Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

#explainer พิมรี่พาย กว้านซื้อตั๋วศึกแดงเดือดที่จัดในไทย มาถึง 20,000 ใบ และถ้าเป็นไปตามที่กล่าวอ้าง ในการขายครั้งนี้เธอจะต้องขาดทุนมากถึง 90 ล้านบาทเต็มๆ คำถามคือ เธอทำแบบนั้นเพื่ออะไร workpointTODAY จะสรุปสถานการณ์เรื่องตั๋วแดงเดือดให้แบบเข้าใจง่ายใน 13 ข้อ

1) ฟุตบอล The Match เกมระหว่างลิเวอร์พูล ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ประเทศไทย ประกาศจัดแข่งวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 แต่เปิดขายบัตรตั้งแต่ 2 เมษายน ล่วงหน้าก่อนเตะ 3 เดือน ด้วยความคาดหมายว่า จะมีคนซื้อถล่มทลาย แต่สุดท้ายปริมาณคนซื้อไม่เยอะอย่างที่คิด หลังจากผ่านมา 2 เดือน ยอดขายยังเหลือมากกว่า 2 หมื่นใบ

สาเหตุที่ยอดขายยังเหลือขนาดนั้น เพราะเรนจ์ราคาอยู่ในระดับที่สูงมาก ใบต่ำสุดราคา 5,000 บาท ส่วนใบแพงสุดราคา 25,000 บาท โดยมีข้อเปรียบเทียบสำคัญ เนื่องจากลิเวอร์พูล จะไปแข่งกับคริสตัล พาเลซ ในวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยมีราคาค่าตั๋วเริ่มต้น 3,800 บาท และ แพงสุดเพียง 7,500 บาทเท่านั้น

นอกจากนั้น ด้วยฟอร์มของลิเวอร์พูลที่พลาด 2 แชมป์ใหญ่ ในโค้งสุดท้าย และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จบอันดับ 6 เท่านั้นในพรีเมียร์ลีก ทำให้ความคักคัก และความต้องการแย่งชิงตั๋วเข้าชม ลดลงจากเดิมมาก สุดท้ายก็ไม่สามารถขายได้หมด

2) ทางผู้จัดการแข่งขัน ได้ทำการแก้สถานการณ์ ในวันที่ 9 มิถุนายน ด้วยการดึงแจ๊คสัน หวัง ศิลปินจากวง Got7 เข้ามาจัดมินิคอนเสิร์ต ก่อนฟุตบอลจะแข่ง โดยมีการวิเคราะห์ว่าต้องการใช้พลังของแฟนคลับแจ๊คสัน หวัง ที่มีคนตามในอินสตาแกรมมากกว่า 28 ล้านคน มาช่วยในการซื้อตั๋วที่เหลืออยู่ให้หมด อย่างไรก็ตาม ยอดคนซื้อบัตร ไม่ได้เพิ่มจากเดิมมากนัก

3) วันที่ 23 มิถุนายน 2565 อีก 20 วัน ฟุตบอลจะแข่ง เกิดเหตุสำคัญขึ้นเมื่อ “พิมรี่พาย” แม่ค้าชื่อดัง เจ้าของเพจ พิมรี่พายขายทุกอย่าง ที่มีคนติดตาม 8 ล้านคนได้ไลฟ์สด โดยยืนยันว่า เธอไปเหมาซื้อบัตรแข่งขัน เกมลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในไทย จำนวน 20,000 ใบ เอาไว้ในมือ และประกาศขาย ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดถึง 25%

โดยตั๋วที่หน้าบัตรราคา 15,000 บาท จำนวน 1 หมื่นใบ เธอขายแค่ 11,000 บาท ส่วนตั๋วราคา 20,000 บาท อีก 1 หมื่นใบ ขายลดราคาเหลือเพียง 15,000 บาทเท่านั้น และหลายๆ ที่นั่งอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ ด้วย

