Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พปชร.เปิดตัวนิพิฏฐ์มั่นใจช่วยงานภาคใต้พัฒนาพื้นที่ ช่วยเหลือประชาชน ชี้ไม่ใช่คนไกลหัวหน้าพรรค เคยร่วมทำงานสมัยเป็นรัฐมนตรี ไม่ต่อรองตำแหน่ง เผยหัวหน้าพรรคมอบหมายให้ดูแลภาคใต้ ไม่ขอต่อรองอะไร ยันเป็นนักรบต้องได้รบ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พร้อมนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส..บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส..บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล แกนนำพรรค ร่วมกันแถลงต้อนรับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และร่วมเป็นทีมงานภาคใต้ พร้อมกับเปิดตัวว่าที่ ผู้สมัคร ส.. พื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย จ.สงขลา ได้แก่ นายณรงค์พร ณ พัทลุง เขต 2 .นครศรีธรรมราช ได้แก่ นางสุภาพ ขุนศรี เขต 2 และนายสุธรรม จริตงาม เขต 4 นอกจากนี้ ยังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส..พื้นที่ภาคอีสาน ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา ได้แก่ นายประพิศ นวมโคกสูง เขต 3 นางอรทัย พลวิเศษ เขต 6 นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ เขต 8  ..อรัชมน รัตนเศรษฐ เขต 9 นายวิรัตน์ วาริชอลังการ เขต 14 นายพจน์ เจริญสันเทียะ เขต 16 และ จ.ชัยภูมิ ได้แก่ น..จิตราภรณ์ กล้าแท้ เขต 1 ..กาญจนา จังหวะ เขต 2 และนายสนั่น พัชรเตชโสภณ เขต 4

นายสันติ กล่าวว่า พปชร.มีความมุ่งมั่นในการที่จะดูแลบ้านเมืองและให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีอนาคตและมีความตั้งใจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับประชาชนในทุกระดับ ถือเป็นวันดีที่ พปชร.มีว่าที่ผู้สมัคร ส..ซึ่งมีอุดมการณ์เดียวกับ พปชร. โดยเฉพาะนายนิพิฏฐ์ จะเป็นแกนในการช่วยเหลือประชาชน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการดูแลประชาชน เป็นผู้มีประสบการณ์ เป็น ส..พัทลุงถึง 8 สมัย และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ที่หัวหน้าพรรคและผู้บริหารชื่นชมในความรู้ความสามารถที่จะมาทำงานพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะจะดูแลชาวใต้ให้มีความสุข อยู่ดีกินดี และพัฒนาภาคใต้ อย่างไรก็ตาม พปชร.มีความโชคดีที่ได้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมงาน เติมเต็ม พปชร.ในภาคใต้ให้แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดตรงใจชาวใต้ 

ด้านนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า หลายคนสงสัยว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ความจริงกับพล..ประวิตร ครั้งหนึ่งทำงานร่วมกับท่านในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ พล..ประวิตรเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ฉะนั้นไม่ใช่เพิ่งรู้จักท่าน แต่ด้วยวิถีการเมืองแยกย้ายกันไปอยู่คนละพรรค จนกระทั่งวันนี้ได้รับเกียรติจากหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ทำให้มาร่วมทำงานกับ พปชร. อย่าคิดว่าเป็นขุนพลหรืออะไร ไม่ใช่ เป็นการพูดเพื่อให้เกียรติกัน ตนมาอยู่นี่เพื่อมาร่วมทำงานกับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ทำงานร่วมกันเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง ไม่ได้มาเป็นผู้นำอะไรในภาคใต้

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า พล..ประวิตรบอกว่าอยากให้ช่วยดูแลภาคใต้ และให้นายอภิชัยมาช่วยในภาคใต้ด้วย ทั้งนี้ในภาคใต้เรามีบุคคลที่หัวหน้าพรรคมอบหมายหลายคน ทั้งนายอภิชัย รวมถึงนายอนุมัติ อาหมัด อดีต ส.. แต่นายอนุมัติยังอยู่ในเงื่อนไขยังพ้นตำแหน่ง ส..ไม่ครบ 2 ปี จึงจะช่วยเรื่องการแนะนำและอะไรที่ไม่ผิดกฎหมาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสิ่งไหนที่ทำได้เพื่อชัยชนะของ พปชร.พร้อมจะใช้พลังทุกส่วนเพื่อให้ได้รับชัยชนะในภาคใต้ ต้องขอขอบคุณพล..ประวิตร เลขาธิการพรรค และนายวิรัชซึ่งเป็นผู้เชื้อเชิญตนมาอยู่ตรงนี้ 

ยันร่วมงาน พปชร. ไม่มีเงื่อนไข เป็นนักรบต้องได้รบในสนามเลือกตั้ง 

ก่อนหน้านี้ นายนิพิฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจมาร่วมงานพรรค พปชร. ว่า ได้พูดคุยกับนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้บอกเหตุผลอะไร เพราะท่านคงทราบอยู่แล้ว และเป็นการจากกันด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร ใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 2-3 เดือน ก่อนจะมาร่วมงาน ทั้งนี้ได้ยื่นใบลาออกต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า เหตุผลที่ออกมาจากพรรคสร้างอนาคตไทยเพราะมีข่าวว่าจะไปรวมกับพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มีหลายเรื่อง และนั่นเป็นสาเหตุแรกเริ่ม และทราบว่าตอนนี้เขาไม่ไปรวมแล้ว แต่ยังมีสาเหตุมากกว่านั้น ส่วนรายละเอียดขอให้ทางพรรคสอท.เขาพูดเองดีกว่า

