Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เรียกร้องให้ทั่วโลกเร่งมือทำงานเพื่อช่วยเหลือผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกซึ่งอยู่ในสภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ เนื่องในวันครบรอบ 7 ปีของแคมเปญ #IBelong โครงการรณรงค์เพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ปัจจุบันภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติหรือการตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะพลเมืองของรัฐใดๆ ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก บุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานต่างๆ อาทิ การเข้าเรียน การทำงานอย่างถูกกฎหมาย การเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข การแต่งงาน หรือการจดทะเบียนเกิดให้บุตร

ปี 2557 UNHCR เริ่มแคมเปญ #IBelong เพื่อรณรงค์และเรียกร้องให้ยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติทั่วโลก โดยตลอด 7 ปี ได้มีประเทศร่วมลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติกว่า 29 ประเทศ เป็นผลให้มีบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติมากกว่า 400,000 คน ใน 27 ประเทศที่ได้รับสัญชาติ และการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายใหม่อาจทำให้ผู้คนอีกหลายหมื่นคนทั่วภูมิภาคเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกจะได้สถานะพลเมืองซึ่งเป็นผลมาจาก

“ความคืบหน้าในการหาทางออกให้กับภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติได้เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลยังคงต้องเร่งดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อปิดช่องว่างทางกฎหมายและนโยบายที่ทำให้ผู้คนหลายล้านคนยังคงไร้รัฐไร้สัญชาติหรือยังคงมีเด็กเกิดใหม่ต้องตกอยู่ในภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ” นายฟิลลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติกล่าว

“เราได้รับแรงกระตุ้นจากการขับเคลื่อนทั่วโลกในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ด้วยความพยายามร่วมกันจากหลายประเทศ เราสามารถยุติภาวะนี้ได้ แต่หากไม่มีการเร่งดำเนินการ ผู้คนอีกหลายล้านที่ไม่มีสัญชาติจะไร้หลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดได้” นายกรันดีเสริม

ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยมักจะเป็นผลมาจากช่องว่างหรือข้อบกพร่องในกฎหมายสัญชาติและวิธีการบังคับใช้ การแบ่งแยก ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางชาติพันธุ์ ศาสนา และเพศสภาพ ต่างเป็นสาเหตุหลักของภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติและนำมาสู่ไม่ได้รับการยอมรับในฐานะพลเมือง ตามมาด้วยการถูกริดรอนสิทธิทางกฎหมายหรือไม่ได้รับบริการขั้นพื้นฐาน ส่งผลถึงสิทธิทางการเมืองและเศรษฐกิจ บุคคลาไร้สัญชาติตกอยู่ในภาวะที่เปราะบางต่อการถูกแบ่งแยก กดขี่ และถูกแสวงหาผลประโยชน์ ขณะที่ช่วงโควิด-19 พวกเขายังไม่สามารถเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ได้รับการรักษาหรือได้รับวัคซีน

ความท้าทายต่อไปขณะที่โลกกำลังเผชิญความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ก็เชื่อกันว่ากลุ่มคนไร้สัญญาก็น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับความช่วยเหลือหรือความคุ้มครองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แคมเปญ 10 ปี #IBelong ของ UNHCR เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ร่วมยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติให้ได้ภายใน พ.ศ. 2567 ซึ่งรัฐบาลมีอำนาจในการออกกฎหมายและปฏิรูปนโยบายที่สามารถช่วยบุคคลกลุ่มนี้ให้ได้รับสัญชาติหรือป้องกันการเกิดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติตั้งแต่เริ่มแรก กระบวนการดังกล่าวโดยเพียงการลงนามหรือการปรับเปลี่ยนข้อกฎหมายเพียงเล็กน้อย ภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติเป็นเรื่องที่สามารถเลี่ยงได้อย่างง่ายดายและสามารถแก้ไขได้หากรัฐเป็นผู้ริเริ่มเจตนา

ข้อมูลเบื้องต้น

UNHCR รายงานสถิติบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติว่ามีจำนวน 4.2 ล้านคนใน 94 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้หลายประเทศไม่มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ จึงทำให้เชื่อว่าจำนวนที่แท้จริงนั้นสูงกว่านี้อีกมาก

ปัจจุบัน 96 ประเทศได้เข้าร่วมเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสถานะของบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ ค.ศ. 1954 และ 77 ประเทศเข้าร่วมเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยการลดภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ ค.ศ. 1961

ตั้งแต่เริ่มแคมเปญ #IBelong โครงการรณรงค์เพื่อยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ มี

  • 1 ประเทศ ที่สามารถยุติภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติได้อย่างสิ้นเชิงตามจำนวนบุคคลที่ได้ลงทะเบียนไว้คือประเทศคีร์กีซสถาน และอีก 11 ประเทศ มีการดำเนินการที่สำคัญในการแก้ไขภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ
  • 17 ประเทศ ดำเนินกระบวนการให้สถานะบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติ โดยที่บางประเทศมีแนวทางในการขอสัญชาติให้ด้วยเช่นกัน
  • 12 ประเทศ มีกระบวนการแปลงสัญชาติให้กับประชากรข้ามชาติที่ไร้รัฐไร้สัญชาติ
  • 14 ประเทศ ทำการปฏิรูปกฎหมายสัญชาติโดยให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในอาณาเขตประเทศ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องตกอยู่ในภาวะไร้รัฐไร้สัญชาติ
  • 2 ประเทศ ทำการปฏิรูปกฎหมายสัญชาติเพื่อให้มารดาสามารถส่งผ่านสัญชาติแก่บุตรได้อย่างเท่าเทียมกับบิดา

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า