อุตตม-สนธิรัตน์-กอบศักดิ์ นำทีมสมัครสมาชิกพรรค ‘พลังประชารัฐ’ วันแรก

พลังประชารัฐเปิดรับสมัครวันแรกคึกคัก แกนนำพรรคสมัครเป็นชุดแรก ด้านอุตตมะเสนอบิ๊กตู่นั่งนายกฯ เผย 4 รมต.จะลาออกในเวลาที่เหมาะสม ย้ำผลจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตอบรับใคร

วันที่ 13 พ.ย. 2561 แกนนำพรรคพลังประชารัฐนำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค เดินททางไปร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรคชุดแรก ก่อนจะให้การต้อนรับประชาชนที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรควันแรก นอกจากนี้ยังมีอดีต ส.ส. และบุคคลสำคัญมาสมัครสมาชิกพรรค ได้แก่ นายทศพล เพ็งส้ม อดีต ส.ส. ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์, นายยุทธนา โพธสุธน อดีต ส.ส. สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย, นายวนัสธนา สัจจกุล หรือ บิ๊กหอย หัวหน้าพรรคพลังคนกีฬา และอดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย, นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือ บ๊วย นักแสดง, และผศ. ดร. ณพงศ์ นพเกตุ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล, นักร้องนักดนตรีคนตาบอดวง SOS และประชาชนทยอยมาสมัครสมาชิกพรรคเรื่อยๆ

นายอุตตม กล่าวถึงแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่า ยังตอบไม่ได้ว่า 1 ใน 3 รายชื่อบุคคลเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคจะมีรายชื่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพรรคที่จะพิจารณาตัวบุคคลและไปทาบทาม ส่วนเรื่องของการลาออกของ 4 รัฐมนตรีของพรรคยืนยันเป็นไปตามที่เคยสัญญาไว้แล้วว่าจะรอเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้พรรคพลังประชารัฐยังคงตั้งธงวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. 2562 และมีความพร้อมที่จะสู้ศึกในสนามเลือกตั้งโดยจะเปิดตัวผู้สมัครในวันที่ 18 พ.ย.นี้ และไม่ได้ตั้งเป้าจำนวน ส.ส.ของพรรค เพราะต้องขึ้นอยู่กับความไว้วางใจของประชาชน มั่นใจว่าพรรคทำงานอย่างเต็มที่ในการเสนอนโยบายและทำงานให้กับประชาชน ประเทศชาติให้ก้าวหน้า ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ขึ้นอยู่กับประชาชนจะตอบรับใคร

ขณะที่นายกอบศักดิ์ ระบุว่า หลังได้รับการรับรองให้เป็นพรรคการเมือง ทีมประชาสัมพันธ์ของพรรค จะลงพื้นที่พบปะประชาชนมากขึ้น ภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่ใช่การหาเสียง โดยสัปดาห์นี้จะเดินทางไปพบกับนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อรับฟังความเห็นของคนรุ่นใหม่ และหลังจากนั้นก็จะลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนในทุกช่วงวัย ว่าแต่ละคนมีแนวคิดอยากให้พรรคทำนโยบายด้านใดบ้าง ที่สำคัญถือเป็นการเปิดตัวให้ประชาชนรู้จักพรรคพลังประชารัฐมากขึ้นด้วย