Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

องค์การอนามัยโลกร้องขอทางการจีนเปิดเผยข้อมูลโควิด-19 เรียลไทม์ ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ ชี้เป็นไปเพื่อช่วยจีนและโลกประเมินความเสี่ยง หลังกังวลข้อมูลการระบาดในจีนไม่ตรงกับความเป็นจริง ขณะที่ก่อนหน้านี้ทางการจีนยืนยันเปิดเผยข้อมูลโปร่งใส
.
องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาร้องขอไปยังรัฐบาลจีนเมื่อวานนี้ (30 ธ.ค.) ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนเปิดเผยข้อมูลการระบาด ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลและผู้เสียชีวิต รวมถึงอัตราการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศแบบเรียลไทม์
.
แถลงการณ์องค์การอนามัยโลกย้ำถึงความสำคัญของการติดตามสถานการณ์ และการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะในเวลาที่เหมาะสมว่าจะมีส่วนช่วยจีนและประชาคมโลก ประเมินความเสี่ยงการระบาด รวมถึงเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
ท่าทีล่าสุดจากองค์การอนามัยโลกเกิดขึ้นหลังหลายฝ่ายแสดงความกังวลถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีน หลังจีนผ่อนคลายมาตรการโควิดเป็นศูนย์ และจะเริ่มเปิดประเทศ 8 ม.ค.ท่ามกลางรายงานที่ชี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนพุ่งสูง อีกทั้งยังมีรายงานจำนวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งขัดแย้งกับท่าทีที่รัฐบาลจีนกำลังสื่อสารออกมา

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. หนังสือพิมพ์โกลบอล ไทม์ส กระบอกเสียงรัฐบาลจีน รายงานอ้างผู้เชี่ยวชาญในประเทศจีน ยืนยันว่า ทางการจีนให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริง และการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ พร้อมปฏิเสธข่าวลือว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่จีนเปิดเผยออกมาน้อยกว่าความเป็นจริง
.
ขณะที่รายงานจากบริษัทข้อมูลด้านสาธารณสุขอังกฤษ Airfinity ระบุในวันพฤหัสบดี (29 ธ.ค.) ว่า อาจมีประชาชนเสียชีวิตในจีนจากโควิด-19 ราว 9,000 คนต่อวัน และยอดผู้เสียชีวิตรวมจากโควิดนับตั้งแต่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมาในจีนนั้น อาจแตะระดับ 100,000 คน
.
ความกังวลถึงสถานการณ์การระบาดในจีน ทำให้ในตอนนี้มีหลายประเทศออกมาตรการเข้มงวดต่อนักเดินทางจากจีนเข้าประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ สเปน เกาหลีใต้ อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่นและไต้หวัน โดยมีฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรเป็นสองชาติล่าสุดที่ระบุว่า จะร้องขอผลตรวจโควิด-19 ในช่วงไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากจีน และจะมีการสุ่มตรวจนักเดินทางที่มาถึงสนามบินด้วย
.
มาตรการเหล่านี้ทำให้สื่อทางการจีนออกมาแสดงความไม่พอใจ โดยมองว่ามาตรการดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติต่อจีน
.
ที่มา BBC, CNA, Global Times, VOA

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า