คำต่อคำ “ทวี ไกรคุปต์” เอาชีวิตเป็นเดิมพันไม่ได้รุกป่า-ปัดแย่งไมค์อธิบดีป่าไม้

นายทวี ไกรคุปต์ พ่อของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปที่รัฐสภาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแสดงความไม่พอใจการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการตรวจสอบที่ดินของตนและลูกสาว รวมเป็นเวลากว่า 36 นาที เนื้อหาหลักนายทวีพยายามยืนยันว่า ไม่ได้แย่งไมค์อธิบดีกรมป่าไม้ระหว่างการแถลงข่าววานนี้ และติงการพาดหัวข่าวของสื่อที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ประกาศเดิมพันด้วยชีวิตถ้าถูกตัดสินว่า “บุกรุกป่า”

นายทวี ยืนยันด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนไม่ได้แย่งไมค์จากนายอรรพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ตามที่สื่อเขียนถึงและมีคลิปลงในโซเชียลมีเดีย ตนไม่ได้ต้องไปที่นั่น จะรออธิบดีแถลงก่อนให้ข่าวแต่ระหว่างทางมีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์มาตลอด ว่าอยากจะให้เราแถลงตนเลยเดินทางไปที่กรมป่าไม้ ตอนแรกจะไปนั่งฟังเฉยๆ แต่มีคนพูดขึ้นก่อนว่าที่ป่าที่เป็นปัญหา เราจึงอยากจะถามอธิบดีอยู่แล้ว ว่า เขตป่าสงวนฯ หรือเขตป่าขอบเขตอย่างไร ระหว่างพูดไปสักหน่อยก็มีคนเอาไมค์ลอยมาให้ตน จากนั้นตนได้เดินไปหาอธิบดีเพื่อให้ชี้แผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 400,000 ไร่

“ผมไม่นึกว่าแย่งไมค์ เป็นภาพที่ของผมอย่างนั้น เป็นภาพของกุ๊ย ของคนกักขฬะ ผมไม่ใช่คนอย่างนั้น ผมเป็น ส.ส.เป็นรัฐมนตรี ผมไม่ใช่คนอย่างนั้นเลย ผมนอบน้อมถ่อมตนตลอดเวลา ง่าย ๆ ไม่ใช่คนพูดกักขฬะหรือพูดแบบกุ๊ย ๆ อย่างนั้นไปแย่งมงแย่งไมค์มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกไม่แย่งมงแย่งไมค์ ผมไม่มีเจตนาอย่างนั้นหรอก แต่ผมถือไมค์ส่งให้ท่านพูดให้ตอบของผม ท่านพูดเสร็จผมก็เอาไมค์มาต่อแล้วถามต่อ ไอ้คำว่าใช่ ไม่ใช่ก็สองครั้งมั้ง ท่านตอบอู้อี้อยู่ ไม่หรือไม่ใช่ก็แค่นั้นเอง ให้ท่านอีกท่านก็บอกว่าใช่ก็จบ ผมก็ขอไมค์มา อันนี้ผมจึงขอความเป็นธรรมจากสังคม” นายทวี กล่าวช่วงหนึ่ง

(คำต่อคำ)

ทวี: อีกอันหนึ่ง หนังสือพิมพ์ลงนะ แจ้งจับทวี ปารีณา อะไรนะประธานคณะทำงานเดินทางไปแจ้ง พ.ต.อ.อะไร รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย วันนั้นก็มาที่นี่ตั้งแต่เช้าเจอเมื่อเช้านี้ ว่า ถูกแจ้งจับ และก็ถูกอะไรนะเป็นผู้บุกรุกอะไรอย่างนี้ เนี่ยผมอยากจะไปที่กองบังคับการเดี๋ยวนี้เลยว่า ผมเห็นข่าว ว่า มีแจ้งจับผม ผมจะมารายงานตัวเพื่อให้จับกุม ข้อหาอะไรว่าไป เพราะผมยังไม่รู้เรื่องเลยเห็นแต่ข่าว จะเหมาะหรือไม่เหมาะ หรือจะไม่ไป เฉย ๆ ไป แต่สังคมก็เข้าใจว่า ถูกแจ้งจับ ทวีถูกแจ้งจับบุกรุกป่าอยากจะไปแสดงตัว เพราะถูกแจ้งจับแล้วจากข่าวให้ท่านจับกุม มาแสดงตัวเพื่อให้จับกุมตามที่แจ้งข่าว

นักข่าว: จะไปไหมคะ?

