Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

262,595 คน คือตัวเลขของพนักงานบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่ถูกเลิกจ้างจากบริษัท 1,189 แห่ง ในปี 2566

31,751 คือ ตัวเลขของพนักงานบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลก 122 แห่ง ที่ถูกเลิกจ้างตั้งแต่เปิดปีใหม่จนถึงตอนนี้ (3 ก.พ.67)

ปรากฎการณ์เลย์ออฟครั้งใหญ่ในวงการธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลก สวนทางกับการรายงานผลประกอบการของบริษัทเทคหลายแห่ง โดยเฉพาะกลุ่มบิ๊กเทค ที่ราคาหุ้นพุ่งสวนทางบรรยากาศถูกเลิกจ้าง

มักจะมีคำถามตามมาเสมอว่า ทำไมผู้บริหารที่ได้รับค่าจ้างสูงถึงไม่ลดค่าจ้างตัวเองลงเพื่อหลีกเลี่ยงการเลิกจ้าง ? พวกเขาไม่สามารถลดแพ็คเกจการจ่ายเงินมหาศาลและรักษางานบางตำหน่งไว้ได้หรือ ?

‘คริส วิลเลียมส์’ อดีตรองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัท Microsoft ทำงานเป็นที่ปรึกษา และที่ปรึกษาผู้บริหารด้านพัฒนาทักษะผู้นำและสร้างทีม เขียนบทความตอบข้อสงสัยนี้ในเว็บไซต์ Business Insider เราลองไปตามอ่านคำอธิบายของเขากัน

1.มันเป็นแค่เรื่องคณิตศาสตร์

เหตุผลทางคณิตศาสตร์ง่ายๆ คือการลดเงินเดือนที่สูงของผู้บริหารจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ พูดง่ายๆ ลดไปแล้วก็ไม่ทำให้เห็นความแตกต่างมากพอ ยกตัวอย่าง Google หรือ Microsoft ซึ่งเป็นสองบริษัทที่มีคณิตศาสตร์คล้ายกันมาก ทั้งสองบริษัทมีพนักงานประมาณ 200,000 คน ทั้งสองแห่งได้เลิกจ้างพนักงานประมาณ 10,000 คน ในปีที่ผ่านมา และซีอีโอทั้ง 2 คน ได้รับค่าจ้างเท่ากัน โดยมีเงินเดือนประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี

การลดพนักงาน 10,000 คน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณพันล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนการตัดเงินเดือนของซีอีโอ จะช่วยประหยัดได้เพียง 0.2 %

2.มันเป็นเรื่องของหุ้น

ถึง ‘ซุนดาร์ พิชัย’ ซีอีโอ Google จะทำเงินให้องค์กรได้มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และ ‘สัตยา นาเดลลา’ ซีอีโอ Microsoft จะทำรายได้เกือบ 50 ล้านดอลลาร์ในปี 2022

แต่พวกเขาไม่ได้ได้ค่าตอบแทนจากเงินจำนวนนี้ แต่สิ่งที่พวกเขาได้มาคือ หุ้น Stock Grant หรือหุ้นจูงใจพนักงานล็อตใหญ่ เป็นวิธีที่บริษัทใหญ่ทำกัน ด้วยการให้แพคเกจหุ้นกับผู้บริหารต่อเมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่กำหนด ถ้าซีอีโอทำรายได้เพิ่มให้บริษัทสูงขึ้นต่อเนื่องได้ก็จะได้แพคเกจหุ้นนั้นไป แต่หากราคาหุ้นของบริษัทตกลง ผลประโยชน์ที่จะได้รับก็ดิ่งลงเช่นกัน

วิธีนี้บริษัทไม่ได้สูญเสียอะไร เปรียบเหมือนบอร์ดบริหารใส่กุญแจมือซีอีโอไว้กับรถไฟเหาะมีราคาหุ้นเป็นเดิมพัน หากซีอีโอไม่แก้ไขปัญหาต้นทุน ค่าตอบแทนของพวกเขาก็จะได้รับผลกระทบ ขณะที่ถ้าสามารถเพิ่มมูลค่าของบริษัทและราคาหุ้นได้ทุกคนก็จะชนะหรืออย่างน้อยผู้ถือหุ้นทุกคนก็ชนะ ตั้งแต่ผู้บริหาร คณะกรรมการ พนักงานบริษัทจำนวนมาก และนักลงทุน

3.มันคือการแข่งขัน

โลกของธุรกิจระดับโลก มีเพียงไม่กี่คนที่จะมีความสามารถเป็นผู้เล่นในสเกลใหญ่ได้ ผู้บริหารที่มีประสบการณ์เป็นผู้นำบริษัทมูลค่าเกือบล้านล้านดอลลาร์ พร้อมด้วยพนักงานหลายแสนคนและมีการดำเนินงานในระดับโลก ก็ไม่ต่างกับในโลกกีฬาที่มีนักกีฬาดาวเด่น ดังนั้นเมื่อการแข่งขันด้านความสามารถดุเดือด เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นในระดับนั้นก็จะรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง

ความแตกต่างก็คือแพ็คเกจหุ้น และราคาหุ้น เป็นสิ่งที่บอร์ดของบริษัทปรารถนา พวกเขาต้องการที่จะจ้างดาวดวงหนึ่งที่บรรทุกหุ้นให้พวกเขา โดยบอกว่า “ทำให้หุ้นพุ่งทะยานแล้วคุณจะได้รับรางวัลอย่างงาม”

4.มันก็คือภาพลักษณ์นั่นล่ะ

เมื่อสุดท้ายบริษัทต้องเลย์ออฟพนักงาน เราก็อาจได้เห็นซีอีโอออกมาแสดงความเห็นอกเห็นใจ เช่นการออกมาประกาศของซีอีโอบางคนอย่าง ซุนดาร์ พิชัย ของ Google เมื่อปีที่แล้วว่าจะลดเงินเดือนของเขาลง หรือทิม คุก ซีีอีโอ Apple ที่ออกมาบอกต่อสาธารณะว่าขอให้บอร์ดลดหุ้น Stock Grant ของเขาลงครึ่งหนึ่งเหลือ 40 ล้านดอลลาร์ ส่วนฐานเงินเดือน 3 ล้านดอลลาร์ และโบนัส 6 ล้านดอลลาร์ไม่เปลี่ยนแปลง ที่ว่ามาก็เป็นกับซีอีโอไม่กี่คน เพราะส่วนใหญ่ไม่มีซีอีโอคนไหนทำ

โดยมากพวกเขาจะบอกกับพนักงานว่าทั้งหมดนี้ยากแค่ไหน เสียใจกับการที่พนักงานต้องจากไป และหวังว่าจะมีทางเลือกอื่น จากนั้นก็จะพูดถึงการอยู่ด้วยกันและทำงานให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นในวันข้างหน้าได้อย่างไร

เป็น 4 ข้อสรุปจากมุมมองของอดีตผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Microsoft ท่ามกลางสถานการณ์ที่บริษัทเทคโนโลยีพากันปรับโครงสร้างธุรกิจ มีแนวโน้มเลิกจ้างพนักงานตลอดปี 2567 โดยบริษัทเทคจะเน้นเลิกจ้างในส่วนที่ไม่ใช่กลยุทธ์ของบริษัท แต่จะหันไปแย่งกันจ้างงานในฝั่ง AI มากขึ้นแทน

 

เรียบเรียงจาก  Business Insider  

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า