Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ส.ส.วิโรจน์ เปิดเอกสาร ระบุสธ.จะนิรโทษกรรมกึ่งเหมาเข่ง รวมผู้จัดหา-บริหาร ‘วัคซีน’  ตั้งคำถามควรหรือไม่

วันที่ 6 ส.ค. 2564 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn  โดยระบุว่า “ผมได้รับเอกสารที่การนำเสนอแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์สำหรับการปฏิบัติงานตามข้อสั่งการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นเอกสารฉบับทางการหรือไม่ เป็นเอกสารฉบับล่าสุดหรือเปล่า ปัจจุบันได้มีการแก้ไข ปรับปรุงอะไรไปบ้างแล้วหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากเอกสารที่ผมได้รับ ผมขออนุญาตให้ทรรศนะของผม ในเบื้องต้นก่อนดังนี้ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง เพื่อให้สังคมเกิดความกระจ่างอีกครั้งหนึ่งต่อไป

โดยแนวคิดสำคัญของเอกสารนำเสนอฉบับนี้ คือ การตรากฎหมาย พ.ร.ก.จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ…. โดยหลักการแล้ว ในสถานการณ์โรคระบาดเช่นนี้ การจำกัดความรับผิดทั้งทางอาญา และแพ่ง ให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ที่ปฏิบัติด่านหน้า ที่ทำงานเต็มความสามารถ โดยสุจริต และไม่ได้เลือกปฏิบัติ ภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด นั้นเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว

แต่ข้อเท็จจริงหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ การที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเกิดขึ้นรุนแรงอยู่ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่งมาจากการตัดสินใจเชิงนโยบาย ทั้งๆ ที่ควรจะคาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น

1) การไม่กระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน

2) การจัดฉีดวัคซีนที่ล่าช้า ขาดการวางระบบในการจัดการ และการบริหารฐานข้อมูลที่ดี

3) การเบิกจ่ายงบประมาณในการเตรียมความพร้อม ทั้งด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ต่างๆ ที่จำเป็น ที่ขาดประสิทธิภาพ ดูเบาต่อสถานการณ์

ซึ่งประเด็นต่างๆ ข้างต้น นี้เป็นที่สงสัยจากภาคประชาชนว่า เป็น สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ประชาชนต้องล้มตายเป็นจำนวนมาก ต้องตายคาบ้าน ตายกลางถนน ซึ่งเป็นความสูญเสียอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ทำให้เด็กตัวเล็กๆ เพียงไม่กี่ขวบปี หลายคน ต้องเป็นกำพร้า และจะไม่ได้รับโอกาสที่จะได้กอดพ่อแม่ของพวกเขาอีก และความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มากมายเหลือคณานับ หลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว แถมยังต้องแบกหนี้สินที่ล้นพ้นตัวอีก

ซึ่งควรต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่ควรที่จะออกกฎหมาย “นิรโทษกรรมแบบกึ่งเหมาเข่ง”

ในข้อที่ 7. ที่จะคุ้มครองให้บุคคล และคณะบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้ง หรือมอบหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหา หรือบริหารวัคซีน ซึ่งควรจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาล ประชาชนทุกข์ยากแสนสาหัสนั้นมีความเกี่ยวข้องกับบุคคล หรือคณะบุคคลเหล่านี้หรือไม่

ข้อยกเว้น ที่ระบุเอาไว้ ซึ่งมีอยู่แค่ 3 ข้อ ได้แก่

– การกระทำเป็นไปโดยไม่สุจริต

– การกระทำเป็นไปโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

– การกระทำเกิดจากการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม

เป็นข้อยกเว้นที่กว้างเกินไป ซึ่งควรจะเขียนเพิ่มเติม ให้เฉพาะเจาะจง และรัดกุมมากขึ้น เช่น “การกระทำ และการตัดสินใจใดๆ ที่ไม่สอดคล้องกับหลักวิชา หรือผลการศึกษาวิจัย ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองให้ปราศจากความรับผิดจาก พ.ร.ก.ฉบับนี้”

ใจความสำคัญ ก็คือ หากมีการสอบสวนข้อเท็จจริงในภายหลัง แล้วพบว่าการตัดสินใจของบุคคล หรือคณะบุคคลเหล่านี้ ในการจัดหา และจัด หรือบริหารวัคซีน หากเป็นไปโดยขัดกับหลักวิชา หรือตัดสินใจโดยที่ไม่มีผลการศึกษาวิจัยที่ทำอย่างเป็นระบบมาอ้างอิง หรือเป็นการตัดสินใจโดยขัดกับผลการศึกษา และงานวิจัยที่ปรากฎในแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ บุคคลเหล่านี้ ก็ควรต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาลยุติธรรมวินิจฉัยว่าควรได้รับโทษทางอาญา หรือทางแพ่ง หรือไม่ ผิด หรือถูก ก็ควรให้กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตัดสิน โดยพิจารณาจากพยานหลักฐาน ที่รอบคอบรอบด้าน ไม่ควรที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมแบบกึ่งเหมาเข่งแบบนี้”

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า