นักวิจัยอ็อกซ์ฟอร์ดพบ IO จีน แพร่ข่าวต้นตอโควิดในล็อบสเตอร์ ส่งออกจากสหรัฐฯ ไปยังอู่ฮั่น

พบเครือข่ายบัญชีทวิตเตอร์จำนวนมากพยายามเผยแพร่ข้อมูลเท็จอย่างเป็นระบบ อ้างต้นตอโควิด-19 มาจากสหรัฐฯ สุดท้ายถูกทวิตเตอร์ระงับใช้งานแล้ว

วันที่ 21 ต.ค. 2021 เว็บไซต์ NBC News จัดทำรายงานการสัมภาษณ์ มาร์เซล ชลีบส์ นักวิจัยด้านการบิดเบือนข้อมูลประจำมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ถึงการตรวจพบเครือข่ายเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเรื่องต้นตอของเชื้อโควิด-19 บนแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ เมื่อช่วงกลางเดือนก.ย. ที่ผ่านมา

โดยเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่ จา หลี่ยู่ เจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลจีนในเมืองโกลกาตา ประเทศอินเดีย ออกมาทวีตอ้างว่าเชื้อโควิด-19 อาจเข้าสู่จีนผ่านทางเมนล็อบสเตอร์ ที่ถูกส่งไปยังตลาดอาหารทะเลอู่ฮั่นในเดือนพ.ย. 2019 

เมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ นายชลีบส์ก็ได้เจอกับเครือข่ายบัญชีทวิตเตอร์กว่า 550 บัญชีที่เผยแพร่ข้อมูลในลักษณะเดียวกัน โดยมีการแปลเป็นหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาสเปน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาโปแลนด์ ภาษาเกาหลี หรือแม้กระทั่งภาษาละติน

ทั้งหมดได้ทวีตข้อความในเวลาใกล้เคียงกัน คือช่วง 8.00 น. ถึง 11.00 น. ตามเวลาประเทศจีน บางบัญชีดูเหมือนกับสร้างมาเพื่อเผยแพร่ข่าวปลอมโดยเฉพาะ และเป็นบัญชีที่มีผู้ติดตามน้อยมากหรือเป็นศูนย์ ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเคยเป็นบัญชีจริง แต่เหมือนกับถูกเปลี่ยนมือและใช้กระจายข้อมูลเท็จแทน

นายชลีบส์เผยว่าได้ส่งหลักฐานที่เขารวบรวมได้ให้กับทางทวิตเตอร์ ซึ่งส่งผลให้บัญชีเหล่านั้นถูกระงับการใช้งาน เนื่องจากขัดต่อนโยบายการใช้งานในด้านการใช้แพลตฟอร์มเพื่อหลอกลวงและสแปม

ปัจจุบันทวิตเตอร์กำลังทำการสืบสวนความเกี่ยวข้องของเครือข่ายเหล่านี้เกี่ยวกับปฏิบัติการของทางการจีน แต่กระบวนการอาจใช้เวลานานหลายเดือน จึงยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดในตอนนี้ว่าเป็นฝีมือของทางการหีิอไท้

การตรวจจับได้อย่างรวดเร็วในครั้งนี้ ทำให้เกิดผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากถูกตัดตอนเสียก่อนที่ข้อมูลจะแพร่กระจายไปไกล

ทางด้าน ไค หยาน โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหราชอาณาจักรออกมาตอบโต้ว่า จีนไม่สนับสนุนการปลอมแปลงและแพร่กระจายข้อมูลเท็จแต่อย่างใด พร้อมชี้ว่าจีนต่างหากที่ตกเป็นเหยื่อในเรื่องของข่าวปลอมที่พยายามโจมตีจีน โดยฝีมือของสำนักข่าวในสหรัฐฯ และชาติตะวันตกบางประเทศ