Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

The Rescue สารคดีที่เผยมุมมองที่คุณอาจยังไม่เคยเห็นในภารกิจถ้ำหลวง

The Rescue เป็นสารคดีจาก National Geographic ที่บอกเล่าเรื่องราวของการช่วยชีวิต 12 นักฟุตบอล 1 โค้ชของทีมหมูป่าอะคาเดมี่เมื่อปี พ.ศ. 2561 ซึ่ง อย่างที่เรารู้กัน ถูกตีแผ่และตีความอย่างหลากหลายผ่านการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์และกำลังจะเป็นซีรีส์ในเร็ววันนี้ แต่ถ้าใครคิดว่าได้ดูจนเบื่อจากข่าวทางสื่อต่าง ๆ The Rescue อาจจะทำให้คุณคิดใหม่เพราะนอกจากเราจะได้เห็นมุมมองอีกด้าน ซึ่งเป็นหัวใจของการทำภารกิจนี้ จากนักดำน้ำที่ช่วย 13 ชีวิตออกมา นอกจากเรื่องจริงที่น่าตื่นเต้น ฟุตเทจ 87 ชั่วโมงจากหน่วยซีล ที่ไม่มีใครเคยเห็นและผู้กำกับต้องใช้เวลาถึง 2 ปี ขอให้ทางซีลมอบฟุตเทจให้ เรายังได้เห็นอุปสรรคอื่นนอกเหนือจากฝนฟ้าอากาศที่โหมกระหน่ำ ภารกิจที่เปลี่ยนคนธรรมดาที่มีการดำน้ำในถ้ำเป็นงานอดิเรกให้กลายเป็นฮีโร่ และระหว่างที่เราดำดิ่งลงไปในถ้ำเราก็ยิ่งได้เห็นความจริงและมุมมองอีกหลายด้านหรือเรื่องเดิมแต่ในรายละเอียดที่ต่างออกไป

[บทความต่อจากนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของสารคดี]

  • ความซับซ้อนของระบบถ้ำหลวง
    เมื่อมีข่าวว่ามีนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชติดอยู่ในถ้ำหลวงซึ่งเป็นระบบถ้ำที่ยาวที่สุดอันดับสี่ของประเทศไทย นอกจากผู้ว่าและเจ้าหน้าที่ของไทยแล้ว หนึ่งในกำลังสำคัญของภารกิจนี้คือ เวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวอังกฤษที่มีงานอดิเรกจริงจังอย่างการสำรวจถ้ำและคอยอัพเดทข้อมูลให้เจ้าหน้าที่อุทธยานอยู่เสมอ ด้วยความที่รู้จักระบบถ้ำหลวงดีกว่าใคร เขาจึงเห็นว่าภารกิจนี้ต้องใช้ทักษะและอุปกรณ์เฉพาะเพื่อการดำน้ำในถ้ำ ที่เป็นทักษะซึ่งแม้แต่หน่วยซีลซึ่งที่แข็งแกร่งและมีระเบียบวินัยยังขาดไป เขาส่งรายชื่อนักประดาน้ำถ้ำที่ดีที่สุดให้ทางการเพื่อนำพวกเขามาช่วยเหลือในภารกิจ