ส่วนการมาร่วมงานกับพรรคพปชร.มีเงื่อนไขที่ตรงใจ ถึงตัดสินใจมาร่วมงานใช่หรือไม่  นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า  ไม่มีเงื่อนไข แล้วแต่พรรคจะให้ทำอะไร แต่ตนเป็นนักรบต้องได้รบ เมื่อถามย้ำว่าก่อนหน้านี้เคยประกาศจะทำสงครามครั้งสุดท้ายกับพรรคสร้างอนาคตไทย นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า พรรคสลายเสียก่อนตั้งแต่ยังไม่ได้ทำสงคราม ส่วนรายละเอียดให้พรรคเขาพูดเองดีกว่า

เมื่อถามว่า กระแสภาคใต้ชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่อยู่พรรคพลังประชารัฐแล้ว จะสามารถดึงดูดคะแนนจากประชาชนได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยอมรับกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ในภาคใต้ดี แต่ก็มีเงื่อนไขหลายประการ คิดว่าอาจจะไม่ดีเหมือนกับการเลือกตั้งปี 62 อีกต่อไป อย่างเช่นวาระการดำรงตำแหน่ง ถ้าเลือกไป 2 ปีก็ต้องเลือกนายกฯ ใหม่ นอกจากนี้ พรรคใหม่ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นพรรคที่เหมือนสร้างขึ้นมาใหม่เลย เพราะฉะนั้นไม่ง่ายไปแข่งกับพรรคที่มีส.ส.อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่ร้อนแรงเหมือนเดิม

เมื่อถามว่า ตั้งเป้ากวาด ส.ส.ภาคใต้เท่าไหร่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่รู้พรรคตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ แต่เราจะทำให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า เพิ่งอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยไม่นานย้ายมาพรรคพลังประชารัฐ ประชาชนจะสับสนหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า คงไม่ เพราะมันมีเหตุจำเป็น ส่วนเหตุจำเป็นเกิดจากอะไรนั้น ขอให้พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นคนพูดเอง การที่ตนเดินออกมาไม่ใช่ไม่มีเหตุผล เพราะคุยกันมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้ว

ส่วนจะเป็นปัญหาขัดแย้งภายในพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ความขัดแย้ง เพราะที่ร่วมตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค มีหลักการที่นำอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ไม่สุดขั้วทางทางการเมือง ไม่แดงจัด ไม่เหลืองจัด ไม่ซ้ายจัด ไม่ขวาจัด 2.เราจะเป็นพรรคที่มุ่งเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาทางการเมือง แต่พอพรรคเดินมาได้ระยะหนึ่งก็มีแนวคิดในการควบรวมพรรค ซึ่งตนไม่ได้ขัดข้องหากการควบรวมพรรคจะทำให้พรรคมีตัวตนในทางการเมือง มีที่ยืนในทางการเมือง โดยเฉพาะเงื่อนไขรัฐธรรมนูญที่ทำให้พรรคโตยาก แต่การควบรวมต้องไม่ขัดหลักการ 2 ข้อนี้

“แต่ปรากฏว่าการควบรวมมีการเบี่ยงเบนไปบางส่วน อย่างเช่น มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคจากนายอุตตม เป็นคนอื่น และที่สำคัญคือ มีการเปลี่ยนแปลงแคนดิเดตนายกฯ จากนายสมคิด ไปเป็นบุคคลอื่น โดยนายสมคิด จะเป็นเบอร์ 2 และเบอร์ 3 ไป ซึ่งคิดว่าหลักการตรงนี้มันถูกเปลี่ยนแปลงไป และผมได้ยืนยันแล้วว่าหากรวมพรรคลักษณะแบบนี้ ผมคงไม่สามารถทำงานในพรรคได้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจไม่ได้มีความขัดแย้ง” นายนิพิฏฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า มีการมองกันว่า การที่มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคต้องการให้มาชนกับพรรคภูมิใจไทยในภาคใต้โดยเฉพาะนางนาที รัชกิจประการ แม่ทัพภาคใต้ พรรคภูมิใจไทย นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ อยู่ที่ไหนก็ชนได้ เคยชนนางนาที รัชกิจประการ กระเด็นไปแล้ว ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไป 3 ปีแล้ว ไม่มีปัญหาชนได้ทั้งนั้น

ส่วนในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะต้องชนกับนางนาทีจะเป็นการทวงคืนพื้นที่เขต 2 พัทลุงหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่ชนลักษณะนั้น ขอเป็นตัวเลือกใหม่ก็แล้วกัน ไม่ถือว่าชนกันเป็นศัตรูขนาดนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า การย้ายมาพลังประชารัฐ มีลูกทีมตามมาหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า มาเยอะ และยอมรับว่าเป็นปัญหาเพราะมีพื้นที่ทับซ้อนกัน ความจริง 30 กว่าคนที่วางไว้มาทั้งหมด แต่เมื่อพื้นที่ทับซ้อนกันก็ต้องมาคุยกันใหม่อีกที

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในพื้นที่จ.พัทลุง คิดว่าจะสู้กับนางนาทีกับนายนริศ ขำนุรักษ์ ได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ หยุดไปก่อนกล่าวว่า “คิดว่าได้ครับ การเมืองมันต้องเลือกความหวัง ใครมีความหวังมากกว่า มีโอกาสเป็นรัฐบาลมากกว่าก็ได้รับเลือกไป ใครไม่มีความหวังก็ไม่ได้รับเลือกหรอก อย่างส.ว.เขาดูเบื้องหลังเวลาเลือก แต่ผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองเขาดูช้างหน้า ซึ่งตนคิดว่าสู้ได้”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า