Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ ( 3 ต.ค.2566) ดัชนี SET (SET Index) ปรับตัวลง 21 จุด หรือ 1.43% มาอยู่ที่ 1,448.46 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33,033.37 ล้านบาท ในช่วงเช้าทำจุดสูงสุดที่ 1,459.99 จุด และต่ำสุดที่ 1,443.24 จุด

‘ณัฐชาต เมฆมาสิน’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นโลก โดยตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงจากปัจจัยกดดันเรื่องของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (US Bondyield) ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมไปถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากการ Price In มุมมองการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(Fed) อีกหนึ่งครั้งในการประชุมช่วงปลายเดือนต.ค.นี้

ดังนั้นเมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงทำสถิติใหม่ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากฝั่งตลาดฮ่องกง ในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง Alibaba และหุ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลง และส่งผลกระทบมาถึงประเทศอื่น ๆ ในฝั่งเอเชียด้วยเช่นกัน จากปัจจัยทั้งหมดนี้ทำให้ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงและมากกว่าตลาดหุ้นรอบบ้าน

สำหรับภาพตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายคาดหวังว่าตลาดน่าจะฟื้นตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยเพราะปรับลงไปค่อนข้างเยอะ โดยคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดอยู่ในโซนเหนือ 1,450 จุด ซึ่งในโซนจิตวิทยาหากปิดเหนือ 1,450 จุด น่าจะทำให้ความกังวลลดน้อยลง

ด้านบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส เปิดเผยทิศทางเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วล่าสุดทะลุระดับ 37 บาท/ดอลลาร์ ขึ้นมา ภาวะดังกล่าวถือว่าน่ากังวลสำหรับทิศทางFund Flow โดยอาจทำให้เม็ดเงินยังไม่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดการเงินบ้านเรา

ประกอบกับด้านบทวิเคราะห์จาก KSecurities Research มิเชล โบว์แมนหนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดยังคงสนับสนุนให้ทางธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

ซึ่งอ้างอิงจากดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินในตระกร้าจะเพิ่มขึ้น 0.74%แตะที่ระดับ 107.52 ส่งผลให้กดดันให้ ‘ราคาทองคำ’ทำสถิติปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันที่ 6 มาอยู่ที่ 1823.76 เหรียญออนซ์ เป็นผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง 

อย่างไรก็ตามยังพอมีความหวัง เนื่องจากผลการศึกษาข้อมูลย้อนหลังของเรา พบว่าไตรมาส 4 ของปี ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่าเงินบาทมักจะมีการกลับมาแข็งค่าเฉลี่ย 3.5% สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ล่าสุด World Bank ปรับลด GDP Growth ปี 2566 ของบ้านเราลงมาอยู่ที่  3.4% เดิม 3.6% ส่วนปี 2567 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.5% เดิม 3.7% เชื่อว่าตัวเลขดังกล่าวไม่มีผลกระทบทางลบต่อตลาดหุ้น เนื่องจากแม้ปรับลงมาแล้วฐาน GDP Growth ก็ยังสูงกว่าประมาณการของสำนักวิจัยอื่น ๆ

ทั้งนี้ประเมินว่าตั้งแต่ไตรมาส 4/66เป็นต้นไป จะเริ่มเห็นแรงขับเคลื่อนที่มาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมากขึ้น และน่าจะเป็นจุด Peakในช่วงไตรมาส 2/67 การฟื้นตัวของ SET Index ดูเหมือนยังยากลำบาก แต่ก็เชื่อประการหนึ่งว่า จะมีDownside ที่จำกัดเช่นกัน วันนี้ประเมินกรอบแนวรับที่ 1460 –1482 จุด สำหรับและหุ้น Top Pickวันนี้เลือก GULF, HMPRO และ PLANB




podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า