สรุปคดีไอซ์ หีบเหล็ก : ฆาตกรโรคจิตผิดมนุษย์

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ จับผู้หญิงยัดใส่หีบ ก่อนล็อกกุญแจให้ขาดใจตายก่อนนำศพไปฝัง ซึ่งเมื่อตำรวจสืบค้นกลับพบว่าฆาตกรคนนี้ เคยมีประวัติมาแล้วยาวเป็นหางว่าว กักขัง หน่วงเหนี่ยว ข่มขืน และทันทีที่รอดคุกก็ยังไม่หยุดทำพฤติกรรมชั่ว

นี่คือเรื่องราวตั้งแต่แรกของ “ไอซ์” เด็กชายที่มีฐานะร่ำรวย ได้มรดกมากกว่า 100 ล้านบาท แต่กลับเดินเข้าสู่วงจรอาชญากร และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าสุดท้ายแล้วเขาฆ่าคนไปกี่ศพ Workpoint News จะสรุปทุกอย่างของคดีไอซ์ หีบเหล็กให้เข้าใจใน 19 ข้อ

1) ปี พ.ศ.2526 มีคดีอันลือลั่น ในย่านบางแค เมื่อด.ญ.นวลปราง บุนนาค อายุ 15 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ สุดท้ายจับคนร้ายได้คือ นายผยอง แสนทวี โดยนายผยองทำการฆ่าหั่นศพ ด.ญ.นวลปรางและพยายามอำพรางคดี

2) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามสืบค้นและคิดว่าคนร้ายไม่ได้มีแค่ 1 คน เพราะคิดว่าคดีมีข้อพิรุธหลายจุด โดยเพ่งข้อสงสัยไปที่ นายเฉลิมชัย องค์วิศิษฐ์ เจ้าของตลาดองค์วิศิษฐ์ อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่สามารถสาวไปถึงตัวนายเฉลิมชัยได้ เนื่องจากในยุคนั้น ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ดีพอในการพิสูจน์ดีเอ็นเอ สุดท้ายทำให้จำเลยในคดีนี้ จึงมีแค่นายผยองเท่านั้น

3) 5 ปีต่อมา พ.ศ.2531 นายเฉลิมชัย ถูกยิงเสียชีวิต โดยภรรยาตัวเอง เป็นผู้ต้องสงสัยจ้างวานฆ่า โดยคาดการณ์ว่าหลังจากที่สังหารสามีแล้ว ภรรยาได้ทิ้งลูกชายเอาไว้ที่ไทย โดยเจ้าตัวบินหนีไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ ลูกชายคนที่พ่อโดนฆ่า และแม่หนีคดีไปต่างประเทศ มีชื่อว่า นายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ มีชื่อเล่นว่าไอซ์ ณ ตอนที่พ่อโดนสังหาร เขามีอายุ 9 ขวบ นายไอซ์โตมากับกลิ่นอายของคดีความ และการฆาตกรรมตั้งแต่เด็ก

4) ไอซ์ โตมาด้วยการเป็นเด็กที่มีฐานะดี เขามีทรัพย์สมบัติมหาศาลจากมรดกของพ่อราว 100 ล้านบาท และมีบ้านในซอยเพชรเกษม 47 เนื้อที่ 20 ไร่ นอกจากนั้นตอนวัยรุ่นยังมีหน้าตาดี ทำให้มีสาวๆติดพันมากมาย อย่างไรก็ตาม เพื่อนรุ่นพี่ของไอซ์เล่าว่า ไอซ์เริ่มเสพยาเสพติดหนักขึ้นและเริ่มมีอาการหลอน นอกจากนั้นยังชอบสะสมอาวุธต่างๆ โดยเฉพาะมีด ปืน และกุญแจมือ พกติดตัวไว้ตลอด โดยกุญแจมือนั้นมีไว้ใช้กับผู้หญิงที่เขาพาเข้าบ้าน โดยไอซ์ชอบจ่ายเงินซื้อผู้หญิงขายบริการมาใช้งานแบบไซด์ไลน์ และมีรสนิยมใช้ความรุนแรงระหว่างมีเซ็กซ์

