สหรัฐฯ คลื่อนกำลังเข้าอิรัก หลังถูกม็อบถล่มสถานทูตกลางกรุงแบกแดด

กองทัพสหรัฐฯ ส่งทหารพันนายเตรียมรับมือเหตุรุนแรงในอิรัก หลังสถานทูตของสหรัฐฯ ถูกม็อบบุก

วันที่ 2 มค. 63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ส่งทีมเคลื่อนที่เร็วของหน่วยนาวิกโยธิน และ ทหารพลร่ม ร่วม 850 นาย เข้าสู่กรุงแบกแดด ประเทศอิรักแล้ว เพื่อเสริมกำลังให้กับสถานทูตของตน หลังถูกสมาชิกกองกำลังนักรบและกลุ่มประชาชนผู้สนับสนุนจำนวนมาก ก่อเหตุประท้วงบุกโจมตีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดด เมื่อวันที่ 31 ธค. ที่ผ่านมา

โดยม็อบจำนวนหลายร้อยคน มีการขว้างปาก้อนอิฐใส่อาคาร วางเพลิงป้อมยาม พร้อมชูป้าย ร้องตะโกนสาปแช่งสหรัฐฯ ทำให้เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิรักและเจ้าหน้าที่ ต้องอพยพออกจากสถานทูตเพื่อความปลอดภัย ซึ่งการบุกประท้วงดังกล่าวเป็นผลมาจากที่ กลุ่มผู้ประท้วงต้องการแก้แค้นที่กองทัพสหรัฐ โจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่น สังหารนักรบอิหร่านเครือข่ายฮาชิด เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้นักรบเสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ซึ่งทางสหรัฐระบุว่า การโจมตีทางอากาศนั้น เป็นการแก้แค้นการเสียชีวิตของพลเรือนชาวอเมริกัน ที่ถูกโจมตีด้วยจรวดที่ฐานทัพของอิรักไปก่อนหน้านี้

ล่าสุดกลุ่มผู้ประท้วงทั้งหมด ได้ถอนกำลังออกจากบริเวณสถานทูตสหรัฐฯแล้ว หลังประท้วงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 วัน โดยผู้ประท้วงทั้งหมดอ้างว่า การโจมตีสถานทูตดังกล่าวดังกล่าวของพวกเขาประสบความสำเร็จ ส่งสารไปถึงกรุงวอชิงตันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้านรัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของประธานาธิบดี ทรัมป์ที่ก่อนหน้านี้โพสต์ทวิตเตอร์กล่าวหาว่า อิหร่านคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ขณะที่ทางอิหร่านก็ได้ออกมาตอบโต้ว่า ไม่เป็นความจริง