ทวี: ไปดีหรือไม่ไปดี ถ้าผมจะไปก็อยากจะไปเหมือนกัน เพราะหนังสือพิมพ์ลงว่าแจ้งจับเลยครับ แจ้งจับทวี ปารีณา แล้วนายอะไรที่บอกว่าเป็นประธานคณะทำงานได้เดินทางไปแจ้งที่เนี่ย ว่า ผมเนี่ยบุกรุกที่ ผมยังไม่รู้เลย ว่า อะไรคืออะไร แล้วไปกล่าวหาผมอะไรอย่างนั้นแล้วก็อยากจะรู้ว่า กล่าวหาผมเรื่องอะไร จับ แสดงตัวตนให้ปรากฏจะได้จับกุมผมตามที่ข่าว แล้วสองข้อหานั้นผมอยากจะทราบเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา จะไปดีไหมดีครับ

นักข่าว: แล้วท่านจะไปแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจบก.ปทส. ก่อนโดยไม่ต้องรอหมายเรียกไหม?

ทวี: นั่นไง ผมจะไปรับทราบหมายเรียกไง

นักข่าว: ไปใช่ไหม?

ทวี: ก็นี่ว่าจะไปดี ไม่ไปดี ผมยังไงก็ได้ จะไปก็ได้ แต่ถ้าไปเดี๋ยว…

นักข่าว: จะตัดสินใจเอง หรือต้องถามทนาย?

ทวี: ผมไม่มีทนายหรอก ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง ผมจะรู้หมด นี่ผมรู้ว่าจากหนังสือพิมพ์ว่าผมถูกแจ้งจับ ผมก็อยากจะไปรายงานตัวให้จับผมตามข้อหาแจ้งจับหนึ่ง สองอยากจะไปรับทราบข้อกล่าวหาแค่นั้นแหล่ะ

นักข่าว: แล้วตัดสินใจได้หรือยังว่าจะไปหรือไม่?

ทวี: ผมยังไม่ตัดสินใจอะไรหรอก ผมยังไม่รู้อะไรเลยนะ

นักข่าว: ก็คือ รอหมายเรียกถูกไหม?

ทวี: เอาแหล่ะ ผมไปก็แล้วกัน ไอ้ที่ไม่ไปไม่ใช่กลัวหรอก หรืออะไรนะ โอ้ยผมจะอยู่บนความเป็นจริงหมด เมื่อแจ้งอย่างนี้ อยู่ที่ไหน ไปไม่ถูก เมื่อวานยังไปกรมป่าไม้ใหม่ไม่ถูกเลยเขาย้ายไป ให้แท็กซี่พาไป ที่ไหนไหม

นักข่าว: แถว ม.เกษตร

ทวี: ฮะ อยู่ตรงไหนนะ เกษตรเหมือนกันเหรอ

นักข่าว: ข้าง ๆ กัน ใกล้กันเลยกับกรมป่าไม้

ทวี: ผมก็ไปไม่ค่อยถูก ไปไม่ค่อยถูก อย่างนั้นไหมไปเจอที่นั่นไหมล่ะ

(คำต่อคำ 2)

นักข่าว: นอกจากขอความเป็นธรรมกับสังคมจะขอโทษด้วยไหมที่ทำให้เกิดภาพเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิด?