5) ในปี 2551 นายไอซ์ติดคุกข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น และข่มขืนกระทำชำเรา รวมถึงครอบครองอาวุธปืนเถื่อน ติดคุกอยู่ 4 ปี จากนั้นพอออกจากคุกก็มาโดนคดีอีกครั้งในปี 2555 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้เยาว์อายุไม่เกิน 18 ปี และมียาเสพติดในครอบครอง คราวนี้ติดคุก 5 ปี โดนปล่อยตัวในปี 2560

6) พฤติกรรมของนายไอซ์หลังออกจากคุก ชาวบ้านที่ซอยเพชรเกษม 47 เล่าว่า นายไอซ์จะออกจากบ้านทุกคืน และพาผู้หญิงกลับมาที่บ้านเสมอ ราวๆเวลา 3.00 น. โดยก่อนเข้าบ้าน นายไอซ์จะแวะซื้อถุงยางอนามัยก่อนทุกครั้ง ซึ่งชาวบ้านระบุว่า ผู้หญิงแต่ละคนที่นายไอซ์พากลับมา ไม่เคยซ้ำหน้า และส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 17-25 ปี หลังออกจากคุกในรอบนี้ นอกเหนือจากเรื่องหิ้วสาวเข้าบ้านแล้ว นายไอซ์ยังดื่มเหล้าจัด พอเมาก็ชอบยิงปืนขึ้นฟ้า จนชาวบ้านต้องโทรไปแจ้งตำรวจให้เข้ามาดูพฤติกรรมหลายหน

7) เหตุการณ์ผ่านไป ถึงช่วงปลายปี 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม นายเฉลิมชล ชื่อเล่นเหลิม ซึ่งทำความผิดโทษฐานค้ายาเสพติดรายย่อย โดยตอนจับกุมนายเฉลิมชลเมายาอย่างหนัก และมีอาการหลอนยา จนพร่ำเพ้อว่ามีวิญญาณหญิงสาวตามหลอกหลอน และเพ้อว่าสาเหตุเพราะไปช่วยเจ้านายฝังศพอำพรางคดี

8 ) หลังจากนายเฉลิมชลได้สติ สร่างฤทธิ์ยาตำรวจจึงเค้นสอบอย่างหนักว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ จนนายเฉลิมชลยอมสารภาพว่า เจ้านายของตัวเองชื่อ นายอภิชัย หรือไอซ์ ทั้งคู่ได้รู้จักกันในคุก พอพ้นโทษมา นายไอซ์ก็จ้างให้ตัวเองเป็นลูกน้องคอยจัดการในเรื่องต่างๆ โดยย้อนกลับไปเดือนกรกฎาคม 2562 นายไอซ์ได้โทรเรียก ผู้หญิงรายหนึ่งชื่อกุ๊กกิ๊ก ซึ่งเป็นสาวไซด์ไลน์มาใช้บริการ แต่พอมีอะไรกัน เสร็จกิจเรียบร้อยแล้ว นายไอซ์ได้ทำร้ายร่างกาย น.ส.กุ๊กกิ๊ก ด้วยการใช้ของแข็งทุบไปที่ศีรษะจนหมดสติ

9) น.ส.กุ๊กกิ๊กยังไม่ตาย แต่นายไอซ์ อุ้มร่างกุ๊กกิ๊กยัดใส่หีบสังกะสีขนาด 40×80 เซนติเมตร จับอวัยวะทุกส่วนงอเข้าไปจนยัดลงไปในหีบได้ จากนั้นก็ล็อกกุญแจไม่ให้ น.ส.กุ๊กกิ๊กออกมาได้ สุดท้ายเป็นเวลาหลายชั่วโมง เธอก็ขาดอากาศหายใจตายอย่างทรมาน ซึ่งเมื่อเหยื่อเสียชีวิตแล้ว นายไอซ์ ก็โทรเรียกนายเฉลิมชล ให้มาจัดการศพ โดยลากศพออกมาจากหีบสังกะสี แล้วทำการฝังอำพรางศพ

