Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่คนทั้งโลกตะลึง และเริ่มหวาดกลัวไปพร้อมกัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มีนาคม ปี 2016

เมื่ออัลฟาโกะ (AlphaGo)โปรแกรมเล่นหมากล้อมที่พัฒนาโดยบริษัท Google DeepMind สามารถเอาชนะเซียนหมากล้อมระดับโลกที่มีกลยุทธ์มากมาย

เหตุการณ์อัลฟาโกะ ถือเป็นจุดเริ่มต้นบิ๊กแบงแห่งวงการปัญญาประดิษฐ์

จากจุดนั้น ทำให้ผู้คนทั่วโลกเริ่มหวาดกลัวและหันมาพูดถึงปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence หรือ AI มากขึ้น

ความตะลึงในวันนั้นหลายคนเชื่อในทันทีว่า อีกไม่นาน AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์

ปลายปี 2022 กลายเป็นไวรัลที่โลกได้รู้จัก ChatGPT AI ปัญญาประดิษฐ์สุดล้ำ ที่ตอบได้ทุกคำถาม มาพร้อมทักษะที่หลากหลายจนอ้าปากค้าง เราได้เห็นอินฟลูเอนเซอร์และเหล่ายูทูปเบอร์สายเทคโนโลยีทั้งในไทยและต่างประเทศ ออกมาทดสอบความฉลาดและไวของ ChatGPT ตั้งแต่ขึ้นพื้นฐานไปจนถึงทำอะไรที่สลับซับซ้อนมาก ๆ ได้ ตั้งแต่ช่วยหาสูตรเมนูอาหารแบบระบุเจาะจง แต่งเพลง เขียนกวี เขียนบทความไปจนถึงเขียนนิยาย ทำแผนเดินทางเฉพาะคนให้เราได้ จัดตารางเอ็กเซลได้ ช่วยคิดไอเดียทำงานให้ได้ ฯลฯ ไปจนถึงเขียนโค้ด ภาษาคอมพิวเตอร์ได้

ยูทูปเบอร์สายเทคบางคนทดสอบถึงขั้นให้ ChatGPT เขียนโค้ดสร้างเว็บได้ทั้งเว็บ ชนิดที่คนในแวดวงไอที ตรวจโค้ดแล้วบอกได้เลยว่าผลงานของเจ้า ChatGPT สามารถใช้ให้มาเป็นทีมงาน หรือลูกน้องได้ สามารถให้มาทำงานแทนเด็กจบใหม่ เด็กเพิ่งเริ่มทำงานเขียนโค้ดก็ยังได้ ขอเพียงแค่คนใช้งาน ChatGPT ค่อยๆพิมพ์บอกสั่งงานไปในระบบ

ด้วยประสิทธิภาพที่ยังเปิดให้ใช้ฟรีนี้ทำให้คนที่ไปทดลองใช้ต่างก็ทั้งทึ่ง ทั้งหวาดเสียวว่ายุคที่เอไอใกล้จะแย่งอาชีพแย่งงานมนุษย์กำลังจะมาถึงแล้วแน่ๆ จนกลายเป็นไวรัลส่งท้ายปลายปี ที่นักเทคโนโลยีที่ได้ทดลองสัมผัสความ Big Data และอัจฉริยะของ ChatGPT ต้องบอกว่า

“โลกน่าจะยังไม่พร้อมสำหรับสิ่งนี้”

เพราะทำได้ขนาดนี้ไม่ต้องห่วง คือ ตกงานทุกอาชีพ แต่ระยะยาวก็เชื่อว่าหลังการถูกปัญญาประดิษฐ์แย่งงานเกิดขึ้นไปแล้ว ก็จะเกิดอาชีพใหม่ๆขึ้นมาทดแทน หรือทำงานคู่กับปัญญาประดิษฐ์อยู่ดี

แต่ก่อนจะมาสู่ยุคอาชีพใหม่ แน่นอนว่าจะต้องเกิดยุคที่หลายอาชีพล้มหายตายจากก่อน จนถึงกับมีการพยากรณ์ไว้ว่า เราจำนวนมากจะกลายเป็น “คนชนชั้นว่างงานที่ไร้ประโยชน์” หรือศัพท์ที่ถูกบัญญัติไว้ว่า Useless Class คนกลุ่มนี้คือคนที่ถูกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาทดแทนสนิท

ผู้บัญญัติศัพท์นี้คือ  ยูวัล โนอาห์ แฮรารี (Yuval Noah Harari) นักประวัติศาสตร์ นักปรัชญา และนักเขียนดังจากหนังสือดัง Sapiens ซึ่งพูดถึงเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ  “21 บทเรียน สำหรับศตวรรษที่ 21” (21 Lessons for The 21 Century) หนังสือดังที่ตีพิมพ์ไว้ตั้งแต่ปี 2019

ตามความเห็นของ ยูวัล โนอาห์ แฮรารี ย้ำว่า โลกอนาคตที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างอุตสาหกรรมก้าวหน้า เต็มไปด้วยเครื่องจักร จะมีอาชีพตกยุค ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มชนชั้นไร้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ โดยทำนายไว้ว่า พ.ศ.2593 จะมีชนชั้น Useless Class นี้เป็นชนชั้นใหญ่ทั่วโลก

