส่งภายในไตรมาส 4 ของปี 2564 และขอทำสัญญาซื้อขายโดยตรงกับทางบริษัท ฯ แต่เนื่องจากทางบริษัทฯ ยังไม่สามารถทำสัญญาโดยตรงกับสภากาชาดไทย สำหรับวัคซีนที่จะมาถึงภายในปีนี้ จึงจำเป็นต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม ซึ่งทางบริษัทฯ ได้แจ้งองค์การเภสัชกรรมให้ทราบตั้งแต่ต้นว่า วัคซีน 1 ล้านโดส ในปี 2564 นี้ เป็นของสภากาชาดไทย

จากนั้นวันที่ 19 ส.ค. 2564 นายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการปฏิบัติการแทนเลขาธิการสภากาชาดไทยได้ลงนามหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด นายก อบจ. 38 จังหวัด ถึงแนวทางการบริหารวัคซีนโควิดโมเดอร์นา ขอให้ฉีดตามกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม พร้อมให้จัดส่งบัญชีรายชื่อกลุ่มเป้าหมายภายใน 30 ก.ย.นี้ สาระสำคัญคือ

ตามที่สภากาชาดไทยได้จัดสรรวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นาให้องค์การบริการส่วนจังหวัด เพื่อนำไปฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่ม ได้แก่

  1. คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีมีครรภ์

2.ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป

3.บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล

  1. ผู้ที่ทำงานประจำศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนหนังสือ
  2. บุคลากรที่ออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชนตามโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนครั้งนี้ และบุคคลที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เนื่องจากติดขัดระเบียบกฎหมายทางราชการ และได้มีการชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนเมื่อวันที่ 17 ส.ค. 64 ไปแล้วนั้น

เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ได้กำหนดการจัดหาวัคซีนนำมาฉีดให้กับประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้เป็นไปตามแนวทางหรืออยู่ในการกำกับดูแลของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และการดำเนินการฉีดต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายทั้ง 5 กลุ่มเป็นกลุ่มเสี่ยงลำดับแรก สภากาชาดไทย จึงขอแจ้งแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนโมเดอร์นา ดังนี้

1.ขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สำรวจจัดทำข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย พร้อมรายชื่อสำรองอีกร้อยละ 30 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายที่จังหวัดได้รับการจัดสรรวัคซีน ตามแบบฟอร์ม Whitelist ของระบบ “หมอพร้อม” ส่งให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาตรวจสอบ และรับรองความถูกต้องของกลุ่มเป้าหมาย และให้ส่งบัญชีข้อมูลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการอนุมติจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดแล้ว ให้สภากาชาดไทย เพื่อนำไปตรวจสอบคุณสมบัติตามรายชื่อของกลุ่มเป้าหมายกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ อาจมีการนำรายชื่อดังกล่าวแสดงทางเว็บไซต์ของสภากาชาดไทย เพื่อให้สาธารณชนตรวจสอบเพื่อความโป่งใส ก่อนนำข้อมูลดังกล่าว เข้าสู่ระบบหมอพร้อมต่อไป

ทั้งนี้ ขอให้จัดส่งบัญชีรายชื่อดังกล่าวให้สภากาชาดไทยภายในวันที่ 30 กันยายน 2564

2.ในการกำหนดจำนวนประชาชนแต่ละกลุ่มเป้าหมายทั้ง 5 กลุ่ม ว่าจะแดให้กลุ่มใดจำนวนมากน้อยเท่าใดนั้น ขอให้จังหวัดให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง โดยเรียงลำดับความสำคัญจากกลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ 4 และกลุ่มที่ 5 ตามลำดับ ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มที่ 1 กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ 4 และกลุ่มที่ 5 นั้น ต้องไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน หรือห้ามนำไปฉีดเป็นวัคซีนเข็มที่ 3 (Booster) โดยเด็ดขาด เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 แต่อย่างใด

3.เนื่องจากมีบางจังหวัดจะขอเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายในการฉีดวัคซีน โดยอ้างว่าประชาชนตามกลุ่มเป้าทั้ง 5 กลุ่ม ได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วนั้น จังหวัดจะต้องมีการแสดงข้อเท็จจริง พร้อมหลักฐานที่ชัดเจน ว่า ประชาชนทั้ง 5 กลุ่มเป้าหมายได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว จึงจะขอขยายหรือเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้ โดยจะต้องให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีมติรับรองการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวด้วย แล้วส่งไปยังสภากาชาดไทยพิจารณาก่อน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า