ทวี: ผมมีอะไรที่ต้องขอโทษ ผมยังไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ผมบอกได้เลยว่าถ้าผมบุกรุกป่าเนี่ยนะ ตอนนี้ขอให้ทุกคนทุกท่าน เข้าใจด้วยว่า ปารีณาหรือผม จะบอกว่า ปารีณารุกป่าๆ เนี่ย ผมไม่อยากพูดอะไร ว่า มันถูกต้องหรือไม่ เราเป็นศาลเหรอตัดสินแล้วรุกป่านะ มันยังต้องผ่านกระบวนการต่อไปอีก จึงตัดสิน ตอนเนี่ยเป็นแต่เพียงผู้ครอบครอง หรือแผ้วถางป่านะ ผิดผู้ใดฝ่าฝืนหรือกระทำ ผิดตามมาตรานี้ ๆ ฟังให้ดี ๆ เขาไม่ได้บอกว่า เป็นผู้รุกป่านะ ที่นั่นไป ไปคิดเองแล้วกันนะ ว่า ควรจะใช้คำนั้นกันหรือไม่ ใช้มานานแล้วเนี่ยนะ ในทางกฎหมาย ศาลยังไม่ตัดสินก็ถือ ว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ นี่เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา ไม่ใช่ผู้บุกรุกป่า

ผู้บุกรุกป่าต้องอย่างนี้ครับ เจอกำลังรุกป่าเลย หรือรุกป่าเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ไปเจอเข้าตามจับรุกป่าเลย อย่างนี้รุกป่าๆ นี่รุกป่าไม่ใช่ครอบครองแล้ว นี่เขาครอบครอง แล้วที่ดินนี่คล้าย ๆ ครอบครอง เพราะฉะนั้นต้องไม่อยากจะพูดอะไร บอกไว้ว่า อยู่ที่ศาล ศาลตัดสินยังไง และขอโทษสังคมไหม ตอนนี้ผมยังไม่ได้ผิดอะไร ศาลยังไม่ได้ให้ผิดอะไร

ถ้าหากว่าศาลได้ตัดสิน พิพากษาตัดสิน สมมุติว่าผมบุกรุกป่า ทั้งๆ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ ผมครอบครองผมไม่รู้ด้วย ว่า เป็นป่าหรือไม่เป็นป่าอะไรทั้งสิ้น แล้วผมซื้อมาต่อจากคนอื่น ก็เป็นที่ทำมาหากินแล้วผมมาต่ออย่างนี้ ถ้าผม ศาลพิพากษา ว่า ผมรุกป่า อย่าโทษ 20 ปีเลยครับ ผมขอ ผมเป็นคนรักชื่อเสียงตัวเองมากกว่าชีวิตตัวเอง ผมขอ… ฆ่าตัวตาย… คอยดูก็แล้วกัน แต่ผมพอใจที่ผมได้แสดงความเป็นจริงให้สังคมได้ทราบตามที่พูดนี้ ชีวิตของผมเนี่ย รักชื่อเสียงมากกว่าชีวิตของผม

(คำต่อคำ 3)

นักข่าว: การออกมาประกาศอย่างนี้จะเป็นการกดดันศาลไหม?

ทวี: ไม่ใช่ นี่พูดถึงผมไม่หนีคดี นั่นสิ เนี่ยไม่อยากจะพูด จะมองไปกดดันศาล ไม่ใช่ จากใจของผมเลย ผมจะไม่หนีคดีเหมือนนายทักษิณ และผมไม่ใช่โกงกินด้วย แค่ 46 ไร่ ไม่เป็นไรหรอก ผมรักษาชื่อเสียงผมมากกว่าชีวิตของผม ผมถือว่าบุกรุก บุกรุกที่เป็นสิ่งที่เสียหายที่สุด เสียหายที่สุด ชื่อเสียงเสียที่สุด ผมไม่อยากมีชีวิตอยู่หรอก

นักข่าว: ไม่เป็นการกดดันหน่วยงานที่เขากำลังตรวจสอบอยู่หรือ?

ทวี: อย่างนั้นผมขอยกเลิกคำพูด จบนะ