Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ผลสำรวจของบีโอเอระบุว่าประเทศไทยยังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเสนอแนะให้ปรับปรุงระบบราชการและกระบวนการที่ไม่จำเป็น

วันที่ 2 ธ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศในไทย ประจำปี 2563 พบว่านักลงทุนต่างชาติร้อยละ 96 ยังมั่นใจศักยภาพประเทศไทย แม้จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สาเหตุจากการที่ไทยมีสิทธิประโยชน์จูงใจกระตุ้นให้เกิดการลงทุน มีวัตถุดิบเพียงพอ และมีอุตสาหกรรมสนับสนุนพร้อม

นางสาวซ่อนกลิ่น พลอยมี ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี 2563 ในงานสัมมนาเรื่อง “ลงทุนไทย 2563: มุมมองอนาคตไทยในสายตาต่างชาติ” โดยได้สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 600 บริษัท พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจร้อยละ 96 มีแผนการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยร้อยละ 76.67 ยังคงรักษาระดับการลงทุน ในขณะที่ร้อยละ 19.33 มีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม แม้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

จากผลสำรวจพบว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขยายหรือรักษาระดับการลงทุนในประเทศไทยอันดับแรก คือการมีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนที่กระตุ้นให้ลงทุนในประเทศไทย อันดับสอง มีวัตถุดิบและชิ้นส่วน และอันดับสาม คือมีความพร้อมของอุตสาหกรรมสนับสนุน

ส่วนในประเด็นเรื่องผลกระทบจากโควิด-19 พบว่า ธุรกิจร้อยละ 63.17 ได้รับผลกระทบ แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ ธุรกิจร้อยละ 29.17 ได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ และมีธุรกิจร้อยละ 7.5 ไม่ได้รับผลกระทบ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ส่วนที่ต้องหยุดการดำเนินธุรกิจอยู่ที่ร้อยละ 0.17

“แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย แต่นักลงทุนยังมีแผนขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนมีความเห็นว่าประเทศไทยมีปัจจัยเอื้ออำนวยหลายด้าน ทั้งวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เพียงพอ มีบริการด้านการสื่อสาร ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ รวมทั้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน” นางสาวซ่อนกลิ่นกล่าว

โดยมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่นักลงทุนใช้และคาดว่าจะใช้มากที่สุด ร้อยละ 44.86 ตามมาด้วย มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ร้อยละ 37.74 และอันดับสาม คือมาตรการกระตุ้นการลงทุน ร้อยละ 31.45

ในส่วนของผลการสำรวจด้านความพึงพอใจต่อการบริการของบีโอไอ พบว่านักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจค่อนข้างมากเกือบทุกด้าน รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่รับทราบถึงการให้บริการของบีโอไอผ่านระบบออนไลน์ โดยระบบรายงานผลประกอบการและรายงานความคืบหน้าของโครงการ เป็นบริการที่มีการใช้งานมากที่สุดถึง ร้อยละ 75.94 รองลงมา คือระบบตรวจสอบสถานภาพเอกสารทางอินเทอร์เน็ต และการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับงานสิทธิประโยชน์ด้านวัตถุดิบ

นักลงทุนมีความเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยและบีโอไอควรมีการดำเนินการต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงระบบราชการให้มีประสิทธิภาพ การยกเลิกใบอนุญาตหรือกระบวนการต่างๆ ที่ไม่จำเป็น รวมไปถึงการมีแนวทางการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ชัดเจน เป็นต้น

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า