  • อุปสรรคที่นักดำน้ำชาวอังกฤษต้องเจอ
    ตลอดสารคดีเราจะได้พบกับเรื่องราวจากมุมมองของกลุ่มผู้ทำภารกิจกู้ภัยนี้ โดยมีตัวหลักคือ ริค สแตนตัน และ จอห์น โวลันเธน ซึ่งเป็นหนึ่งในนักประดาน้ำถ้ำที่ดีที่สุดในโลกที่เดินทางมาสู่ประเทศไทยหลังจากที่ได้รับการติดต่อจาก แอมป์ พยาบาลที่เคยพบกับริคเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวอังกฤษ และได้รับคำเชิญจาก เวิร์นและทางการ แต่เมื่อพวกเขามาถึงประเทศไทยและผ่านพิธีการถ่ายรูปกับป้ายที่สนามบิน ฝ่ากลุ่มคนที่มีทั้งนักข่าวและกู้ภัย ไปจนถึงถ้ำพวกเขาก็ยังไม่สามารถลงน้ำได้เพราะคำสั่งห้ามจากหน่วยซีลที่รับผิดชอบการดำน้ำ จากสัมภาษณ์ของอาสาสมัครที่เล่าถึงการถกเถียงในตอนนั้น บอกว่าสถานการณ์น้ำนั้นอันตราย แต่ฝั่งนักดำน้ำก็ยืนยันจะเข้าไป การถกเถียงนั้นร้อนแรงพอควร จนทางหน่วยซีล ถึงกับพูดว่า “ถ้าเข้าไปตายในนั้น อย่าหวังว่าเราจะกู้ศพออกมานะ” แต่จอห์นก็กล่าวในการสัมภาษณ์ในสารคดีว่า ถ้าคุณเป็นหน่วยซีลของไทยแล้วอยู่ ๆ ก็มีชายวัยกลางคนแต่งตัวโทรม ๆ โผล่มาสองคน เขาก็พอเข้าใจว่ามันก็คงเป็นการเริ่มความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่

หลังจากนั้นวันถัดมาพวกเขาจึงออกไปที่ถ้ำหลวงเพียงแค่สองคนเพื่อดำลงไปสำรวจพื้นที่ เขาต้องเผชิญอันตรายจากน้ำที่เชี่ยวกรากจนมองเห็นได้ลำบาก จากสายโทรศัพท์ สายไฟที่อยู่ในถ้ำที่พวกเขาต้องตัดทิ้ง พวกเขาได้ช่วยช่างปั๊มน้ำที่เข้าไปติดข้างในออกมาถึง 4 คน ในวันแรกและทำให้เขาได้รู้ว่าการค้นหาผู้สูญหายจนพบนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าการนำพวกเขาออกมาอย่างปลอดภัย

และเมื่อพวกเขาผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งความท้อถอย การติดต่อผ่านทหารอเมริกันเพื่อที่จะกลับลงน้ำ น้ำเชี่ยว และสภาวะในน้ำที่ยากลำบากต่อการทำภารกิจ จนพบกลุ่มนักฟุตบอลและโค้ชแล้ว พวกเขายังต้องเผชิญปัญหาใหญ่ในการหาทางนำตัวทุกคนออกมา ในตอนแรกหน่วยซีลกล่าวว่าพวกเขาจะรับหน้าที่นี้ต่อหลังจากที่ริคกับจอห์นแผ้วทางให้แล้ว ทว่าหลังจากการเสียชีวิตของจ่าแซมก็มีการตกลงจากหน่วยซีลว่าจะไม่มีการให้เจ้าหน้าที่ดำไปไกลว่าโถงสามอีก ความกดดันด้านเวลาจากสภาพร่างกายที่อ่อนล้าของเด็ก ๆ ระดับออกซิเจนที่ต่ำจนอันตราย และมรสุมที่กำลังจะมา ทำให้ภารกิจนี้ต้องเริ่มโดยเร็ว ริคกับ จอห์นได้รวบรวมทีมนักประดาน้ำถ้ำมาหลายคน บวกกับทีมชาวต่างประเทศในไทยจนพร้อม แต่ทางการไทยไม่จะไม่ให้ไฟเขียวจนกว่าทุกอย่างจะปลอดภัยแน่นอน จอจ์ช มอริช เจ้าของโรงเรียนสอนปีนถ้ำที่พูดภาษาไทยได้มาช่วยสื่อสารจนทางการไทยยอมให้พวกเขามานำเสนอแผนการนำทุกคนออกมา