10) หลังจากสืบข้อมูลจากนายเฉลิมชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพบว่ามีมูลที่จะเป็นความจริง โดยมีเด็กสาววัย 22 ปี คนหนึ่งชื่อน.ส.วรินทร์ธรณ์ ทำงานเป็นไซด์ไลน์ ถูกแจ้งความคนหายเอาไว้ช่วงกลางปี 2562 จริงๆ ตำรวจจึงเชื่อมโยงว่า อาจเป็นไปได้ที่ศพที่นายเฉลิมชล ช่วยฝังอาจเป็น น.ส.วรินทร์ธรณ์

11) วันที่ 9 มกราคม 2563 หน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 ได้บุกไปค้นบ้านของนายไอซ์ โดยในขณะที่ตำรวจกำลังจะเข้าไป นายไอซ์ตั้งลำปืนพร้อมยิงต่อสู้กับตำรวจด้วย แต่สุดท้ายก็โดนรวบตัวเอาไว้ได้ จากนั้นตำรวจแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรกคุมตัวไอซ์ เพื่อสอบสวน อีกชุดนำนายเฉลิมมาชี้จุดที่ฝังศพ ปรากฏว่า พอขุดดินลึกราว 2 เมตร ก็พบถุงดำห่อซ้อนกัน 4 ชั้น ด้านในคือศพของน.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊กที่หายตัวไปนั่นเอง โดยกุ๊กกิ๊กมีลักษณะเด่นคือด้านหลังมีรอยสักเป็นรูปปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ ดังนั้นแม้ใบหน้าจะไม่เหลือรูปทรงแล้ว เนื่องจากโดนฝังมานาน แต่จากลักษณะรอยสักทำให้ยืนยันได้ว่าเป็น นางสาวกุ๊กกิ๊กที่หายตัวไป

11) หลังจากนายไอซ์ โดนจับตัว ก็มีข้อมูลข่าวสารหลั่งไหลมาจากแหล่งต่างๆ ว่าเคยเห็นนายไอซ์หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้หญิงไว้ในบ้าน และอาจมีการทำฆาตกรรมเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการค้นบ้านในบริเวณอื่นด้วย มีการนำรถแบ็กโฮ 2 คัน ขุดเจาะทั่วบริเวณพื้นที่ เพื่อหาว่านายไอซ์ได้ซ่อนศพไว้ที่จุดไหนอีกหรือไม่ ภายในบ้านค้นพบมีดสั้น 48 เล่ม , มีดขนาดยาว 15 เล่ม, ปืนสั้น 1 กระบอก, ยาบ้า 78 เม็ด และ กัญชา ซึ่งตำรวจได้ยึดทั้งหมดเป็นหลักฐานเอาไว้ เพื่อขยายผลสืบสวนต่อไป

12) จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งนักประดาน้ำลงงมในบ่อน้ำบริเวณบ้าน ปรากฏว่านักประดาน้ำพบ ร่างผู้เสียชีวิตรายหนึ่งถูกผ้าห่อศพห่อหนึ่งชั้น แล้วมัดไว้กับดัมเบล และโซ่เพื่อถ่วงน้ำ จากนั้นก็เอาโครงเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นวงกบของบ้านนายไอซ์ ทับเอาไว้อีกทีใต้น้ำ เพื่อไม่ให้ศพลอยขึ้น และบนโครงเหล็กก็มีม้านั่งหินทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง นักประดาน้ำงมผ้าห่อศพขึ้นมา ก็พบว่าด้านในเป็นโครงกระดูกส่วนต่างๆ และกระจุกผม ซึ่งวิเคราะห์เบื้องต้น เป็นของเด็กสาววัยรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และแน่นอน ว่าไม่ใช่กุ๊กกิ๊กที่เจอศพไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจนับกระดูกทั้งหมด พบว่ามีถึง 326 ชิ้น จมอยู่ในบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ว่า ทั้ง 326 ชิ้นมาจากศพเดียวกันหรือไม่ ขณะที่เรื่องการระบุตัวตนของเหยื่อ ด้วยความที่ศพอยู่ในน้ำมานานมากแล้ว จึงไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้ตายคือใครในตอนนี้ นอกจากนั้นมีการค้นพบเสื้อผ้าของผู้หญิง ทั้งชุดเดรส และชุดชั้นใน ในบ่อน้ำ ซึ่งตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเอาไว้เช่นเดียวกัน