ดูเหมือนคำทำนายของ ยูวัล จะเห็นภาพชัดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อเห็นอานุภาพของ Open AI อย่าง ChatGPT  ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่ออนาคตแรงงานในโรงงานหลายล้านคนจะถูกเครื่องจักรและปัญญาประดิษฐ์มาทำหน้าที่แทน เพราะกระบวนการผลิตในโรงงานจะเป็น Smart Factory มากขึ้น มีการเชื่อต่อกับ Internet of Things (IoT)ใช้ AI และหุ่นยนต์ มาทำงานแทนมนุษย์หรือทำงานร่วมกับมนุษย์มากขึ้น และงานที่ต้องทำเป็นประจำหรือพวกงานรูทีนจะโดนก่อนใครเพื่อน กระทบไปถึงานระดับมีฝีมือด้วยซ้ำ

จึงมีความเป็นห่วงว่า ปรากฎการณ์ Useless Class จะเกิดขึ้นทั่วโลก คนจำนวนมากจะตกงานและปรับตัวเข้าสู่งานใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีไม่ได้ โดยคาดว่า 1 ใน 3 ของอาชีพในปัจจุบันจะไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปในอนาคต

และวันนี้ดูเหมือนจุดเริ่มต้นเทรนด์ คนว่างงานไร้ประโยชน์กำลังจะมาแน่นอน และจะสามารถแทนที่ทุกอาชีพได้ทั้งหมดในอนาคต ยิ่งถ้าถึงวันที่ต้นทุนและราคาของปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์ถูกกว่าค่าแรงมนุษย์เมื่อไหร่ เมื่อนั้นแรงงานมนุษย์จะถูกแทนที่ในทันที

ปัญญาประดิษฐ์กำลังจะทำให้โลกทั้งใบเปลี่ยนไป และทำให้มนุษย์จำนวนหนึ่งตกยุค ไม่มีอาชีพอะไรให้ทำได้ และลงเอยว่าเป็นกลุ่มที่ถูกทอดทิ้งจากโลกที่เทคโนโลยีไปไกล เมื่อนั้น Useless Class ก็จะเกิดเป็นชนชั้นหนึ่งในโครงสร้างสังคม และเศรษฐกิจ

แล้วมนุษย์จะปรับตัวอย่างไรให้ทัน

มีการประเมินว่า ภายใน 10 ปีนี้ ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการสูญเสียงานมากถึง 800 ล้านตำแหน่งจากระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ จากตัวเลขแรงงานทั่วโลก 3,000 ล้านคน (ข้อมูลโดย McKinsey)

ส่วนประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ.2573 หรืออีก ไม่ถึง 10 ปี ข้างหน้า คนไทยจะหลุดจากอาชีพที่เคยทำมากถึง 6 ล้านคน จากการเปลี่ยนของโลกและเทคโนโลยีที่จะมาแทนอาชีพดั้งเดิม

งานวิจัยคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีแรงงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยงนี้ประมาณ 72 % ของแรงงานทั้งหมด

ถ้าไปดูผลการศึกษาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) กรณีศึกษาประเทศไทย พบว่ามีคนงานถึง 98% มีความเสี่ยงถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ โดยเฉพาะอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด ได้แก่ อาชีพเกษตรกร ชาวประมง แรงงานในฟาร์ม ผู้ช่วยฝ่ายขายในร้านค้าปลีก ผู้ผลิตปศุสัตว์ พนักงานขายอาหาร พนักงานสำนักงาน พนักงานบัญชี

ผลกระทบจากการใช้เอไอ เข้ามาทดแทน ในอีก 20 ปี ข้างหน้า จะเกิดกรณีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับแรงงานไทย คืออาจเสี่ยงตกงานได้มากถึง 12 ล้านคน

หากยึดตามคำแนะนำของคนบัญญัติศัพท์ Useless Class ยูวัล บอกว่า เพื่อเตรียมพร้อมที่จะสู้กับความเปลี่ยนแปลงในโลกอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ หรือคาดเดาได้ยากมากๆ คุณจำเป็นต้องสร้างตัวตนใหม่ๆอยู่เสมอ หรือ Reinvent Yourself

นักวิเคราะห์ นักวิจัยต่างเร่งให้เราสร้าง ทักษณะใหม่ที่สอดคล้องกับเศรษฐกิจใหม่ตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ ไปจนถึงการ Reskill Upskill ด้านดิจิทัลเทคโนโลยีให้กับคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเรียน วัยเริ่มทำงาน และกลุ่มคนทำงานมาหลายปี ที่ต้องกล้าที่จะฉีกทิ้งความรู้แบบเดิมที่เคยเรียนมา ฉีกทิ้งประสบการณ์การทำงานเก่าๆ เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต และฝึกทักษะงานด้านดิจิทัลต่างๆ เพื่อสู้กับทักษะปัญญาประดิษฐ์

ทักษะที่ต้องมีอย่างน้อยในเวลานี้ คือ ทักษะการแก้ปัญหา มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และมีนวัตกรรม สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อน คิดเชิงวิพากษ์และวิเคราะห์ออกมา ความสามารถในการมีความคิดริเริ่ม และสร้างสรรค์ และแก้ปัญหาด้วยหลักเหตุผล ที่สำคัญต้องมีไอเดีย เพื่อนำไอเดียไปใช้ทำงานแบบที่มีปัญญาประดิษฐ์เป็นทีมงานหรือลูกน้องนั่นเอง

นอกจากทักษะในการมีอาชีพต่อไปแล้ว อีกส่วนที่สำคัญและควรต้องมีคือ ทักษะการฝึกฝนจิตใจ เข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ สร้างจิตที่มั่นคงเพียงพอที่จะรับมือกับโลกอนาคตที่มีการเปลี่ยนแปลง มีความไม่แน่นอน

และหลายอย่างก็ต้องยอมรับว่า “เราอาจตามไม่ทัน”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า