  • ความเสี่ยงที่มากเกินคาดคิดของการนำผู้ประสบภัยออกจากถ้ำ

ทุกคนรู้ได้จากข่าวว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะนำผู้ประสบภัยออกมา แต่สารคดีก็เปิดเผยถึงความเสี่ยงที่มากเกินกว่าที่จิตนาการได้ เพราะนอกจากสภาวะที่ยากลำบากแล้ว แผนการที่ดีที่สุดในตอนนั้นคือการวางยาสลบและจับเด็ก ๆ มัดมือไพล่หลังเพื่อนำตัวพวกเขาออกมา มาพร้อมกับความเสี่ยงอีกมากมาย แค่การทำให้คนสลบก็มีความเสี่ยงนับร้อยอย่างที่จะทำให้พวกเขาจะเสียชีวิตได้ แต่ถ้าพวกเขาเอาแต่รอและถ้ามรสุมเข้าจนน้ำท่วมถ้ำและกระแสน้ำแรงเกินกว่าจะดำน้ำได้หรือออกซีเจนหมดทีมหมู่ป่าก็ไม่มีทางรอด

พวกเขาฝึกซ้อมคิดหาวิธีให้ทุกอย่างปลอดภัยมากที่สุดและเพื่อให้ทางการไทยยอมเชื่อมั่นในภารกิจนี้ ทั้งคิดวิธีเอาถังดำน้ำไว้ข้างหน้าเพื่อให้เมื่อเด็ก ๆ คว่ำหน้าลอยตัวถังจะหน้าหน้าที่เหมือนโครงเรือ ต้องใช้หน้ากากแรงดันบวก ซึ่งทหารอเมริกันมีอยู่เพียง 4 อัน ทำให้พวกเขาต้องแบ่งภารกิจเป็นหลายวัน ทุกคนที่เข้าไปต้องฝึกฉีดยาสลบเพิ่มเข้าที่ขาในกรณีที่ยาหมดฤทธิ์เพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ตื่น จนสุดท้ายทางการไทยก็ยอมไฟเขียวให้แผนนี้ไปต่อ

แต่นอกจากความเสี่ยงกับชีวิตเด็ก ๆ แล้วทีมผู้อาสาก็ยังต้องเสี่ยงการถูกดำเนินคดีถ้าหากทำไม่สำเร็จอีกด้วยเจ้าหน้าที่การต่างประเทศของออสเตรเลียได้บอกกับ ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลียและนักประดาน้ำถ้ำที่มาเป็นอาสาสมัครและที่ปรึกษา ว่าในกรณีที่แย่ที่สุดพวกเขาอาจจะต้องเข้าคุกถ้าทุกอย่างล้มเหลว (อย่างไรก็ตาม นอกจากที่สารคดีบอกเล่า มีข่าวออกมาในช่วงนั้นว่าพวกเขาจะได้สิทธิ์คุ้มครองทางการทูต)

นอกจากเคตามีนที่ใช้เพื่อระงับความรู้สึกซึ่งเคยขึ้นพาดหัวในข่าวไทยแล้ว เด็ก ๆ ได้รับประทานยาซาแน็กซ์ซึ่งเป็นยาคลายเครียด และฉีดยาอะโทรปีนที่มีฤทธิ์ลดการหลั่งของน้ำลายเพื่อไม่ให้เกิดการขาดอากาศจากการสำลักน้ำลาย ก่อนที่นักดำน้ำจะกดพวกเขาลงน้ำและนำพวกเขาออกมา หลายครั้งที่พวกเขาประสบกับปัญหาระหว่างทางแต่โชคดีที่ทุกคนออกมาได้อย่างปลอดภัยอย่างที่เราก็ทราบกันดี

