สหรัฐฯ เดินหน้าขายจรวดนำวิถี มูลค่า 7.4 หมื่นล้านบาทให้ไต้หวัน ด้านจีนสั่งคว่ำบาตรผู้ขายแล้ว

รัฐบาลสหรัฐฯ ส่งสัญญาณไฟเขียวให้โบอิ้งขายจรวดฮาร์พูนแก่ไต้หวัน ยืนยันไม่กระทบต่อสมดุลทางทหารในภูมิภาค

วันที่ 26 ต.ค. 2563 สำนักข่าวเอพี (AP) รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้แจ้งต่อรัฐสภาคองเกรสถึงการอนุมัติให้โบอิ้ง (Boeing) ทำสัญญากับรัฐบาลไต้หวันเพื่อขายระบบจรวดป้องกันชายฝั่งฮาร์พูน (Harpoon Coastal Defense Systems) มูลค่า 2,370 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 74,000 ล้านบาท แม้รัฐบาลจีนจะแสดงความไม่พอใจถึงการซื้อขายในครั้งนี้ ด้วยการระบุว่าละเมิดหลักการจีนเดียว อีกทั้งยังเป็นบ่อนทำลายเอกราชและความมั่นคงของจีน

การแจ้งต่อสภาของสหรัฐฯ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 6 วัน ที่พวกเขาอนุมัติการขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน หลังจากเมื่อ 21 ต.ค. ได้อนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบไปด้วยระบบเซนเซอร์ จรวด และปืนใหญ่ โดยสภามีสิทธิ์ที่จะคัดค้านได้ภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายในสภาล้วนสนับสนุนการป้องกันตนเองของไต้หวันมาโดยตลอด

ส่วนทางรัฐบาลจีนได้ประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับบริษัทอาวุธของสหรัฐฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวัน พร้อมทั้งเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพต่อหลักการจีนเดียว และแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับที่ทั้งสองประเทศทำไว้ในช่วงปีพ.ศ. 2515 – 2525 ที่ระบุว่าดินแดนของจีนทั้งสองฝั่งบริเวณช่องแคบไต้หวันเป็นของจีนเพียงหนึ่งเดียว

มีการวิเคราะห์ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกำลังอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องความมั่นคง เทคโนโลยี โควิด-19 และสิทธิมนุษยชน