4) ซึ่งเมื่อพิมรี่พายประกาศออกมาแบบนี้ กลุ่มแฟนบอลที่ซื้อบัตรในราคาปกติตั้งแต่วันแรก ออกมาโวยวายไปทางผู้จัด Fresh Air Festival ทันที ว่าแอบเอาไปปล่อยให้พิมรี่พายในราคาที่ถูกกว่าราคา Official หรือไม่ ทำไมพิมรี่พายถึงสามารถขายบัตรในราคาที่ต่ำกว่าปกติ 25% ได้

5) วินิจ เลิศรัตนชัย ผู้บริหารของ Fresh Air Festival อธิบายว่า “พิมรี่พายติดต่อขอซื้อบัตรเข้ามาเอง ก็ขายให้ในราคาปกติ ไม่ได้ลดราคา แต่เขาไปจัดกิจกรรมของเขาเอง” คำอธิบายคือ พิมรี่พายยอมจ่ายเงินราคาเต็ม 350 ล้านบาท สำหรับบัตรแดงเดือด 20,000 ใบ เอามาขายต่อในเพจของตัวเอง

6) ปัญหาคือเมื่อพิมรี่พายลดราคา 25% แบบนั้นแล้ว ต่อให้ขายบัตรหมดทุกใบ เธอก็จะได้เงินเพียง 260 ล้านบาทเท่านั้น ขาดทุนไปเต็มๆ 90 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่า การทำธุรกิจที่ต้องขาดทุน 90 ล้านบาทอย่างแน่นอน มีทางเป็นไปได้ที่พิมรี่พายจะยอมเจ็บตัวฟรีๆ หรือไม่

7) นอกจากประเด็นเรื่องการยอมขาดทุนแล้ว อีกหนึ่งประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือระหว่างการไลฟ์ พิมรี่พายพูดว่า เธอได้โควต้าพิเศษสามารถพาลูกค้าไปนั่งกินข้าวโต๊ะเดียวกันกับแจ๊คสัน หวังได้ ในตอนที่เขามาเยือนประเทศไทย “เดี๊ยน จะเอารายชื่อของเพื่อนที่ซื้อทั้งหมด มาจับสลากไปกินข้าวกับแจ๊คสัน หวัง ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าไปกันกี่คน เขาให้ไปน้อย กูกำลังขอให้ได้เยอะกว่านั้นอยู่ กูยังไม่พูดว่ากี่คน”

“พิมรี่ (นั่งตรงกลาง) เพื่อนรัก (นั่งทางซ้าย) เพื่อนรัก (นั่งทางขวา) ฝั่งตรงข้ามเป็นแจ๊คสัน หวัง นั่งแดกข้าวกัน”

นอกจากนั้นพิมรี่พายยังกล่าวด้วยว่า คนที่ซื้อบัตรกับเธอ มีสิทธิ์จะไปนั่งกินอาหารร่วมกับนักฟุตบอลของทั้งลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอีกด้วย

8) เรื่องนี้ทำให้กลุ่มแฟนคลับของแจ๊คสัน หวัง ไม่พอใจทันที เนื่องจากทางผู้จัดเหมือนให้ อภิสิทธิ์กับพิมรี่พาย เป็นกรณีพิเศษ สามารถไปนั่งกินข้าวกับศิลปินได้ ซึ่งชาวเน็ตในโลกออนไลน์ตั้งประเด็นว่า พิมรี่พายพูดจริงหรือเปล่าเรื่องดินเนอร์ หรือแค่โฆษณาให้ดูหวือหวาเท่านั้น

9) ผู้จัดงาน Fresh Air Festival ออกหนังสือชี้แจงทันทีว่า “ไม่มีการจัดมื้อพิเศษกับนักฟุตบอลทั้งสองสโมสร หรือแจ๊คสัน หวัง ให้กับแฟนคลับตามข่าวที่นำเสนอ” เรื่องนี้จึงกลายเป็นประเด็นที่พิมรี่พายถูกโจมตี ว่าที่ไลฟ์มา ว่าลูกค้าที่ซื้อตั๋วจะมีลุ้นได้กินข้าวกับแจ๊คสัน หวัง ก็เป็นเพียงแค่คำโกหกหรือไม่

