SHARE

คัดลอกแล้ว

3 มีนาคม 2564 กลายเป็นวันที่เศร้าหมองสำหรับผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารในเมียนมา เพราะเป็นวันที่ทางการเมียนมาใช้กำลังอย่างรุนแรงสลายการชุมนุมในหลายพื้นที่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 38 คนในวันเดียว

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีอยู่คนหนึ่งเป็นเยาวชนอายุ 19 ปีที่ออกไปร่วมประท้วงต้านรัฐประหาร โดยในโลกออนไลน์ของเมียนมาได้แชร์ภาพขณะที่เธออยู่แนวหน้าต่อสู้กับกำลังเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่เธอจะเสียชีวิต สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวเมียนมาทั้งประเทศ

เรื่องราวของเธอเป็นอย่างไร วันนี้ workpointTODAY จะสรุปมาให้อ่านกัน

1.) การชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่เมืองมัณฑะเลย์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเป็นการแสดงพลังของชาวเมียนมาที่ไม่ต่างจากวันก่อนๆ นับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

การชุมนุมในครั้งนี้มีชาวเมียนมาเข้าร่วมจำนวนมาก หนึ่งในนั้นมีเยาวชนหญิงอายุ 19 ปีชื่อจอว์ ซิน (Kyal Sin) หรือ ‘Angel’ ซึ่งเป็นชื่อเล่นที่ทุกคนเรียกเธอ โดย ‘Angel’ เลือกที่จะไปอยู่เป็นแนวหน้าบริเวณแนวกั้นของผู้ชุมนุม ซึ่งในเวลาต่อมา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่เมียนมาสลายการชุมนุม

2.) ‘Angel’ โดดเด่นในการชุมนุมเป็นอย่างมาก เพราะท่าทางของเธอที่ดูจริงจัง โดยในโลกออนไลน์มีภาพขณะที่เธอยืนคุมเชิงประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ด้วยสายตาที่ไม่ยอมจำนน

ภาพที่แชร์ต่อกันมายังเห็นได้ว่า ‘Angel’ เตรียมพร้อมเป็นอย่างดีในการไปร่วมชุมนุม จากการที่เธอเตรียมแว่นสำหรับป้องกันการระคายเคือง หากถูกปืนฉีดน้ำแรงดันสูงหรือแก๊สน้ำตา เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่เธอเลือกใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ เพื่อความกระฉับกระเฉง

เสื้อยืดที่ ‘Angel’ สวมอยู่ มีข้อความ “Everything will be OK,” หรือ “ทุกอย่างจะโอเค” เขียนเอาไว้

3.) เพื่อนของ ‘Angel’ ที่ไปร่วมชุมนุมด้วยบอกว่า เธอตั้งใจจะไปเป็นการ์ดให้กับผู้ชุมนุมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว โดยก่อนเสียชีวิต ‘Angel’ ช่วยเตือนเพื่อนผู้ชุมนุมให้ระวังอันตรายจากอาวุธของเจ้าหน้าที่ แถมยังช่วยถีบท่อน้ำให้แตก เพื่อให้ผู้ชุมนุมใช้น้ำล้างหน้า ลดอาการปวดแสบปวดร้อนจากแก๊สน้ำตาด้วย

4.) สาเหตุที่ ‘Angel’ ตั้งใจจะไปเป็นด่านหน้าอาจเป็นเพราะเธอคิดว่าตัวเองแข็งแรงกว่าคนอื่น จากการที่เธอเป็นถึงแชมป์เทควันโด มีทักษะเกี่ยวกับศิลปะการป้องกันตัว แถมยังเป็นนักเต้นในคลับเต้นที่เมืองมัณฑะเลย์ด้วย

5.) แม้จะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีและมีร่างกายที่แข็งแรง แต่ก็ไม่อาจต้านทานกระสุนปืนได้ โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนจริง ‘Angel’ ถูกยิงเข้าที่บริเวณด้านข้างของศีรษะ และเสียชีวิตในที่สุด

6.) การเสียชีวิตของ ‘Angel’ กลายเป็นที่สนใจของชาวเมียนมาทั้งประเทศ โดยบางส่วนนำเรื่องราวชีวิตของเด็กผู้หญิงคนนี้มาเผยแพร่ต่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเธอเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก

7.) เฟซบุ๊กของ ‘Angel’ บันทึกเรื่องราวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งทั่วไปของเมียนมา โดยเธอได้โพสต์ภาพขณะที่ตัวเองจุมพิตกับนิ้วมือที่เปื้อนด้วยน้ำหมึก ซึ่งเป็นการทำสัญลักษณ์หลังเข้าคูหาเลือกตั้ง

เธอโพสต์ข้อความว่า การเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรกในชีวิต และเธอได้ทำหน้าที่นั้นเพื่อประเทศชาติแล้ว ซึ่งการเลือกของเธอก็มาจากสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ

เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหาร ‘Angel’ แสดงจุดยืนบนเฟซบุ๊กชัดเจนว่า ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารด้วยการออกไปร่วมชุมนุม พร้อมโบกธงสัญลักษณ์ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD)

8.) ดูเหมือน ‘Angel’ จะรู้ดีว่า เจ้าหน้าที่มีแนวโน้มใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมมากขึ้น จนอาจมีความเสี่ยงถึงชีวิต ทำให้เธอตัดสินใจโพสต์ข้อมูลสุขภาพของตัวเอง สำหรับเป็นข้อมูลให้แพทย์ในกรณีฉุกเฉิน พร้อมระบุเจตนารมณ์ว่า จะบริจาคร่างกายหากเสียชีวิต

เพื่อนคนหนึ่งของ ‘Angel’ เปิดเผยว่า เธอได้ส่งข้อความมาสั่งเสียเป็นการส่วนตัวว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้คุยกัน ก่อนจะบอกรักและขอให้อย่าลืมกัน

9.) การเสียชีวิตของ ‘Angel’ กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่เมียนมา โดยเฉพาะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ซึ่งนางคริสติน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ (Christine Schraner Burgener) ผู้แทนพิเศษด้านเมียนมาประจำองค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตมากถึงอย่างน้อย 38 คน ซึ่งถือว่าเป็นวันที่นองเลือดที่สุดนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยผู้แทนด้านเมียนมาประจำสหประชาชาติเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นต่อกองทัพเมียนมา ขณะเดียวกันโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทุกชาติออกมาส่งเสียงประณามการใช้ความรุนแรงของกองทัพเมียนมาต่อประชาชน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า