13) ในระหว่างที่มีการสืบค้นที่บ้านของนายไอซ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกตรวจค้นห้องพักในอพาร์ทเมนต์ที่นายไอซ์เปิดเช่าเอาไว้ด้วย ปรากฏว่าพบยาบ้า 2 พันเม็ด พร้อมยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่งจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมเตรียมเอาผิดในคดียาเสพติดด้วย

14) พ.ต.อ. จิรกฤติ จารุนภัทร์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เปิดเผยว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหา พบว่านายไอซ์ มีพฤติกรรมทางเพศแบบวิตถาร ชอบใช้ความรุนแรงในการซ้อมคู่นอน โดยนายไอซ์สารภาพว่าฆ่าจริง แต่ไม่มีเจตนาอย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ

15) น.ส.จันทร์ฉาย แฟนเก่าของนายไอซ์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายอภิชัย มีพฤติกรรมที่รุนแรงจริง และเชื่อว่าน่าจะมีศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม อำพรางอยู่ในบ้าน แต่ตัวน.ส.จันทร์ฉาย ปฏิเสธว่าเธอไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆกับการฆาตกรรมทั้งสิ้น

16) วันที่ 23 มกราคม 2563 ทีมนักประดาน้ำ ลงงมในบ่อต่อไป และในที่สุดก็ค้นพบหลักฐานชิ้นสำคัญอีก 1 อย่าง นั่นคือหีบเหล็ก ที่อยู่ในสภาพผุพัง โดยฝาหีบยังพบกุญแจล็อกขนาดใหญ่ ซึ่งเมื่อเปิดดูพบชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมาก ทั้งส่วนหัวกะโหลก ซี่โครง และท่อนขา รวมถึงมีดัมเบล เอาไว้ถ่วงหีบเหล็กไม่ให้ลอยขึ้นจากน้ำอีกด้วย ทำให้ในตอนนี้ ที่พบศพแล้ว คือ น.ส.กุ๊กกิ๊ก ที่ถูกฝังดินไว้ และอีก 2 ศพ คือศพในห่อผ้าที่ถูกวงกบทับเอาไว้ใต้น้ำ และอีกศพคือ ศพในหีบเหล็กอีกใบที่อยู่ในสภาพผุพัง

17) ในเวลานี้ ไอซ์ยังคงปิดปากเงียบไม่ยอมสารภาพว่าศพอื่นๆที่เจอในบ้านคือใคร และมีอีกกี่ศพ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลงมือสืบค้น ทั้งงมในบ่อน้ำ และปูพรมค้นทั่วบ้านทั้งพื้นที่ 20 ไร่ โดยยังไม่ยุติการค้นหาเพียงแค่นี้

18) ขณะที่มีเด็กสาวจำนวนมาก เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเคยเป็นเหยื่อของนายไอซ์ ถูกจับกักขังไว้ในบ้าน แต่โชคดีไม่โดนฆ่า และเอาตัวรอดมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเวลานี้เปิดรับเบาะแสทุกอย่าง ใครที่เคยมีเหตุการณ์ใดๆกับนายไอซ์ สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที และผู้ปกครองท่านใดที่มีลูกหลานหายตัวไป และคาดว่าอาจมีส่วนพัวพันกับนายไอซ์ก็สามารถข้อสอบถามข้อมูลจากตำรวจได้เช่นกัน

19) ส่วนประเด็นเรื่อง หากให้ความร่วมมือกับการสืบสวน นายไอซ์จะได้รับการจะลดโทษหรือไม่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า “พวกนักโทษและผู้ทำความผิดร้ายแรง ที่เป็นเหมือนพวกเดรัจฉานทางกฎหมายนั้น ไม่สมควรที่จะได้รับการลดโทษ โดยตัวอย่างนักโทษ เช่น นายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรฆ่า 6 ศพ หรือผู้ต้องหาคดีฆ่าหญิงสาวยัดถุงฝังดิน และ มือปืนฆ่า 3 ศพที่ร้านทอง คนเหล่านี้ไม่สมควรได้รับการลดโทษ”