10) อย่างไรก็ตามสถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว เมื่อวินิจ เลิศรัตนชัย ให้สัมภาษณ์กับช่อง PPTV โดยระบุว่า เรื่องการกินข้าวกับแจ๊คสัน หวัง มีโอกาสเกิดขึ้นจริง โดยจะเป็นสมนาคุณให้กับลูกค้ารายใหญ่ และผู้สนับสนุน เพื่อเป็นการขอบคุณ ส่วนสิทธิ์ว่าลูกค้ารายใหญ่ จะเอาไปแจกใครนั้นทาง Fresh Air Festival ควบคุมไม่ได้

11) เมื่อวินิจตอบกลับแบบนี้ ทำให้พิมรี่พาย แชร์ข่าวดังกล่าวรัวๆ ในหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง เพื่อคอนเฟิร์มว่า เธอได้สิทธิ์พาลูกค้าที่ซื้อตั๋วเข้าไปดินเนอร์กับแจ๊คสัน หวังจริงๆ ตามที่ประกาศไว้ในไลฟ์ เพราะถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ของ Fresh Air Festival เธอไม่ได้พูดโกหกแต่อย่างใด

12) ประเด็นเรื่องดินเนอร์พิเศษของพิมรี่พายจบไป ประเด็นสำคัญต่อเนื่อง ที่อยู่ในกระแสสังคมตอนนี้ คือการที่พิมรี่พายเอาบัตรแดงเดือดมาขาย ในเพจของตัวเองนั้นในราคาที่ถูกลงกว่าปกติถึง 25% นั้น จะทำให้เธอขาดทุนรวมมากถึง 90 ล้านบาท นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือไม่ สำหรับคนที่ประกอบอาชีพแม่ค้า โดยวินิจยืนยันว่า ผู้จัดขายในราคาเต็มไม่มีส่วนลดใดๆ

ประเด็นนี้มีข้อสงสัยสำคัญ คือ 20,000 ใบของพิมรี่พายเอามาจากไหน? โดยวินิจอ้างว่า เป็นโควต้าที่ดึงกลับมาจากต่างประเทศ ไม่ใช่ตั๋วที่ขายในประเทศ อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 วินิจเคยให้สัมภาษณ์ว่า บัตรทั้งหมดในอีเวนต์นี้จะมี 60,000 ใบ โดยแบ่งเป็น

  • 6,000 ใบเป็นของสปอนเซอร์และสื่อมวลชน
  • 10,000 ใบ เอาไว้ทำแพคเกจท่องเที่ยวร่วมกับแอร์เอเชีย
  • 44,000 ใบ สำหรับบัตรที่ขายในระบบ

จากบทสัมภาษณ์ของวินิจ แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีโควต้าของต่างประเทศในปริมาณ 20,000 ใบตามที่กล่าวอ้าง นอกจากนั้น ในเว็บสโมสรทั้งลิเวอร์พูล และแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถหาซื้อตั๋วได้ด้วย ที่มาของบัตรแข่งขันที่พิมรี่พายนำมาขาย จึงเป็นปริศนาอยู่จนถึงวันนี้

13) บทสรุปของเรื่องนี้ ที่ยังคงเป็นปริศนา คือเจตนาในการขายบัตรชมเกมแดงเดือดของพิมรี่พาย ว่าคืออะไรกันแน่ ระหว่างช่วยเหลือฝั่ง Fresh Air Festival ให้ขายตั๋วให้หมด ผ่านทางช่องทางเพจของตัวเอง กับอีกกรณีหนึ่งคือ ต้องการนำตั๋วมาขายให้ลูกค้าของตัวเอง เพื่อส่งเสริมการขายในเพจ แม้จะทราบดีว่า ต้องขาดทุนอย่างแน่นอนขั้นต่ำ 90 ล้านบาทก็ตามที

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า