  • ความกล้าหาญและอดทนของหน่วยซีล ที่ปฏิบัติภารกิจทั้งที่ขาดอุปกรณ์ที่เหมาะสม
    แต่สารคดีไม่ได้เล่าถึงความร่วมมือจากทางฝั่งต่างประเทศเท่านั้น เพราะสิ่งหนึ่งที่ถูกพูดถึงอยู่หลายครั้งในซีรีส์คือความมีวินัย อดทนไม่ย่อท้อ และความกล้าหาญที่มีไม่แพ้ใครของหน่วยซีล แต่คำชมนี้มักมาพร้อมกับการพูดถึงขาดทักษะเฉพาะทางและอุปกรณ์ที่เหมาะสม เช่นคำพูดของนักดำน้ำที่ว่า

หน่วย SEAL “ต้องปฏิบัติภารกิจในสภาพแว้ดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ไม่มีใครเคยดำน้ำมาก่อน และอุปกรณ์ที่พวกเขาใช้ก็ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง พวกเขามีความกล้าหาญอย่างน่าทึ่ง”

ความอดทนและกล้าหาญมีผลดีต่อภารกิจ เพราะแม้ในช่วงที่นักดำน้ำชาวอังกฤษท้อใจหน่วยซีลก็ยังทำงานอย่างแข็งขันและวางเชือก dive line ไปด้วยร่วมกับนักดำน้ำชาวเยอรมัน เพื่อให้มีเชือกเชื่อมต่อนักดำน้ำกับจุดปลอดภัย พวกเขาทุ่มแรงกายแรงใจและชีวิตลงไปกับการค้นหา แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาทำเป็นการเสียสละที่น่าชื่นชม แต่ก็คงจะดีกว่านี้หากเขาปฏิบัติภารกิจได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเสียสละอะไรเพื่อช่วยชีวิตใครอีกคน

The Rescue เล่าเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างเร้าใจ และชวนเห็นใจถึงภาระอันหนักอึ้งของผู้ที่ปฏิบัติภารกิจ แม้ว่าเราจะรู้ตอนจบของทุกอย่างอย่างแล้ว แต่ด้วยฟุตเทจที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนและส่วนที่ถ่ายทำเพิ่มเติมกับนักประดาน้ำตัวจริง ช่วยให้เราเห็นภาพได้ชัดขึ้นราวได้ไปปฏิบัติภารกิจด้วย แต่ก็ยังคงความน่าเชื่อถือของความเป็นสารคดีได้พอดิบพอดี นอกจากนี้ยังเบรกความกดดันของเรื่องด้วยกลิ่นไอความรักบาง ๆ จากความสัมพันธ์ของแอมป์กับริคที่ทำให้สารคดีเรื่องนี้ไม่หนักจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้กลบประเด็นหลักของเรื่องคือความพยายามของอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และทำให้เราเรียนรู้ถึงปัญหาบางอย่างผ่านทางอุปสรรคที่นักประดาน้ำถ้ำต้องเจอซึ่งสอดคล้องกับชีวิตของคนไทยนอกถ้ำอย่างน่าประหลาด ตั้งแต่สายไฟสายสื่อสารที่ระโยงระยาง การก้าวข้ามความไม่เข้าใจในงานที่ต้องอาศัยความสามารถเฉพาะทาง การพิสูจน์ตัวเองกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีมุมมองที่ต่างกัน

“เรามองถ้ำได้สองแบบ จะมองว่าเราอยู่ใต้พื้นดินเป็นร้อย ๆ ฟุตใต้กองหินนับไม่ถ้วน ชีวิตเราตกอยู่ในอันตราย หรือมองอีกมุมหนึ่งว่า โลกของเราเป็นแค่ทางเดินแคบ ๆ ที่จริงมันก็โอเคนะ”

ประโยคนี้จาก จอห์น โวลันเธน เป็นหนึ่งในสิ่งสะท้อนว่า The Rescue เป็นสารคดีที่เสนอให้เห็นมุมมองที่หลากหลายให้เราเลือกดู ขึ้นอยู่กับว่าผู้ชมจะเห็นอะไรจากภารกิจนี้

สามารถชมสารคดี The Rescue ทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้ทาง Disney+ Hotstar

อ้างอิง:

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า